แว่บเอาเรื่อง iPhone มาฝากกันหน่อย เพราะรอบตัวพวกเราน่าจะมีคนใช้กันไม่น้อย และเรื่องที่ถกเถียงกันให้ได้งงตลอดเวลาก็คือ เราจำเป็นต้องปิด Multitasking apps ตลอดเวลาหรือไม่ ซึ่งล่าสุดทางหัวหน้าทีม iOS คุณ Craig Federighi ได้ออกมาตอบปัญหาคาใจนี้ด้วยตัวเองว่าไม่ได้ช่วยในเรื่องแบตเตอรี่เลย และตัวเค้าเองก็ไม่เคยที่จะปิดอีกด้วย
ปกติทาง Apple จะเปิดให้ส่ง email เข้าไปถามผู้บริหารได้ และมีมานานตั้งแต่สมัย Steve Jobs และยังคงดำเนินต่อมาจนถึงสมัยของ Tim Cooks ซึ่งนาย Caleb เค้าก็ส่งเข้าไปถามว่า “ทิม คุณปิดแอพใน iOS multitasking บ่อยรึเปล่า? และมันจำเป็นต่อการยืดอายุแบตมั้ย? แค่อยากจะทำให้ข้อถกเถียงนี้จบไปซะที!” ซึ่งงานนี้ทางทิมไม่ได้ตอบเองแต่ส่งให้หัวหน้าทีม iOS มาตอบแทน ซึ่งก็มาแบบสั้นๆ ว่า “ไม่ และ ไม่” 😀
แม้ว่าทางคุณ Craig Federighi จะไม่ได้ให้เหตุผลในเรื่องนี้มา แต่คาดกันว่าเกิดจากการที่ระบบ iOS จะไม่ได้เปิดให้แอพต่างๆ สามารถทำงานเบื้องหลังได้อย่างอิสระเหมือนกับทาง Android ดังที่เราจะเห็นว่าเมื่อเราสลับแอพบน iOS แล้วแอพจะเหมือนถูก Freeze การทำงานไป จะไม่สามารถสั่งให้มันทำงานหนัก ๆ พร้อม ๆ กันได้หลายแอพอย่างบน Android ซึ่งข้อดีก็คือตัดปัญหาการกินแบตโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัวนั่นเอง
สำหรับคนใช้ Android หลายๆคนก็ถามปัญหานี้เข้ามา ส่วนตัวผมก็ไม่เคยจะสั่งปิดแอพนะ เพราะตัวระบบเองก็มีการบริหารจัดการเรื่องการใช้พลังงานและการทำงานใน background process อยู่ระดับนึงแล้ว และหลังๆมานี้ RAM ก็มีเยอะเพียงพอต่อการใช้งาน ทำให้ปกติจะสั่งปิดแอพใน recent apps ต่อเมื่อต้องการจะปิดแอพที่เราต้องการหยุดการทำงานของมันทันที หรือแอพที่เรากลัวว่ามันจะทำงานต่อไปเรื่อยๆเท่านั้นครับ
ที่มา PhoneArena
ผมปิดให้เหลือแต่ Facebook กับไลน์ตลอด -_- เพราะเล่นบ่อยสุด
ไม่รู้ถือเป็นการกระทำที่ผิดมั้ย
android
ส่วนตัวมองว่าที่แรมอาจจะเหลือเฟือจริงๆ คงเป็น ROM ของยี่ห้อมือถือ ที่ทำออกมาใกล้เคียงกับ Pure Android นะ
น้องที่ offiec เพิ่งซื้อ A5 (2016) มา ผมไปลองเล่นๆสักแปบๆเริ่มหน่วงและ ดูแรมก็เหลือใช้ไม่ได้มาก
เพิ่งถอยมือถือ Xiaomi เครื่องแรก มาใช้แทน Nexus5 ที่เดี๋ยวตายเดี๋ยวฟื้น
ขนาดแรม 3GB ตัว Miui 7 ยังกดไปซะ 1.8GB แล้ว ต้องมี Freeze หรือ Hibernate แอพอื่นๆไว้บ้าง..
