นับตั้งแต่ที่ระบบเจนฯ รูปภาพ AI ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย ผู้คนทั่วโลกรวมไปถึงประเทศไทยต่างก็สนุกสนานกับการสร้างภาพของตัวเองในรูปแบบต่างๆ มากมาย แต่เทคโนโลยีดังกล่าวกลับไม่สร้างความสุขหรือความสะดวกในการใช้งานต่อผู้พิการมากสักเท่าไหร่ หลังจาก ChatGPT ไม่เข้าใจว่าความต้องการของผู้ใช้กลุ่มนี้จริงๆ คืออะไร 


นักอดีตว่ายนํ้าพาราลิมปิกชาวออสเตรเลียอย่าง เจสสิก้า สมิธ (Jessica Smith)  ได้ทดลองให้ ChatGPT ช่วยปรับแต่งใบหน้าของเธอให้ดีขึ้น โดยอัปโหลดภาพถ่ายเต็มตัวพร้อมระบุในพรอมต์อย่างชัดเจนว่า “เธอไม่มีแขนซ้ายตั้งแต่ข้อศอกลงไป” เพื่อบ่งบอกให้ AI ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับความพิการของเธอ

แต่ผลลัพธ์ที่ ChatGPT สร้างกลับมาให้นั้น ล้วนมีแต่ภาพของสมิธที่มีแขนสองข้าง หรือมีแขนเทียมปรากฏบนแขนข้างที่พิการแทน และเมื่อเธอถาม AI กลับไปว่าเหตุใดถึงสร้างภาพตามที่เธอต้องการไม่ได้ AI ก็ให้เหตุผลแค่ว่า ไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะสร้างรูปดังกล่าว

ภาพของ นาโอมิ โบว์แมน (Naomi Bowman) จาก BBC

และนี่ก็ไม่ใช่เคสแรกที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ตัวของ นาโอมิ โบว์แมน (Naomi Bowman) ก็พบปัญหาคล้ายกัน เมื่อได้อัพโหลดรูปภาพของตัวเองลงใน ChatGPT เพื่อหวังให้ช่วยเบลอพื้นหลังของรูปภาพ ซึ่งเธอก็เขียนพรอมต์อย่างชัดเจนว่า “ดวงตาของฉันมีความผิดปกติ  โปรดอย่ายุ่งหรือแก้ไขอะไรกับใบหน้าของฉัน” แต่ภาพที่เธอได้รับ กลับกลายเป็นรูปใบหน้าของใครก็ไม่รู้ที่มีดวงตาเสมอกันต่างจากเธอโดยสิ้นเชิง

ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้รับกลับมาก็ทำให้ทั้งสองรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า แม้แต่ AI ก็ยังมีความไม่เท่าเทียมและอคติต่อผู้พิการแฝงอยู่ ด้านผู้เชี่ยวชาญเผยว่าความหลากหลายใน AI มักเริ่มต้นจากการถูกฝึกหรือป้อนข้อมูลโดยผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสร้างมันขึ้นมา หากผู้สร้างไม่ได้เป็นผู้มีประสบการณ์ตรงหรือไม่ได้ฝึกให้ AI รับรู้และเข้าใจอะไรแบบนี้ ก็อาจพลาดประเด็นหรือดีเทลเล็กๆ น้อยๆ แบบเคสดังกล่าวได้ 


อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รูปภาพที่เจสสิก้าต้องการนั้นก็สามารถเจนฯ ออกมาได้สำเร็จในที่สุด ซึ่งเธอให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่านี่คือก้าวที่สำคัญมากๆ เพราะ AI ถูกพัฒนามาด้วยจุดประสงศ์เพื่อการใช้งานส่วนรวม เราทุกคนจะได้ประโยชน์ไม่ใช่แค่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเท่านั้น แต่มันคือความก้าวหน้าของมนุษยชาติเลยทีเดียว 

ภาพของ เจสสิก้า สมิธ (Jessica Smith) ที่สร้างโดย ChatGPT / ภาพจาก BBC

ที่มา : BBC