ตอนนี้สมาร์ทโฟนเกมมิ่งถือว่าค่อนข้างมาแรงและได้รับความนิยมพอสมควร หลังจากที่ ROG Phone 2 ซึ่งเป็นมือถือชิป Snapdragon 855 Plus ได้เปิดตัวไปและได้กระแสตอบรับที่ดีเอามากๆ ล่าสุดก็ได้มีสมาร์ทโฟนเกมมิ่งชิป Snapdragon 855 Plus เปิดตัวตามมาอีกรุ่นแล้ว ก็คือ Black Shark 2 Pro ซึ่งเคาะราคามาได้แบบน่ารักๆ ที่ราว 13,500 บาท เท่านั้นเอง
Black Shark 2 Pro ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่ 2 ต่อจาก ASUS ROG Phone 2 ที่ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตตัวใหม่อย่าง Snapdragon 855 Plus และยังอัด RAM มาให้ถึง 12GB ส่วนความจุยังได้รับการอัพเกรดให้เป็นแบบ UFS 3.0 อีกด้วย
ดีไซน์ตัวเครื่องก็ได้รับการพัฒนาขึ้น จับถือง่ายขึ้นไม่หลุดมือ และเพิ่มไฟ RGB เข้ามาอีก 2 ตัว
Black Shark 2 Pro มีหน้าจอเป็นแบบ AMOLED ขนาด 6.39 นิ้ว มีค่า touch latency อยู่ที่ 34.7ms เท่านั้น เมื่อเทียบกับรุ่นเดิมอย่าง Black Shark 2 ที่จะมีค่าดังกล่าวอยู่ที่ 43.5ms
นอกจากนี้ในเรื่องของประสิทธิภาพกล้องก็ได้รับการอัพเกรดให้ดีกว่าเดิมด้วย จากรุ่นแรกให้ความละเอียดมาที่ 12MP แต่ในรุ่นนี้จะได้รับการอัพเกรดมาให้เป็น 13MP
ส่วนซอฟต์แวร์ต่างๆ ก็เหมือนเดิมแทบจะทั้งหมด ยกเว้นโหมดเล่นเกมที่ทางค่ายพัฒนาและปรับปรุงขึ้นมาใหม่ในชื่อของ Black Space Dock 4.0 ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มอถรรรสในการเล่นเกมให้ลื่นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
Black Shark 2 Pro คราวนี้มีให้เลือกด้วยกันหลากหลายสีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นสีดำเขียว, สีเงิน, สีฟ้า Racing, สีส้ม Flamingo และสีม่วง Myth Ray มาให้เลือกอีกด้วย
นอกจากนี้ก็ยังจะมีเวอร์ชั่นสีสุดพิเศษอีก 3 สีที่ทางค่ายได้ไปจับมือร่วมกับทีมอีสปอร์ตของทางจีนเองอย่าง LNG Esports ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังจะมีเคสและบัมเปอร์ต่างๆ ให้เลือกใช้มากมาย
สเปค Black Shark 2 Pro
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.39 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2340
- CPU : Snapdragon 855 Plus
- RAM : 12GB
- ความจุ : 128GB / 256GB (UFS 3.0)
- กล้องหลัง : 48MP (f/1.75) + 13MP (f/2.2)
- กล้องหน้า : 20MP (f/2.0)
- สแกนนิ้วมือบนหน้าจอ
- ระบบระบายความร้อน Direct touch multilayer liquid cooling system
- แบตเตอรี่ 4,000 mAh รองรับการชาร์จไว 27W
Black Shark 2 Pro จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศจีนตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคมที่จะถึงนี้ โดยจะมีขายทั้งหมด 2 รุ่น คือ 12GB/128GB ราคา 2,999 หยวน หรือประมาณ 13,500 บาท และรุ่น 12GB/256GB ราคา 3,999 หยวน หรือประมาณ 18,000 บาท ส่วนการวางจำหน่ายในประเทศอื่นๆ ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลครับ
ที่มา: xda-developers
ราคาถือว่าน่าเล่นอยู่ แต่ถ้าแบตเพิ่มอีกหน่อยก็จะดีนะ 🙂 🙂
แอบนึกว่า จอจะใหย่ แบต จะเพิ่มขึ้นมาหน่อย
ขอถามหน่อย ถ้าเป็นคนใช้มือถือยาวๆ 4-5 ปี ควรจะซื้อเครื่องสเปคแรงแบบนี้ 15000 ไปเลย
หรือซื้อเครื่องละ 7-8พัน (จริงๆราคานี้ก็พอใช้งานแล้ว) แล้วเปลี่ยนทุก 2-3 ปีเพื่อให้ได้ความแรง+เทคโนโลยีใหม่
แนวทางไหนดีกว่ากันครับ
ขึ้นอยู่กับการใช้งานด้วยครับ ถ้าเอามาแชทเล่น โซเชียลทั่วไป ผมว่าซื้อสเปคแบบ Black Shark 2 Pro หรือพวก Redmi K20 Pro เนี่ย อยู่ได้ยาวๆ แน่ๆ 3-4 ปี อาจจะมีช้าบ้างตามกาลเวลา แต่ถ้าไม่ใช่สายเกม น่าจะถูไถโอเคอยู่นะ ผมเคยใช้ OPPO Find 7 มาประมาณ 4 ปีได้ ไม่ได้รู้สึกว่ามันช้าหรืออะไร ก็ใช้งานได้เรื่อยๆ
สรุปคือถ้าให้แนะนำจริงๆ ตัวเลือกแรกน่าจะโอเคกว่าครับ
แสดงว่าเงิน 15000 สำหรับคุณ ค่อนข้างเยอะ และเสียดายใช่ไหม
ถ้างั้นสเปคแรง แต่ไม่ได้เล่นเกมส์ สามปีขึ้นไปแบตก็เริ่มเสื่อมอยู่ดี
ปีที่ 4-5 จะเริ่มเป็นภาระ หาที่ชาร์จตลอด
เปลี่ยนแบตก็หาที่ทนเหมือน original ก็ไม่ค่อยจะมี
ผมว่าถ้าเคยลองแล้ว่า 7-8พัน ใช้งานได้ happy
เล่นตัวล่างก็ได้ดีครับ
เปลี่ยนตัวใหม่ก็จะได้อะไรใหม่ๆ
ที่สำคัญแบตอึด ใช้งานไม่ต้องคอยกังวล
โดยส่วนตัวผมใช้ตระกูล redmi note มาหลายวงรอบแล้ว
เปลี่ยนประมาณ ทุก 2 ปีกำลังดี (ไม่เล่นเกมส์)
ถ้าไม่ได้เล่นเกมส์ ผมเอาแบบประหยัดเงินดีกว่า ตอนนี้เห็น F11 Pro ใน Shopee บางร้านเหลือแค่ 8-9 พัน เองครับ ใช้ได้ยาวๆ อย่าไปทำตกแล้วกัน
มาแปลก ไม่มีอุปกรณ์เสริมพิเศษใดใดเลยรึเนี่ย
ราคามันไม่น่ารักนะ น่าซื้อต่างหาก
มีใครเคยใช้รุ่นก่อนหน้านี้บ้างครับ อยากทราบว่าใช้งานจริงดีแค่ไหน(ไม่นับเรื่องกล้องนะครับ)