ไม่ใช่เพียงแค่วงการสมาร์ทโฟนเท่านั้น ที่ประสบกับปัญหาชิปเซ็ตขาดตลาด อีกหนึ่งวงการที่ได้รับผลกระทบไม่แพ้กันนั่นก็คือตลาดรถยนต์ไฟฟ้า โดยล่าสุด แบรนด์ผู้ผลิตต่าง ๆ เตรียมแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการตัดฟีเจอร์ไฮเอนด์บางอย่างออก เพื่อที่จะให้ไลน์การผลิตไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาในครั้งนี้มากนัก ผลิตสินค้าออกมาได้ทันตามความต้องการของตลาด

โดย Nissan เตรียมตัดระบบนำทาง (Navigation Systems) ออกจากรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเอง เนื่องจากบริษัทประสบกับปัญหาชิปเซ็ตขาดตลาด เช่นเดียวกับ Ram ที่จะไม่ใส่กระจกมองหลังอัจฉริยะ รวมถึง Renualt ก็เป็นอีกหนึ่งเจ้าที่จะไม่ตัดหน้าจอแสดงผลแบบดิจิทัลออกในรถซีรีส์ Arkana SUV เพื่อทีจะเก็บชิปที่จะใช้ขับเคลื่อนระบบดังกล่าว เอาไว้ทำอย่างอื่นที่จำเป็นกว่านี้

ปัญหาชิปเซ็ตขาดตลาดนี้ ส่งผลกระทบถึงแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าดัง ๆ เพียบ ไม่ว่าจะเป็น BMW AG, Honda Motor Co. หรือ Ford Motor Co. โดยคาดว่ายอดขายน่าจะหายไปหลายล้านคันเลยทีเดียว

NXP Semiconductor ได้ออกมากล่าวว่าการเปลี่ยนถ่ายระหว่างรถยนต์ระบบปกติมาเป็นระบบไฟฟ้านั้น เกิดขึ้นไวกว่าที่คาดการณ์กันไว้ ทำให้ความต้องการใช้ชิปเซ็ตก็มีมากขึ้น โดย NXP Semiconductor เตรียมวางแผนที่จะส่งออกชิปเซ็ตมากกว่าเดิม 20% ส่วน TSMC ก็ให้คำมั่นสัญญาว่าจะส่งออกชิปให้ทันกับความต้องการของตลาดภายในเดือนมิถุนายน

ส่วนหนึ่งของปัญหาชิปขาดตลาดในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าก็คือ กว่า 60% ของชิปที่ใช้ มาจากบริษัทเล็ก ๆ รายย่อยด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งพอมีวิกฤตแบบนี้ บริษัทนั้น ๆ มักจะไม่มีเสียงที่ดังมากพอที่จะไปจ้างโรงงานผลิตชิปเซ็ตต่าง ๆ ได้ หรือพูดง่าย ๆ คือบริษัทใหญ่ ๆ จะได้จองคิวก่อนนั่นเอง

ทำให้ผู้ผลิตแบรนด์ต่าง ๆ ไม่มีทางเลือก นอกจากตัดฟีเจอร์และเทคโนโลยีบางอย่างออก เพื่อที่จะให้ไลน์ผลิตสามารถไปต่อได้ตาม Timeline ที่วางเอาไว้ เหมือนกับที่เอ่ยไปในช่วงต้นบทความนั่นเอง

แต่ก็มีบางเจ้าที่ขอซื้อชิป microcontroller ที่ไม่ผ่านมาตรฐานกับบริษัทผลิตชิปเซ็ตรายใหญ่แห่งหนึ่ง มาใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง เนื่องจากชิปดังกล่าวไม่ส่งผลเสียกับระบบรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว เพียงแต่อาจจะทำให้ระบบ Entertainment บางอย่างในห้องเครื่อง เกิดการขัดข้องตอนอยู่ในสภาพอากาศหนัก ๆ

 

ที่มา: Bloomberg