ช่วงนี้มีข่าวผู้ใช้ไอโฟนที่ยกหูคุยระหว่างชาร์จมือถืออยู่ ถูกไฟดูดเสียชีวิตบ้าง ถูกไฟดูดอาการโคม่าบ้าง เป็นกรณีศึกษาที่ถึงจะน่าเศร้าแต่ก็น่าสนใจและเป็นโอกาสอันดีที่จะมาเตือนตัก เอ้ย ตักเตือน ถึงสาเหตุที่เป็นไปได้ของการถูกไฟดูดผ่านโทรศัพท์มือถือนี้ตามหลักวิทยาศาสตร์
ทำไมไฟถึงดูดผ่านมือถือได้
อาจจะโทษไอโฟนว่าเพราะบอร์ดี้เป็นโลหะ ก็เลยถูกไฟดูดสินะ แต่ความจริงมีสองอย่าง (ใครว่าความจริงมีหนึ่งเดียวห๊ะ โคนัน?!?)
– ทั้งสองกรณีที่เกิดไฟดูดมันหาใช่บอร์ดี้โลหะไม่ แต่เป็นกระจก ที่มีบางส่วนเป็นโลหะ เพราะทั้งคู่ถูกไฟดูดผ่าน iPhone 4 ไม่ใช่ iPhone 5
– โลหะสามารถ “นำไฟฟ้า” ได้ แต่มันดูดเองไม่ได้ มันต้องมีไฟฟ้าที่แรงพอจะดูด ซึ่งไฟจาก Adapter ที่ไหลออกมาเพียง 5V 1-2A ไม่สามารถทำให้คนตายได้ เพราะร่างกายคนเรามีความต้านทานสูงพอที่จะทำให้กระแสไฟเหล่านี้ไม่ไหลเข้ามาในร่างกาย 5V นี่ถือว่าน้อยนิดมาก ดังนั้นฟันธงได้ว่าไฟไหลมาจากไฟบ้านแน่นอน
แล้วถามว่าไฟบ้านจะไหลผ่าน Adapter เข้ามาได้อย่างไร? หากพูดถึงการทำงานของ Adapter มันคือขดลวดอาบน้ำยาที่วางขนานกันสองขด โดยไม่ได้สัมผัสกัน หากแต่ห่างกันเพียงเล็กน้อย เพื่อให้ไฟ 220V สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้า แล้วไปเหนี่ยวนำอีกขดหนึ่งให้เกิดกระแสไฟฟ้าขาออก หาก Adapter ไม่ได้มาตรฐาน (ขอให้เรียกว่าผลิตแบบชุ่ยๆก็คงจะเหมาะกว่า) ก็มีโอกาสที่ขดลวดนั้นจะมาสัมผัสกันเมื่อใช้ไปได้สักพัก และแน่นอน หากมันสัมผัสกัน ไฟ 220V ก็จะไหลตรงเข้าสู่สายชาร์จและตรงสู่โทรศัพท์มือถือทันที และนี่เองคาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุหลักของการถูกไฟดูดทั้งสองกรณี
ทั้งนี้ ขอหมายเหตุว่าเป็นการคาดเดาตามหลักที่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเราก็ไม่ได้ไปอยู่ตรงนั้น รอผลการสืบสวนอย่างเป็นทางการอีกทีละกัน
มีคนถามว่าแล้วสาเหตุจะเกิดจากสายชาร์จไม่ได้มาตรฐานได้หรือไม่? อันนี้ตอบได้เลยว่าไม่เกี่ยวครับ เพราะถึงสายชาร์จจะไม่ดีจนไฟรั่ว แต่ไฟจาก Adapter มาตรฐานก็ไม่อาจจะทำอันตรายมนุษย์ได้
จนถึงตอนนี้คงเข้าใจแล้วว่าหากใช้ Adapter ไม่ได้มาตรฐาน ถึงตายได้ง่ายๆเลยนะ นี่เป็นภัยใกล้ตัวที่หลายคนไม่รู้ จึงขอเตือนไว้เป็นอุทาเห่า เอ้ย อุทาหรณ์ หากจะซื้อที่ชาร์จสำรอง ขอให้ซื้อของแท้หรือของที่ได้รับรองมาตรฐาน อย่าไปซื้อมั่วซั่วเพราะเห็นว่ามันถูก เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายนะจ๊ะ
ไฟดูดแค่ไหนถึงจะตาย
