ตั้งแต่สมัยก่อนนู้นนน…ถ้าเราอยากจะดูหนังออนไลน์หรือคอนเทนท์ต่างๆ กับเพื่อนๆ หรือครอบครัว วิธีง่ายที่สุดคือดูจากหน้าจอโน้ตบุ๊ค หรือไม่ก็เสียบสายออกทีวีซะ ถัดมาอีกไม่นานเราก็สามารถดูหนังดูซีรีส์จากมือถือได้ และถ้าเราอยากจะดูกับทีวีจอใหญ่ ก็ต้องหาสาย MHL มาเสียบเอา…แต่หลังจากที่ Google เปิดตัว Chromecast ออกมาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว การแชร์คอนเทนท์ หรือดูวิดีโอจากแอปต่างๆ ก็สะดวกสบายมากกว่าเดิมแบบสุดๆ เลยล่ะ แล้วใครจะรู้ว่าเบื้องหลังของเทคโนโลยีล้ำๆ แบบนี้…มันมาจากภรรยาของวิศวกรคนนึงใน Google นี่เอง

และใครจะไปคิดล่ะ ว่าเทคโนโลยีเจ๋งๆ แบบนี้จะมีต้นกำเนิดเมื่อปี 2008 จากการที่นาย Majd Bakar วิศวกรผู้ออกแบบ Chromecast มักจะสังเกตว่าภรรยาของตัวเองชอบหาวิดีโอ หรือหนังใหม่ๆ ดูแบบออนไลน์อยู่บ่อยๆ ซึ่งกว่าจะได้ดูแต่ละทีก็ต้องเปิดโน้ตบุ๊ค, เข้าแอปดูหนังออนไลน์, จัดคิวหนัง, ปิดเครื่อง, ออกมาเปิดเครื่องเกม (PS3 และ Xbox 360 สามารถดู Netflix ได้) ที่เสียบกับจอทีวีอยู่แล้ว หลังจากนั้นก็เข้าแอปจากเครื่องเกม และถึงจะดูหนังที่ได้จัดคิวไว้จากโน้ตบุ๊คเมื่อกี๊อีกที…

ซึ่งตอนนั้น Majd ก็ได้แต่คิดว่า…จะดูหนังออนไลน์ผ่านจอทีวีมันต้องยุ่งยากขนาดนั้นเลยเหรอ? ซึ่งจริงๆ แล้วส่วนนึงเป็นเพราะสมัยนั้น UI ของทีวีแต่ละรุ่นใช้งานยาก และช้าสุดๆ กว่าจะพิมพ์ชื่อหนัง ค้นหาหนัง จัดคิวหนังเสร็จแต่ละทีนั่นแหละ ทำให้ Majd นึกออกว่าเราควรจะทำอะไรซักอย่างให้การเล่นคอนเทนท์ออนไลน์ขึ้นบนหน้าจอทีวีสามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านหน้าจอมือถือ และอุปกรณ์นั้นต้องมีขนาดเล็ก สามารถซ่อนได้ง่ายด้วย

และหลังจากที่ Majd ได้เข้ามาทำงานกับ Google เมื่อปี 2011 เค้าก็ได้นำเสนอความคิดดังกล่าว ว่าอุปกรณ์ตัวนี้ (Chromecast) มันจะช่วยให้การใช้งาน TV สะดวกขึ้นยังไงบ้าง ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากทาง Google จนได้ฤกษ์พัฒนา Chromecast แบบจริงจังเมื่อปี 2012 โดยในระหว่างการพัฒนา Chromecast นาย Majd ยังได้เอาตัวต้นแบบมาให้ภรรยาได้ลองใช้อีกด้วยนะ เพื่อดูว่ามันใช้งานได้ง่ายจริงๆ จนแม้แต่ภรรยาขี้บ่นของเค้ายังสามารถทำได้ด้วยตัวเอง และสุดท้าย Google ก็เปิดตัว Chromecast รุ่นแรกไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2013 โดยอุปกรณ์ดังกล่าวก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงมาจนถึงทุกวันนี้

Chromecast รุ่นแรกเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2013 นับอายุอานามได้ 5 ขวบเข้าไปแล้วหลังจากที่เทคโนโลยีล้ำๆ ตัวนี้ออกมาสู่ตลาด ซึ่งมาจากการสังเกตพฤติกรรมของคนรอบๆ ตัว เพื่อนำมาพัฒนาเทคโนโลยีที่ดีอยู่แล้วให้มันดียิ่งขึ้นไปอีกนั่นเอง

 

ที่มา : Google