Ninebot เปิดตัว Ninebot E8 สกูตเตอร์ไฟฟ้าสำหรับเด็ก มาพร้อมมอเตอร์ 130 วัตต์ วิ่งได้ไกลสุด 10 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทำความเร็วสูงสุดได้ 14 กม./ชม. มีโหมดความเร็วต่ำสำหรับเด็กหัดขับ และระบบเบรก 3 รูปแบบเพื่อความปลอดภัย แถมตัวรถยังหนักเพียงแค่ 8 กก. อีกทั้งยังพับเก็บได้ สนนราคาแค่ 339 เหรียญ หรือประมาณ 10,500 บาท

สกูตเตอร์ไฟฟ้าสำหรับเด็ก ยังมีตัวเลือกไม่มากนักในตลาด

แม้ว่า พาหนะไฟฟ้าอย่างสกูตเตอร์ไฟฟ้าเริ่มจะได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงหลังมานี้ เนื่องจากมันตอบโจทย์เรื่องการเดินทางในระยะสั้น และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง หรือจะขับเล่นเพลิน ๆ ก็เป็นกิจกรรมที่สนุกไม่เบา ซึ่งตัวเลือกในตลาดก็มีมากหลายช่วงราคา แต่มันยังมีช่องโหว่ของเซกเมนต์อยู่ส่วนนึง นั่นก็คือ “สกูตเตอร์ไฟฟ้าสำหรับเด็ก” นั่นเอง

จริงอยู่ ที่แม้มันจะมีสกูตเตอร์สำหรับเด็กขายในราคาหลักพัน แต่โดยมากแล้วจะเป็นสกูตเตอร์แบบเท้าถีบธรรมดา ไม่ใช่ระบบไฟฟ้า หรือหากเป็นระบบไฟฟ้าที่มีราคาอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาท ก็มักจะเป็นแบรนด์โนเนม ซ้ำตัวรถเองก็วัสดุก๊องแก๊งไม่แข็งแรง ทำให้ผู้ปกครองหลายคนลำบากใจเวลาอยากจะซื้อสกูตเตอร์ไฟฟ้าดี ๆ ให้ลูกสักคัน โดยส่วนมากเลือกที่จะขยับไปซื้อแบบของผู้ใหญ่แทนไปเลย ซึ่งจริง ๆ แล้ว ทรงรถมันใหญ่เกินไปสำหรับเด็ก และไม่ปลอดภัยเท่าที่ควรในการขับ (เพราะรถหนักและแฮนด์สูงกว่าตัวเด็ก) แต่ดูเหมือนว่า การมาของ Ninebot E8 ที่พึ่งเปิดตัวนี้ จะมาอุดช่องโหว่ตรงนี้ได้อย่างพอดิบพอดี

รูปลักษณ์ภายนอกและการออกแบบ

หากมองเผิน ๆ แล้ว Ninebot E8 มันเหมือน ES2 รุ่นยอดนิยม ที่ถูกจับมาย่อส่วนดี ๆ นี่เอง วัสดุที่ใช้ก็เป็นอะลูมิเนียมเกรดอากาศยานเหมือน ๆ กันอีกด้วย ดังนั้น เรื่องความแข็งแรงของตัวรถนั้นหายห่วง แต่จะมีจุดที่แตกต่างกันอยู่เล็กน้อย คือ E8 นั้น ไม่มีโช้กหลัง ไม่มีหน้าจอ LED ไม่มีไฟหน้า/ไฟท้าย รวมถึงไฟ RGB วิบวับใต้ท้องรถ

สเปคไม่ไก่กา

ในส่วนของสเปคก็ไม่เบาเลยทีเดียว มันมาพร้อมกับมอเตอร์ 130 วัตต์ วิ่งได้ไกลสุด 10 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทำความเร็วสูงสุดได้ 14 กม./ชม. รับน้ำหนักได้สูงสุด 50 กก. ในขณะที่น้ำหนักของตัวรถอยู่ที่ 8 กก. เท่านั้น ยางทั้งหน้าและหลังเป็นยางตัน ทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องการรั่วซึม แต่ไม่ได้ระบุว่ามีขนาดกี่นิ้ว (เดาว่า 6 นิ้ว หรือเล็กกว่า) นอกจากนี้ตัวรถยังทนน้ำได้ที่ระดับ IPX4 ทำให้สามารถลุยฝนปรอย ๆ หรือขับผ่านน้ำขังได้อย่างหมดกังวล