ทำไมไฟดูดถึงตาย? เพราะร่างกายเราก็เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบหนึ่งครับ หัวใจที่เต้นได้ก็เพราะร่างกายสร้าง Pulse ไฟฟ้ามากระตุ้น ระบบประสาท กล้ามเนื้อ รวมถึงสมอง ก็มีไฟฟ้าวิ่งด้วยทั้งสิ้น แต่ปริมาณไฟฟ้าที่อยู่ในร่างกายเรานั้นมีปริมาณตัวเลขที่ต่ำมาก คือแรงดัน 150 mV และกระแสไฟฟ้า 10 uA
การที่เจอไฟบ้านดูดก็เท่ากับทำให้ระบบร่างกายรวนด้วยกระแสไฟฟ้าที่มากกว่าร่างกายเป็นพันเท่า จนระบบในร่างกายล้มเหลวเป็นส่วนๆ หากไปกระทบกับหัวใจหรือสมองก็จะถึงแก่ชีวิตได้อย่างง่ายดาย (กรณีที่เกิดเยอะสุดคือหัวใจล้มเหลว) หรือถ้าโดนสายไฟฟ้าแรงสูง(ปรี้ด)ตามเสาไฟฟ้าดูด ร่างกายก็จะไหม้ทันทีเพราะความร้อนที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านร่างกาย
แล้วการที่ไฟดูดจะอันตรายขนาดไหน เราดูจากสี่อย่างด้วยกัน
– กระแสไฟฟ้า (แอมป์) – ไฟฟ้าแค่เกิน 50 มิลลิแอมป์ก็ทำให้ร่างกายถึงแก่ชีวิตได้แล้ว โดยหัวใจอาจจะเต้นไม่เป็นจังหวะจนถึงขั้นหัวใจสูบฉีดเลือดไม่ได้และล้มเหลวในที่สุด ถ้าต่ำกว่านั้นยังแค่มีผลกระทบแบบไม่รุนแรงมากนัก
– ระยะเวลา – เชื่อว่ามีคนจำนวนมากเคยโดนไฟ 220V ดูด (ผมก็เคย) แต่ก็ยังมาอ่านบทความนี้ก็ได้ ไม่เสียชีวิตแต่อย่างใด นั่นก็เพราะว่าระยะเวลาการถูกดูดน้อยมาก (หน่วยมิลลิวินาที) กระแสไฟฟ้าเลยเข้าร่างกายไม่มาก แต่หากค้างไว้นานกว่านั้นหน่อยหละก็ อื้ม…
– บริเวณที่ถูกดูด – ไฟดูดเกิดจากการที่อิเลคตรอนวิ่งผ่านร่างกายเราเพื่อหาทางออกของชีวิต(คือพื้นนั่นเอง) โดยไฟฟ้ามีคุณสมบัติอย่างหนึ่งคือจะวิ่งไปหาทางออกที่ใกล้ที่สุด และจะไม่ว่อกแว่กไปไหนเท่าไหร่นัก แต่ก็จะมีว่อกแว่กบ้างหากต้องการที่ระบาย (หากนึกภาพไม่ออกให้นึกภาพฟ้าผ่า) ดังนั้นหากถูกดูดที่ตำแหน่งต่างๆกันไป ก็จะส่งผลกระทบต่างๆกันไป เช่นหากดูดที่มือ มันก็จะวิ่งผ่านหัวใจจนหัวใจล้มเหลวได้ แต่ถ้าถูกดูดที่เท้าอาจจะไม่กระทบต่อหัวใจมากนัก (แต่ก็กระทบบ้างอยู่ดี)
– ความต้านทานของร่างกาย ณ ขณะนั้น – ร่างกายมนุษย์ตอนแห้งสนิทจะมีความต้านทานราว 50,000 – 100,000 โอห์ม (แปรผันตามประเทศ เผ่าพันธุ์และสภาพอากาศด้วย) แต่ตอนตัวเปียก ความต้านทานจะลดฮวบไปเหลือเพียง 1,000 โอห์มเท่านั้น และยิ่งความต้านทานต่ำ กระแสไฟฟ้าก็จะเข้ามาได้เยอะ โอกาสเสียชีวิตก็จะสูงขึ้น เข้าใจหรือยังว่าทำไมตอนเด็กๆ ครูถึงสอนว่าถ้าตัวเปียกห้ามใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ก็เพราะสาเหตุนี้นี่แหละ
ของแท้ใช้ Switching ปลอดภัยกว่า
