ตามรายงาน reuters บิล เกตส์ (Bill Gates) ผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft ได้เดินทางมาเยือนประเทศจีน เตรียมพบกับ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง (Xi Jinping) ในวันที่ 16 มิถุนายน 2566 ตามเวลาท้องถิ่น และยังนับว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ที่ได้เจอกันหลังจีนปิดพรมแดนระหว่างการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ผู้คนต่างสนใจว่าการเจอกันครั้งนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 66 บิล เกตส์ (Bill Gates) ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ (Microsoft) ได้เข้าร่วมการประชุมครั้งแรกในกรุงปักกิ่ง พร้อมการเข้าพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีน ตามรายงานยังระบุว่าหัวข้อในการพูดคุยไม่ได้เปิดเผยอย่างเป็นทางการยังคงเป็นความลับ และการคุยกันครั้งนี้จะเป็นแบบตัวต่อตัวไม่มีผู้อื่นเข้าร่วมรับฟัง

โดยกำหนัดการนัดหมายนี้ไม่ใช่ครั้งแรกเพราะก่อนหน้าในปี 2019 มีรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และบิล เกตส์ได้พบกันที่การประชุม Boao Forum ณ มณฑลไห่หนาน ในปี 2558 เพื่อหารือเกี่ยวกับการปรับปรุงบริการสาธารณสุข การพัฒนาสุขภาพของประชาชนระดับโลกกับมูลนิธิ Bill & Melinda Gates ต่อมาในปี 2020 สี จิ้นผิง ได้เขียนจดหมายถึงเกตส์เพื่อขอบคุณสำหรับคำมั่นว่าจะให้ความช่วยเหลือแก่จีน รวมถึงเงิน 5 ล้านเหรียญดอลลาร์สำหรับการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศจีน

ซึ่งการประชุมครั้งนี้ถือเป็นการสิ้นสุดการห่างหายไปนานของ สี จิ้นผิง ตั้งมีการระบาดของโควิด-19 เป็นเวลาเกือบ 3 ปี เนื่องจากจีนปิดพรมแดนระหว่างการแพร่ระบาด เพราะถ้าให้เราย้อนย้อนไทม์ไลน์ดูจะพบว่าผู้บริหารชั้นนำอย่าง Tim Cook ได้พบแค่ หลี่ เฉียงนายกรัฐมนตรีจีน ส่วน อีลอน มัสก์ก็ได้แค่คุยกับติง เซวียเสียง รองนายกรัฐมนตรีจีนเท่านั้น ยังไม่มีใครได้เจอตัวต่อตัวเหมือน บิล เกตส์

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ในตอนนี้ดูไม่ค่อยสู้ดีนักแถมยังอยู่ในสภาวะตึงเครียดไม่น้อยทำให้ใครหลายคนต่างจับตามองไปที่การพบเจอกันของทั้งคู่ ถึงแม้ว่าจะไม่ทราบถึงหัวข้อการพูดคุยก็ตาม โดยการพูดคุยในครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนการเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งของ แอนโทนี บลิงเกน (Antony Blinken) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ในวันที่ 18 – 19 มิถุนายน เพื่อหารือและรักษาเสถียรภาพความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติมหาอำนาจที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก

นอกจากนี้ บลิงเกนได้เข้าพบกับ ฉิน กัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนเมื่อวันพุธ โดยบทสนทนาเป็นไปอย่างตึงเครียด แถมในระหว่างนั้น ฉิน กัง ยังเรียกร้องให้สหรัฐฯ หยุดแทรกแซงกิจการและทำลายความมั่นคงของจีนอีกด้วย ให้เราติดตามกันต่อไปค่ะ ว่าในอนาคตจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างหลังจากการพูดคุยในครั้งนี้

ที่มา : reuters