ต่อคิวเพิ่ม! Yahoo และ Perplexity สนใจซื้อ Chrome ประเมินราคาขั้นต่ำ 5 หมื่นล้านดอลลาร์

Yahoo และ Perplexity เผยว่ามีความสนใจที่จะเข้าซื้อ Chrome หาก Google ถูกบังคับขายจากผลที่กระทรวงยุติธรรม (DOJ) ฟ้องร้อง Google ในคดีผูกขาด Search Engine เพราะมองว่าเป็นวิธีที่จะช่วยลดการผูกขาดของ Google ไปได้ ในส่วนของคู่แข่งอย่าง DuckDuckGo ประเมินว่า Chrome อาจจะมีมูลค่าราว 5 หมื่นล้านดอลลาร์เป็นอย่างต่ำ

chrome sale interest from yahoo and perplexity

Yahoo อยากซื้อ Chrome พร้อมซุ่มทำเบราว์เซอร์ของตัวเอง

Yahoo อดีตยักษ์ใหญ่ที่เคยครองตลาด Search Engine ซึ่งกำลังกำลังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาเว็บเบราว์เซอร์เป็นของตัวเอง ได้เปิดเผยต่อศาลว่า หากมีคำสั่งให้ Google จะต้องขาย Chrome ออกไป Yahoo ก็สนใจที่จะซื้อเอาไว้ โดยที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผยในระหว่างวันที่สี่ของการไต่สวนคดีผูกขาดของ Google ซึ่งมาจากหนึ่งในข้อเสนอของ DOJ ที่ยื่นให้ศาลพิจารณาเพื่อบังคับให้ Google จำเป็นต้องขาย Chrome ออกไป เพื่อลดการผูกขาดในตลาด Search Engine

แต่ Yahoo ไม่ใช่บริษัทเดียวที่ออกมาพูดเกี่ยวกับกรณีนี้ เพราะซีอีโอของ DuckDuckGo อีกหนึ่งคู่แข่งโดยตรงของตลาด Search Engine ได้ออกมาประเมินว่ามูลค่าหรือราคาธุรกิจของ Chrome อาจจะมีมูลค่าอยู่ที่ 5 หมื่นล้านดอลลาร์เป็นอย่างต่ำ พร้อมยอมรับว่าหากเป็นตามนี้จริง ก็คงจะเป็นราคาที่บริษัทของตนเองไม่สามารถซื้อไหว แต่บริษัทอื่นๆ อย่าง Yahoo, Perplexity และ OpenAI ก็ออกมายอมรับและพูดเต็มปากว่ามีความสนใจที่ซื้อ Chrome อย่างแน่นอน

Perplexity ไม่อยากให้ Chrome ตกไปอยู่ในมือ OpenAI

ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจของ Perplexity บริษัทสตาร์ทด้าน AI Search อย่าง Dmitry Shevelenko ซึ่งถูกศาลเรียกตัวมาให้การเช่นกัน (แม้เจ้าตัวจะไม่อยากมาเพราะกลัว Google เอาคืน) ได้แสดงความกังวลว่าอาจเป็นผลเสียมากกว่าหากมีคำสั่งให้ทำการขาย Chrome ออกจาก Google และต้องการให้ศาลไปโฟกัสที่การออกคำสั่งห้ามให้ Google ทำข้อตกลงผูกขาดบริการ Search Engine กับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายต่างๆ อาจจะเป็นวิธีที่ดีกว่าการต้องตกไปอยู่ในมือของ OpenAI

แต่สุดท้ายตัวของ Dmitry Shevelenko ก็ปิดท้ายในการให้การต่อศาลว่า สุดท้ายหากมีคำสั่งให้ Google ขาย Chrome ออกมาจริงๆ Perplexity ก็ยินดีและสนใจที่จะเข้าซื้อ Chrome โดยทันทีอย่างแน่นอน เพราะจริงๆ Perplexity ก็เคยแสดงความสนใจจะเข้าซื้อ TikTok มาก่อนหน้านี้ ในช่วงที่ตัวของแพลตฟอร์มดังกล่าวจะถูกแบนในอเมริกาจากความกังวลในเรื่องของความมั่นเพราะ ByteDance (บริษัทแม่ในประเทศจีน) เป็นเจ้าของ TikTok

ในตอนนี้อนาคตของตัว Google Chrome เอง ยังดูไม่แน่นอนเท่าไหร่ ว่าสุดท้ายการตัดสินใจของศาลจะออกมาเป็นแบบไหน แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้เรามั่นใจได้แล้วว่าบริการ Search Engine หรือ Google Chrome ดูจะเป็นของที่มีมูลค่า และเป็นประตูบานใหญ่ในการสร้างโอกาสอีกมากในสายตาของบริษัทใหญ่หลายราย

ที่มา : The Verge 1, The Verge 2, PYMNTS