Adapter แท้จริงแล้วมีสองแบบหลักๆคือแบบขดลวดกับแบบ Switching ซึ่งแบบหลังจะเล็กกว่าและไม่มีขดลวด ซึ่ง Adapter ของแท้จำนวนมาก (รวมทั้ง Apple) เปลี่ยนไปใช้ Switching หากเป็นของแท้จะมี Safety Approval พร้อมระบบป้องกันไฟลัดวงจร ทำให้ไม่เกิดไฟรั่วออกมาจนคนเสียชีวิต นี่เป็นอีกเหตุผลที่ของแท้ปลอดภัยกว่า หากเป็นของปลอมก็เป็นไปได้ทุกอย่าง อาจจะเป็นแบบขดลวด หรือถ้าเป็นแบบ Switching ก็ไม่ได้มาตรฐาน อาจจะลัดวงจรได้สักวันหนึ่ง
สรุปแล้ว ตอนนี้เราเข้าสู่ยุคหากไม่มีไฟฟ้าใช้ก็คงจะฆ่าตัวตายกันไปครึ่งโลก เรียกว่าไฟฟ้าเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆ ทุกคนจึงจำเป็นต้องเรียนรู้และเข้าใจไฟฟ้าให้มากขึ้น อย่างแรกที่ต้องพึงระลึกอยู่เสมอคือ ให้ใช้สินค้าที่ได้มาตรฐานเท่านั้น ไม่ใช่แค่ Adapter หากแต่ทุกอย่างเลยไม่ว่าจะเป็นปลั๊กไฟ แบตเตอรี่ ยันโทรศัพท์มือถือ มันไม่ตลกเลยที่จะต้องมาตายเพื่อประหยัดเงินเพียงไม่กี่บาท กว่าจะเกิดมากว่าจะโตอ่านะ
ส่วนกรณีที่มือถือยี่ห้อดังราคาสองหมื่นกว่าๆระเบิดนั้นก็ … ตัวใครตัวมันจ้า
เห็นด้วยครับ พยามใช้ของแท้กันนะครับ…
โห สาระ
เคสช่วยท่านได้ แต่ถ้า vapor ก็ตายอยู่ดี 5555
***ซึ่งไฟจาก Adapter ที่ไหลออกมาเพียง 5V 1-2A ไม่สามารถทำให้คนตายได้***
Adapter หรือที่เราเรียกกันว่าที่ชาร์จหรือหม้อแปลงนี่ละ
ที่มันเสียมันเลยไม่สามารถแปลงไฟฟ้า 220V หรือไฟบ้านมาเป็น 5V ได้
ก็เลยปล่อยตามกระแสไฟตรงๆ 220V มาเลย ทำให้คนเลยโดนช็อตจนตายได้
ผมว่าผมเขียนเคลียร์มากแล้วนะตรงจุดนั้น อื้มๆ
+1
ส่วนที่เคลียมันอยู่เกินบรรทัดที่ 7 ครับ
แสดงว่าคนไทยอ่านไม่เกิน 6 บรรทัดจริงๆใช่ไม๊ครับ
ถ้า Adapter มันปล่อย 220V ออกมา มือถือก็คงจะแต๊บก่อนแล้วละครับ (แล้วเราก็อาจจะแต๊บตามมือถือไปด้วย อิอิ)
คุณChronoz
วันนึง
คุณ
อ่าน
หนังสือ
กี่
บรรทัด
ปล.นี่ผมเขียนเพื่อให้อยู่ใน 7 บรรทัด เผื่อคุณChronoz จะเข้าใจ
บรรทัดเดียวก็พอครับ หลายบรรทัดเดี๋ยวจะยาวไป (แล้วไม่อ่าน… ฮา)
สาระน่ารู้มากครับ ชอบๆ
เยี่ยมเย่า เอ้ย!! เยี่ยมยต เอ้ย!! เยี่ยมยุทธ เอ้ย!! ถูกแล้ว!! แอบขำมุข ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น – -"
มีสาระดีครับ
ขอบคุณครับ
ว่าแต่ กระจก เนี่ย มันนำไฟฟ้า ได้ด้วยเหรอครับ
เปล่าครับ ขอบรอบๆ iPhone 4 เป็นโลหะ ส่วนบอร์ดี้เป็นกระจกครับ
อ้อ ขอบคุณฮะ
ทั้งอแดพเตอร์ทั้งแบตเตอรี่ถ้าเป็นของปลอมก็อันตรายหมดครับ เกิดระเบิดขึ้นมาก็เอาผิดไม่ได้อีก ยังไงก็น่าจะยอมจ่ายเพิ่มนะครับ เพื่อความปลิดภัย
นอกจากของยี่ห้อเดิม มียี่ห้อไหนแนะนำป่าวครับ กำลังหา charger 2A ให้ S4
ทำไมต้องใช้ของก๊อบ ไม่เข้าใจ รู้ทั้งรู้ว่ามันอันตรายขนาดไหน มีปัญญาหาเงินซื้อโทรศัพท์ราคา 2X,XXX กันได้ แต่ดันโง่ซื้อ Charger ปลอมมาใช้
