โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เซ็นลงนามบังคับใช้กฎหมายใหม่ Protecting Americans from Foreign Adversary Controlled Applications Act ที่บังคับให้บริษัทชาติศัตรูต้องขายบริษัทให้กับบริษัทอเมริกันเพื่อป้องกันการแทรกแซงทางการเมือง ส่งผลให้ ByteDance จำเป็นต้องขายแอป TikTok ให้เสร็จสิ้นภายใน 9 – 12 เดือนข้างหน้า

สหรัฐฯ บังคับใช้กฎหมายใหม่แล้ว

สรุปไทม์ไลน์ก่อนหน้า: TikTok ใกล้โดนแบนของจริง หลังวุฒิสภาสหรัฐฯ เห็นชอบกฎหมายใหม่แล้ว

เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2024 ที่ผ่านมา โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาได้ประกาศเซ็นลงนามบังคับใช้กฎหมายใหม่ที่มุ่งเป้าจัดการบริษัทสัญชาติจีนอย่าง ByteDance ที่เป็นเจ้าของ TikTok อย่างเป็นทางการ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ ByteDance มีเพียงแค่ 2 ทางเลือกที่จะรอดจากการโดนแบนคือ

  1. ขายแอป TikTok ให้กับบริษัทสัญชาติอเมริกัน ภายในระยะเวลา 9 เดือน หรือยืดระยะเวลาเป็น 12 เดือนได้หากขั้นตอนการซื้อขายบริษัทยังไม่เสร็จสิ้น
  2. ถูกแบน หรือบังคับปิดบริการในสหรัฐฯ

การโต้กลับของ TikTok

หลังจากประกาศบังคับใช้กฎหมายจากสหรัฐฯ ออกมาได้ไม่นาน TikTok ก็ไม่รอช้าออกมาแถลงการณ์ว่ากฎหมายดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะถือเป็นการปิดกั้นการแสดงออกของผู้ใช้งานชาวอเมริกากว่า 170 ล้านราย รวมถึงจะส่งผลให้ธุรกิจกว่า 7 ล้านธุรกิจต้องเสียหาย และพร้อมต่อสู้ในชั้นศาล

นอกจากนี้ ByteDance ยังยืนยันว่าได้ลงทุนไปหลายพันล้านเหรียญฯ เพื่อให้ข้อมูลต่าง ๆ ของผู้ใช้งานในสหรัฐฯ ปลอดภัยการจากการเข้าถึงของรัฐบาลจีน

ยอมปิดดีกว่ายอมขาย

ล่าสุดมีรายงานจาก Reuters ว่า ทาง ByteDance จะไม่ยอมขาย TikTok ให้กับบริษัทอเมริกัน เพราะตัวอัลกอริทึมของ TikTok ถือเป็นหัวใจหลักของบริษัททำให้ไม่สามารถขายได้ และเลือกที่จะปิดให้บริการตัวแอปในสหรัฐฯ ไปเลย โดยตอนนี้ก็ได้เตรียมแผนที่จะยื่นอุทธรณ์คำสั่งแบนในชั้นศาล และขัดขวางกฎหมายที่เพิ่งการบังคับใช้ไป

ณ ปัจจุบัน TikTok ถือเป็นแอป Social Network ที่ได้รับความนิยมสูง และเติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยมียอดผู้ใช้งานต่อเดือนสูงกว่า 1.2 แสนล้านบัญชีทั่วโลก และมียอดผู้ใช้งาน Active Users ในสหรัฐฯ ถึง 170 ล้านบัญชี รวมถึงเป็นแอปแรกของโลกที่มียอดใช้จ่ายผ่านระบบ In-App Purchase สูงกว่าหนึ่งหมื่นล้านเหรียญฯ เลยทีเดียว

ที่มา: GSMArena (2) | Reuters