โหมดขับขี่ 2 โหมด +1

Ninebot E8 นั้น มาพร้อมกับความปลอดภัยทั้งในด้านของระบบการขับขี่และระบบเบรก เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของเด็ก ๆ เริ่มจากระบบการขับขี่ มีด้วยกัน 2 โหมด บวกกับโหมดช่วยขับอีก 1 โหมด ดังนี้

  • โหมดเทอร์โบ: เปิดการใช้งานความเร็วสูงสุดที่ 14 กม./ชม.
  • โหมดปลอดภัย: จำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 10 กม./ชม. เหมาะสำหรับเด็กหัดขับ
  • โหมดควบคุมความเร็วคงที่: เมื่อขับด้วยความเร็วคงที่ไปสักระยะหนึ่ง ตัวรถจะวิ่งด้วยความเร็วระดับนั้น ๆ ต่อไปโดยอัตโนมัติ โดยที่ไม่ต้องกดคันเร่ง (หากจะยกเลิกก็แค่กดคันเร่งซ้ำ 1 ที) หรือที่เรียกว่า cruise control

ระบบเบรก 3 รูปแบบ

ส่วนระบบเบรกนั้น Ninebot E8 จัดเต็มมาให้ถึง 3 รูปแบบ ให้มาครบกว่ารุ่นพี่หลาย ๆ คันซะอีก โดยมีด้วยกัน 3 ระบบ ดังนี้

  • เบรกมือ
  • เบรกเท้า
  • เบรกไฟฟ้า: ตัวมอเตอร์ (ล้อ) จะมีความหน่วงหากผ่อนคันเร่ง เป็นการดึงพลังงานจากล้อที่หมุนอยู่กลับเข้าไปยังมอเตอร์

เหมาะสำหรับเด็กอายุ 6-12 ปี

ตัวรถ Ninebot E8 ถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงหลักสรีรศาสตร์ที่เหมาะสมกับเด็กช่วงอายุระหว่าง 6-12 ปี แม้ว่า หากดูจากสเปคแล้ว มันรับน้ำหนักได้มากถึง 50 กก. ผู้ใหญ่หรือวัยรุ่น โดยเฉพาะผู้หญิง อาจมีน้ำหนักไม่เกินนี้ก็จริง แต่ก็ไม่เหมาะสมในการใช้งานอยู่ดี เพราะความสูงจะไม่สัมพันธ์กับตัวรถ ทำให้ควบคุมรถได้ไม่เต็มประสิทธิภาพนั่นเองครับ (ถ้าผู้ใหญ่จะขับ ก็ไปซื้อแบบของผู้ใหญ่ธรรมดาดีกว่า)

ราคาและวันวางจำหน่าย

Ninebot E8 พึ่งเปิดตัวสด ๆ ร้อน ๆ ในตอนนี้มีจำหน่ายแค่ในประเทศจีน ผ่านทาง Banggood โดยมีราคาอยู่ที่ 339 เหรียญ หรือประมาณ 1 หมื่นบาท ซึ่งก็ดูจะเป็นราคาที่เหมาะสม หากเทียบกับคุณภาพของแบรนด์ Ninebot ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเนี้ยบและวัสดุที่แข็งแรงมีมาตรฐาน ส่วนหน้าเว็บทางการของ Segway ประเทศเยอรมนีเอง ก็มีหน้าเว็บของตัวสินค้าแล้ว แต่ยังไม่เปิดให้สั่งซื้อ ในส่วนของประเทศไทยก็มีลุ้นเหมือนกัน เพราะบ้านเราก็มีตัวแทนจำหน่ายของ Ninebot อยู่ครับ

 

ที่มา Segway-Ninebot, Banggood จาก Gizmochina