มันคงเหมือนคนรวย ที่ซื้อรถจดประกอบ หนีภาษีมั้งคับ 55555
เราจะเช็คได้อย่างไรครับว่า adapter ที่เราใช้อยู่เป็นของเเท้จริงหรือเปล่าครับ
ยาวไปไม่อ่าน 555+
Switching ก็มีขดลวดนะครับ เพียงแต่มีขนาดเล็กน้ำหนักเบาเพราะมันทำงานที่ความถี่สูง
มันก็มีโอกาสรั่วได้เหมือนกันหากออกแบบมาไม่ดีพอ
ใช่ครับ Switching ก็มีขดลวด แต่ทำงานคนละแบบกัน และไฟก็รั่วได้เหมือนกัน แค่ปลอดภัยกว่าเพราะไม่มีเรื่องขดลวดเสื่อมแล้วสัมผัสกันตรงๆ เลยเขียนเน้นไปว่าเรื่อง Safety Approval อ่ะครับ ถ้าไม่ได้มาตรฐานก็รั่วตายอยู่ดี ก็วงจรไฟฟ้านี่เนอะ
อืมมมม อ่านเสร็จหันไปมองปลั๊กพวงตัวเอง มั่นใจขึ้นเยอะ จะตายเพราะเล่นคอมมากกว่าแน่ๆ
สาระดี ๆ ครับ ขอบคุณมาก ๆ ได้ความรู้เพิ่มเลยวันนี้
จัดเต็มมาก ความรู้ทั้งนั้น ขอบคุณครับ ว่าแต่เหมือนพี่จะจบวิดวะไฟฟ้าเลยอ่ะ
ปล. นี่คงคือเหตุผลที่ ss ใช้พลาสติกกะละมัง เอ๊ย polycarbonate
ปล2. ตกใจข่าวดัก note2 ไม่ได้อัพ 4.2
ส่วนที่จะทำให้ไฟสูงร่ัวมาดูดคนได้มีอยู่สองส่วนนะครับคือ
1 หม้อแปลง Switching (เกิดจากการช๊อตรอบระหว่างขดไฟเข้าระออก)
2ภาคเชื่อต่อระหว่างกลาวด์ร้อนและเย็น(ไฟสูงและต่ำใส่เพื่อความเสถียรภาพในการทำงานหากวงจรที่ออกแบบดีก็ไท่จำเป็นจะต้องมี) ที่มันดูดเราจื๊ดๆตอนที่เราจับส่วนที่เป็นโลหะ ยกตัวอย่างเช่นคอมพิวเตอร์น่ันล่ะ
ส่วนเรื่องการพันหม้อแปลงมีสองแบบครับ ท้ังห้อแแลง Switching และแบบความถี่ต่ำหรือแบบแกน EI
1.พันขดไฟออกทับกับขดไฟเข้าแบบนี้มีโอกาสไฟร่ัวสูง
2. แบบแยกขดไฟเข้ากับไฟออกเลย แบบนี้ปลอดภัยครับไมีมีการสัมผัสกันแน่นอน
ที่จรืงที่ชาร์จของจีนทุกวันนี้ก็ใช้เทคนิค Switching ไม่มีใครใช้หม้อแปลงความถี่ต่ำกันแล้วล่ะ
เพราะระบบ Switching ช่วยลดต้นทุนค่าอุปกรณ์(โดยเฉพาะลวดทองแดง) ช่วยลดให้ขนาดที่ชาร์จเล็กลง น้ำหนักเบาลง
-ในความเห็นผมผมว่าแบบหม้อแปลงความถี่ต่ำจะปลอดภัยเพราะทำงานที่ความถี่ระดับ 50-60Hz ในขณะแบบ
Switching ทำงานในระดับหลายสิบ kHz ย่อมมีโอกาสเสียสูงกว่า
– แต่ระบบ Switching ได้เปรียบในเรื่องประสิทธิภาพต่อน้ำหนัก-ขนาด และต้นทุนการผลิต
*ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ จากคนทำงานด้านอิเลคทรอนิกส์-ไฟฟ้า
