จากที่ Apple ได้เปิดตัวและวางจำหน่ายมือถือระดับพรีเมี่ยมรุ่นใหม่อย่าง iPhone X และ iPhone 8 / 8 Plus เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2018 ผ่านมาได้ 1 เดือนก็มีรายงานออกมาว่ายอดขายของทั้ง iPhone X และ iPhone 8 / 8 Plus รวมกัน 3 รุ่น ยังไม่สามารถเอาชนะยอดขายของ iPhone 6 / 6 Plus เมื่อปี 2014 ได้เลย และดูเหมือนตลาดก็มองว่ามีราคาที่สูงเกินไปจนยอดขายไม่ค่อยขยับเท่าที่ควร ทำให้ตอนนี้ Apple ต้องลดจำนวนการผลิต iPhone X ลงถึง 40% ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีของประเทศจีนตกกันฮวบๆ เลยทีเดียว

จากที่ตอนแรก Apple ตั้งใจจะผลิต iPhone X ออกมาป้อนตลาดถึง 50 ล้านเครื่อง แต่เนื่องจากยอดขายในเดือนแรกของ iPhone X ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดเอาไว้  หากเทียบกับตอนที่ iPhone 6 และ 6 Plus วางจำหน่ายในเดือนแรกของปี 2014 สามารถขายได้ถึง 91% จากมือถือ iPhone ทุกรุ่น แต่สำหรับ iPhone X สามารถขายได้เพียง 30% ส่วน iPhone 8 / 8 Plus ขายได้ 39% ที่เหลือ 31% เป็นยอดขายของ iPhone รุ่นเก่า

และตอนนี้ Apple ได้ลดกำลังการผลิตของ iPhone X เหลือเพียง 30 ล้านเครื่องเท่านั้น ซึ่งถือว่าจำนวนการผลิตหายไปถึง 40% เลยทีเดียว ทำให้โรงงานของ Foxconn ผู้ผลิต iPhone X ในเมืองเจิ้งโจว ประเทศจีน  หยุดจ้างแรงงานใหม่เพิ่มเติมไปแล้ว และโรงงานผลิตชิ้นส่วนยิบย่อยอื่นๆ ก็โดนหางเลขไปด้วย รวมไปถึงหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีของประเทศจีนก็ได้รับผลกระทบอีกเช่นกัน

นอกจากนี้นักวิเคราะห์ของบริษัทวิจัยการตลาด JL Warren Capital LLC ประเทศสหรัฐอเมริกา ยังได้ออกโรงเตือน Apple อีกด้วยว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2018 Apple อาจมีสิทธิลดจำนวนการผลิต iPhone X ลงอีก จาก 30 ล้านเครื่อง เป็น 25 ล้านเครื่อง เนื่องจากกระแสของบรรดาลูกค้าที่คิดว่า iPhone X มีราคาที่แพงเกินไป แต่ไม่ค่อยจะมีเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆ ที่น่าสนใจเลย

แต่ถึงยังไงตอนนี้ ราคาตลาดของบริษัท Apple ยังคงพุ่งไปถึง 9 แสนล้านดอลลาร์ แล้วในปี 2017 ต้องรอดูว่าในปี 2018 Apple จะสามารถผงาดขึ้นเป็นบริษัททางด้านเทคโนโลยีบริษัทแรกที่มีมูลค่าเกิน ล้านล้านดอลลาร์ ได้รึเปล่า

UPDATE : มีนักวิเคราะห์ชาวจีน Jun Zhang  ได้ออกมาให้ข่าวว่าข้อมูลที่สื่อไต้หวันรายงานนั้นน่าจะมีความผิดพลาด เพราะเท่าที่เขาทราบมานั้น iPhone X ไม่ได้ลดจำนวนการผลิตลง เพราะยอดดการสั่งจอ OLED และ 3D Sensor ยังเท่าเดิม แต่น่าจะเป็น iPhone 8 / 8 Plus มากกว่า ที่ลดจำนวนการผลิตลงไป แต่ล่าสุดหลังจากเปิดตลาดมาหุ้นของ Apple ในสหรัฐก็ร่วงลงไปเหมือนกัน (streetinsider)

 

ที่มา : Phonearena, 2, Bloomberg