โดนปรับอีกแล้วสำหรับกระดานเทรดคริปโตอันดับหนึ่งของประเทศไทยอย่าง Bitkub จากข้อหาร่วมกันปั่นวอลุ่มเทรดคริปโตกับกระดานไทยอีกสองแห่งอย่าง Satang และ BX ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2562 เป็นเงินกว่า 24 ล้านบาท และห้ามไม่ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำหน้าที่เป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลากว่า 1 ปี
สำนักงาน ก.ล.ต. หรือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ประกาศลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 7 ราย ในข้อหาร่วมกันปั่นวอลุ่มเทรดคริปโตนั่นก็คือ
- บริษัท Bitkub
- นายอนุรักษ์ เชื้อชัย
- นายสกลกรย์ สระกวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Bitkub
- บริษัท Satang
- บริษัท LLC Fair Expo
- นายปรมินทร์ อินโสม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Satang
- Mr. Mikalai Zahorski เจ้าของและกรรมการผู้จัดการ บริษัท LLC Fair Expo
จากการตรวจสอบพบว่าในปี 2562 นายสกลกรย์ ทำสัญญากับนายอนุรักษ์ ให้ทำหน้าที่ดูแลสภาพคล่อง ในกระดานเทรด Bitkub และได้ให้นายอนุรักษ์ยืมเงินเพื่อใช้ในการทำหน้าที่ดังกล่าว และยังพบว่า นายอนุรักษ์ได้ส่งคำสั่งจับคู่ซื้อขายเหรียญคริปโต จำนวน 4 เหรียญ ได้แก่ Bitcoin (BTC) Bitcoin Cash (BCH) Ethereum (ETH) และ Ripple (XRP) โดยเป็นการจับคู่ซื้อขายกันเองในบัญชีซื้อขายเหรียญคริปโตในกระดาน Bitkub ซึ่งทาง Bitkub จะโดนลงโทษดังนี้
- บริษัท Bitkub โดนปรับเป็นเงิน 8,053,764 บาท
- นายอนุรักษ์ โดนปรับเป็นเงิน 8,053,764 บาท ห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล 6 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร 12 เดือน
- นายสกลกรย์ โดนปรับเป็นเงิน 8,053,764 บาท และรับผิดในมาตรการลงโทษทางแพ่ง ห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล 6 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร 12 เดือน
ทางฝั่ง Satang Pro ก็โดนตรวจสอบและพบความผิดในรูปแบบเดียวกัน โดยนายปรมินทร์ ทำสัญญากับบริษัท LLC Fair Expo ให้ทำหน้าที่ดูแลสภาพคล่อง ในกระดานเทรด Satang Pro และให้วงเงินซื้อขายเพื่อใช้ในการทำหน้าที่ดังกล่าว และพบว่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 บริษัท LLC Fair Expo ส่งคำสั่งจับคู่ซื้อขายเหรียญคริปโตจำนวน 3 เหรียญได้แก่ Bitcoin (BTC) Ethereum (ETH) และ Ripple (XRP) โดยเป็นการจับคู่ซื้อขายกันเองในบัญชีซื้อขายเหรียญคริปโตในกระดาน Satang Pro ซึ่งจะโดนลงโทษดังนี้
- บริษัท Stangโดนปรับเป็นเงิน 6,040,323 บาท
- บริษัท LLC Fair Expo โดนปรับเป็นเงิน 6,040,323 บาท และห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล 6 เดือน
- นายปรมินทร์ โดนปรับเป็นเงิน 6,040,323 บาท และรับผิดในมาตรการลงโทษทางแพ่ง ห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล 6 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 12 เดือน
- Mr. Mikalai โดนปรับเป็นเงิน 6,040,323 บาท และรับผิดในมาตรการลงโทษทางแพ่ง ห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล 6 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 12 เดือน
หลังจากนั้นมีการชี้แจ้งจากนาย นายสกลกรย์ สระกวี ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า กรณีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งการสร้างวอลุ่มขึ้นมาเองเป็นสิ่งที่กระดานเทรดทั่วโลกทำกันอยู่แล้วในเวลานั้น แต่เมื่อโดน ก.ล.ต. เข้ามาตักเตือนและสั่งให้หยุดเราก็ไม่ได้ทำอีกเลย และยังมีการติดตั้งระบบป้องกันการจับคู่กันเองของคำสั่งซื้อขายที่ส่งมาจากบัญชีเดียวกัน และมีทีม Market Surveillance เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมด้วย และยังยืนยันว่าตั้งแต่โดนตรวจสอบในครั้งนั้นจนถึงปัจจุบันทาง Bitkub ไม่เคยปั่นวอลุ่มเทรดอีกเลย
และดูเหมือนว่าข่าวร้ายของ BitKub ยังไม่จบลงแค่นั้น เพราะล่าสุดทาง ก.ล.ต. มีคำสั่งเพิ่มเติมให้บริษัท Bitkub แก้ไขการคัดเลือกและอนุมัติเหรียญ KUB ในการนำเข้ามาในกระดานเทรด ให้สอดคล้องกับเกณฑ์ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป
การโดนปรับครั้งนี้ถือเป็นการโดนลงโทษครั้งที่ 11 ในปีนี้ของ Bitkub ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์นี้จะส่งผลร้ายแรงต่อความน่าเชื่อถือของ Bitkub มากขนาดไหน เพราะดีลที่เจรจากับ SCBX ก็ดูเหมือนจะยังไม่ลงตัวหลังจากที่เคยประกาศและเรียกเสียงฮือฮาเอาไว้เมื่อปลายปี 2564
ที่มา : ก.ล.ต.(1), ก.ล.ต.(2), Sakolkorn Sakavee(Facebook)
บิทคอยน์มันก็ปั่นกันมาตั้งแต่เริ่มแล้ว
เป็นการสร้างผีขึ้นมา 1 ตัว แล้วมาปั่นให้มีชีวิต คนโง่ๆแล้วโลภก็จะวิ่งกันเข้ามาเหมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟ ที่ยังอยู่ได้ไม่ตายไปซะทีก็เพราะการปั่นเพื่อพยุงชีวิตกันเอาไว้ จนออกลูกออกหลานมาอีกหลายตัว
ปรับแค่ 6, 8 ล้านนี่น้อยมากเลย เมืองนอกปรับที่เป็น 1,000 ล้าน ไทยน่าจะปรับอย่างน้อยเลข 2 หลักนะ