ขอเสนอความเห็นหน่อยนะครับ วงจรที่ชาร์จบางแบบ ไม่ได้เชื่อมต่อแค่ส่วนที่เป็นไฟสูงส่งกำลังไปให้ส่วนที่เป็นไฟต่ำโดยใช้แค่หม้อแปลงเท่านั้นครับ แต่มีการป้อนกลับจากส่วนที่แรงดันไฟฟ้าต่ำไปยังส่วนที่แรงดันสูงด้วยครับเพื่อควบคุมระดับแรงดันให้เรียบนิ่ง และการป้อนกลับแบบนี้ถ้าจะให้ปลอดภัยต้องใช้การเชื่อมโยงด้วยแสง (opto coupler) เพื่อไม่ให้ไฟรั่วไปหากัน แต่ที่ชาร์จแบบถูกๆ อาจจะไม่ได้ทำแบบนั้นแต่ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่อกัน ไฟฟ้าแรงดันสูงจึงมีโอกาสพลาดรั่วไปที่ส่วนแรงดันต่ำได้
แปะคลิปที่เกี่ยวข้องหน่อยนะครับ มีเทียบของแท้กับของเทียม ภายนอก ภายใน ต่างกันอย่างไร เป็น switching ทั้งคู่ แต่คุณภาพการสร้างและอุปกรณ์หรือวงจรที่ใช้ก็ต่างกัน ได้การคำนึงถึงลายทองแดงที่อยู่ใกล้กันจนเสี่ยงต่ออันตรายด้วยไหม (แปะคลิปอย่างไรเอ่ย)
http://www.youtube.com/watch?v=wi-b9k-0KfE
อะครับเขาเรียกวงจร Feedback control เพื่อรักษาระดับแรงดันให้คงที่
วงจรที่ดีควรจะมีเพื่อรักษาระดับแรงดัน แต่ผมว่าส่วนน้อยนะครับถ้าหากมีวงจร Feedback แล้วจะไม่ใช้ optocoupler (อุปกรณ์เชื่อมโยงทางแสง เบอร์ที่นิยมใช้ก็เช่นเบอร์ PC817 ซื้อที่ http://www.es.co.th ราคาแค่บาทกว่าๆครับ) จากการที่เคยซ่อมที่ชาร์จหรืออะแดปเตอร์ของจีนมาเยอะ…
ขอเพิ่มเติมนิดหนี่งครับ
Switching จริงๆไม่ได้จ่ายไฟออกมาแค่ 5V นะครับมากกว่านั้นครับแต่อาศัยการปิดเปิดที่ความถี่สูง ( จึงเรียกว่า Switching ) 5V นัันเป็นแรงดันเฉลี่ยครับ แรงดันจริงน่าจะ 12-30V ครับแล้วแต่การออกแบบมันจึงจ่ายกระแสได้มาก 1-2A ที่ชาร๋จส่วนใหญ่เป็นแบบ Switching เพราะขนาดเล็ก (ถ้าแบบหม้อแปลง 1A ขนาดใหญ่มากครับ)
ในความคิดเห็นส่วนตัวแบบหม้อแปลงปลอดภัยกว่าครับ
โอ๊วววว สาระเยอะมากๆๆๆ ตั้งแต่กระทู้ ยันคอมเมนท์
ขอพักสักแป๊บ กะลังมึนกะหลักการที่ตีกันในหัว…
ขอยืนยันอีกเสียง แบบหม้อแปลงความถี่ต่ำปลอดภัยกว่า ทนกว่า ทึกว่า แต่หนัก ใหญ่และแพงกว่า
แล้วที่ชาร์จที่เวลาชาร์จแล้วทำจอสัมผัสเราเพี้ยนล่ะครับ แบบนี้มีโอกาสไฟรั่วไหมครับ
อาจเป็นเพราะที่ชาร์จนั้นผลิตแบบลดต้นทุน เลยไม่มีการป้องกันการไปรบกวนจอสัมผัส และการลดต้นทุนอาจหมายถึงการลดต้นทุนในการผลิตที่ชาร์จที่ใช้แล้วปลอดภัย
"**ple has obviously gone to extra effort to reduce EMI interference, probably to keep the charger from interfering with the touchscreen." http://www.righto.com/2012/05/apple-iphone-charger-teardown-quality.html
http://www.righto.com/2012/10/a-dozen-usb-chargers-in-lab-apple-is.html#ref1
หากเป็นของมียี่ห้อก็คงจะปลอดภัยหากเป็นของจีนระวังไว้ให้ดี
ฝผลตรวจสอบเขาว่าเป็นแบตปลอมครับ
หาเรื่องราวดีๆ แบบนี้มาให้อ่านบ่อยๆนะคับ ชอบอ่านอะไรประมาณนี้ เพลินดี แต่ถ้าคนที่ขี้เกียจอ่าน ก้ช่างหัวเขาเถอะคับ 55555