ยุคนี้ต้องบอกว่าไม่มีใครไม่เคยใช้ Ai แน่ ๆ ซึ่งแฝงไปด้วยทางที่ดีและทางลบในเวลาเดียวกัน เพราะมีนักเรียนส่วนใหญ่ในปัจจุบันใช้เครื่องมือ ChatGPT มากขึ้น จึงนำไปสู่ความงกังวลของเหล่าอาจาร์ยในสหรัฐฯ ล่าสุดได้มีการเปลี่ยนข้อสอบเป็นแบบข้อเขียน – กระดาษเปล่าแทน เพื่อลดการโกง

ตามรายงานจาก Business Insider ระบุว่า ChatGPT ของ OpenAI ก้าวหน้าขึ้นทุกวันทำให้อาจารย์วิทยาลัยบางคนพิจารณาแผนการสอนใหม่สำหรับภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังจะมาถึง ซึ่งตัว ChatGPT สามารถทำคะแนนสูงสุดในการสอบชีววิทยาระดับมหาลัย AP Biology ได้ชิล ๆ แถมยังสอบผ่านปี 1 ที่ Harvard ได้เกรดเฉลี่ยถึง 3.34 ทำให้การเรียนการสอนมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงไป เพราะเครื่องมือเหล่านี้ทำให้นักเรียนใช้หาคำตอบได้ทันที อาจขาดทักษะการคิดวิเคราะห์ไปนั่นเองค่ะ

การมีอยู่ของ Ai ?

นับตั้งแต่การเปิดตัวปัญญาประดิษฐ์ไปทั่วโลก เหล่าครู ผู้บริหาร และนักเรียนต่างตั้งคำถามเกี่ยวกับบทบาทของ AI ในด้านการศึกษาว่าสมควรหรือไม่ เพราะโรงเรียนบางแห่งเลือกที่จะห้ามใช้ ChatGPT ทันที แต่โรงเรียนอื่น ๆ ก็กำลังมองหาวิธีที่ที่จะใช้เครื่องมือ Ai สำหรับการเรียนรู้

บิล ฮาร์ต-เดวิดสัน (Bill Hart-Davidson)  รองคณบดีวิทยาลัยศิลปะและอักษรศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตท กล่าวกับ Fortune ว่าพวกเขาวางแผนที่จะกลับไปใช้การบ้านที่เขียนด้วยลายมือ และการสอบปากเปล่าแทนเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ generative AI ยกตัวอย่างเช่น การสั่งให้เขียนรายงานมาส่ เป็นการสอบปากเปล่า เพื่อถาม-ตอบ นั่นเอง

โดย Christopher Bartel ศาสตราจารย์ด้านปรัชญาที่ Appalachian State University กล่าวว่า การเรียนและการสอบอาจต้องกลับไปเหมือนเมื่อก่อน เพื่อลดการใช้ AI ลง เพราะเด็กนักเรียนเล่านี้สามารถสร้างข้อความ และสรุปข้อมูลต่างๆ ตามที่ต้องการได้ทันที แต่การตอบคำถามหรือการพูดเป็นสิ่งที่แตกต่างออกไป

มีการเข้าดูการใช้งานปริมาณ ChatGPT ลดลงเกือบ 10% ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน ผู้เชี่ยวชาญ และนักเทคโนโลยีบางคนมองว่าช่วงเวลานั้นนักเรียนส่วนใหญ่ปิดเทอมฤดูร้อน แถมผู้เชี่ยวชาญยังบอกอีกว่า ถ้านักเรียนเป็นผู้ใช้หลักของเครื่องมือนี้ ในอนาคตอาจสร้างปัญหาให้กับ OpenAI ไม่น้อย

ในขณะเดียวกันไม่ใช่อาจารย์ทุกคนที่จะต่อต้านเทคโนโลยี AI อย่าง ChatGPT เพราะมีอาจารย์หลายคนที่ใช้เครื่องมือเพื่อปรับปรุงการเรียนการสอน หรือสร้างแผนการสอน ฝึกหัด และตอบคำถามด้วย เพราะช่วยประหยัดเวลาได้เยอะ แต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนเสียงส่วนใหญ่อยากให้นักเรียนคิดด้วยตัวเองมากกว่าการใช้ทางลัดจากเครื่องมือ  มิหนำซ้ำยังถูกมองว่าโกงอีกด้วย แต่ก็มีอีกเสียงหนึ่งที่น่าสนใจมาก เขาบอกว่านักเรียนมักจะโกงเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการลอกการบ้านเพื่อน หรือให้คนอื่น ๆ ในครอบครัวเขียนเรียงความให้ จึงไม่คิดว่า ChatGPT จะเปลี่ยนสิ่งนั้นไปได้

แต่ทุกคนก็คงรู้ใช้มั้ยว่าเครื่องมือ Ai พวกนี้ยังไม่ได้เพอร์เฟค 100% ขนาดนั้น ข้อมูลที่เราไปหาคำตอบมีความคลาดเคลื่อนได้ตลอดเวลา บางทีก็เป็นข้อมูลผิด ๆ ที่เราไม่ควรเชื่อไปหมดทุกอย่าง

 

 

ที่มา : Business Insider