ในช่วงที่กรุงเทพฯ ปิดถนนสร้างนู่นสร้างนี่กันจนรถติดหนึบกลายเป็นลานจอดรถที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยไปแล้วแบบนี้ ถ้าบ้านเรามีบริการเช่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Bird เหมือนที่อเมริกาก็คงจะดีไม่น้อยเลย เพราะถ้าเราไปเจอสกู๊ตเตอร์ดังกล่าวจอดอยู่ที่ไหน แค่เอามือถือไปยิง QR Code แล้วเปิดแอปเพื่อจ่ายเงิน ก็สามารถบิดสกู๊ตเตอร์ออกไปให้ถึงที่หมายแล้วจอดทิ้งไว้ตรงนั้นได้เลย

บริการเช่าสกู๊ตเตอร์ดังกล่าวในตอนนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประมาณว่าเดินไปไหนก็เจอเจ้าสกู๊ตเตอร์พวกนี้จอดอยู่เต็มไปหมด แล้วถ้าเราต้องการจะใช้บ้างก็แค่สแกน QR Code ที่ตัวสกู๊ตเตอร์เพื่อโหลดแอป จากนั้นก็จ่ายเงินผ่านการตัดบัตรเครดิต / เดบิต จากนั้นก็บิดออกไปได้เลย

โดยการใช้งานจะมีการคิดเงินค่าเช่าครั้งแรกที่ 1 ดอลลาร์ (ประมาณ 33 บาท) จากนั้นจะคิดค่าเช่าต่อเป็นรายนาที นาทีละ 15 เซนต์ (ประมาณ 5 บาท) ถ้าจะแวะระหว่างทางก็กด Lock ในแอปได้ ไม่ให้คนอื่นเอาไปใช้ต่อ พอถึงที่หมายก็กด End Ride แล้วเอาไปวางแอบๆ บนทางเท้าซะก็เรียบร้อย ไม่ต้องคอยหาจุดวางเหมือนการเช่าจักรยานทั่วไป

ใช้เสร็จก็จอดไว้บนทางเท้า (ภาพจาก InsideEdition)

แน่นอนว่ามาถึงตรงนี้ หลายคนต้องสงสัยแล้วว่าถ้าใช้งานเสร็จแล้ววางทิ้งไว้ตรงไหนก็ได้ มันจะชาร์จไฟยังไง? ตรงนี้ทาง Bird เค้าก็เตรียมการไว้แล้ว โดยเปิดรับสมัครทีม Charger เพื่อออกตามหาสกู๊ตเตอร์ของ Bird จาก GPS เพื่อเอากลับมาชาร์จไฟที่บ้านตัวเอง (ใช้เวลาชาร์จประมาณ 2-3 ชม.) จากนั้นก็เอาไปคืนตามจุด Bird Nest ให้คนเอาไปใช้ต่อ โดย Bird มีค่าจ้างต่อการชาร์จสกู๊ตเตอร์ 1 คัน อยู่ที่ 5 ดอลลาร์ (ประมาณ 165 บาท) ซึ่งในวันๆ นึง มีคนทำเงินจากการเก็บสกู๊ตเตอร์ไปชาร์จได้กว่า 200 – 600 ดอลลาร์ เลยทีเดียว

Charger ที่ถูกเรียกว่า Bird Hunter

ก็นับว่าเป็นบริการที่น่าสนใจบริการนึงเลยทีเดียวสำหรับเมืองที่รถติดสุดๆ อย่างกรุงเทพ เพราะมันสามารถบิดไปจอดไว้ที่ไหนก็ได้ตามสะดวก ไม่ต้องคอยหาจุดจอด แถมยังสร้างรายได้ให้กับเหล่า Charger อีกด้วยนะ (แต่ถ้ามีบริการแบบนี้ในบ้านเราจริงๆ ก็คาดว่าจะมีผู้เสียผลประโยชน์แล้วพาลทำลายสกู๊ตเตอร์ทิ้งแน่นอนเลย…)

 

ข้อมูลเพิ่มเติม : Bird