เพราะเปิดใช้งานแอพไปเรื่อยๆ ก็เหลือแรมแค่ 300-400MB ..แต่ก็ไม่หน่วงนะ
แต่เปิด app ที่ค้างไว้ มันจะรีเฟชตัวเองบ้างเหมือนกัน
ส่วนตัวเป็นโรคจิตชอบเห็นแรมเหลือเยอะๆด้วยแหละครับ อิอิ
ผมปิดประจำ ทีหลังไม่ปิดแหละงั้น อยากประหยัดแบต IPhone แนะนำตั้ง แสงสว่างให้น้อยกว่า 50 % เวลาชาร์จเปิด โหมดเครื่องบิน ปิด Wifi เวลาไม่ได้เล่น ช่วยได้เยอะ ของผม 5S ใช้ที 5 วันแล้วชาร์จ
นั่งรอขาประจำ จะมาแขะมั้ยนาา อิอิ
มาตั้งแต่ Comment แรกเลยครับ..55+
ส่วนผมนั้นเห็นของแฟน i5 ไม่เคยปิดเลยด้วยซ้ำก็ยังไหลปื๊ดๆ
มีทั้งสองโอเอส ผมชอบปิดทิ้ง
iPad ที่ใช้ 2รุ่นก็รู้สึกแบบนั้นจริงๆ ปิดไม่ปิดไม่ต่างกันเลย
ผมปิดทั้งหมด แล้วก็ ปิดเครื่องชาร์จแบต ทำเฉพาะก่อนนอนทุกวัน
มันก็ควรจะเป็นยังงั้นนะ
การสลับแอพของไอโฟน แอพที่ถูกสลับไป จะอยู่ในสถานะถูกฟรีสเอาไว้คือไม่ได้ประมวลผล
ในเมื่อไม่ได้ประมวลผล ก็ไม่ได้กินไฟ หรือแรมเพิ่มแต่อย่างใด
ถ้าแอนดรอยด์นี่ นอกจากจะประมวลผลไปด้วย แล้วยังกินแรมไปด้วยอีกตะหาก
จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่แอนดรอยด์แรมยิ่งมากถึงยิ่งดี ในทางกลับกันแอปเปิ้ลไม่จำเป็นต้องมีมาก ก็ทำงานได้ดี
ถูกเลย แต่ปัจจุบันที่เห็น แรม 1GB ของ iOS เริ่มจะไม่พอแล้ว ตอนนี้ถ้าเปิด safari หลายหน้า พอกลับมาหน้าเดิม เจอ refresh บ่อยขึ้น
หลังอัพเดต iOS ใหม่ใน iPad แรม 1GB กับ 512 MB ที่ผมใช้ 2 รุ่น เครื่องอืดเป็นเต่าเลยนะ ต้องรีบขายทิ้ง กลัวราคาตกเพราะคนเริ่มรู้ความจริง
ให้แรมมาเกินก็ดีกว่าให้มาขาด
ถึงรู้มานานแล้วว่าปิดไปก็ไม่จำเป็นแต่มันติดนิสัยไปแล้ว เป็นต้องปิดทุกครั้งหลังเล่น 55
ไอโอเอสผมทำนะ ไม่ได้สนใจเรื่องประหยัดอะไร แต่ทำคือปิดหน้าแอพที่ไม่ค่อยใช้ไป เวลาสลับแอพจะได้หายง่ายๆ
ส่วนแอนดรอยไม่ค่อยืำ ถ้าเครื่องไม่หนืดๆหน่วยๆ แต่ส่วนใหญ่จะรีเครื่องมากกว่าได้ผลมากกว่าครับ
อ่าว คิดว่าเป็น true multitasking มาตั้งแต่ iOS 7 นะเนี่ย เห็นโม้ไว้บนสไลด์ตอนเปิดตัว
สรุป true multitasking ในความหมายของแอปเปิลเขาคืออะไร
มันคืออย่างงี้ครับ
ตามที่คุณพูดน่ะเข้าใจถูกแล้ว ว่ามัน true multitasking ตั้งแต่ iOS 7 แล้ว
ยก ตัวอย่าง ให้เห็นภาพที่ เค้าบอกว่าไม่ต้องปิดมันก็ประหยัดแบทเท่ากัน
คือ เวลาเราเปิดแอ๊บไปเรื่อยๆ 3-4 แอ๊บมันก็ ใช้งานทำงานเบื้องหลังปกติ
แต่ถ้าเราเปิดไปเป็น 10 -20 แอ๊บที่เราไม่เคยใช้หรือไม่ได้เปิด มันจะปิดให้เอง
Keyword มันอยู่ที่ มันจะปิดแอ๊บให้เอง ครับ
อย่างที่เวลาแรมหมด พอเปิดใหม่
มันรีโหลดใหม่น้่นและ นั้นคือ แอ๊บตัวนั้นได้ปิดตัวเองไปแล้ว
ซึ่งเราไม่ต้องจำเป็นมาคอยปิดเองไง ระบบมันได้จัดสรรให้เอง
ปล. แอ๊บที่ปิดตัวเอง มีเงือนไขหลายอย่างมาก ไม่ใช่แค่แรมหมดอย่างเดียว
แต่ขึ้นอยู่กับเวลาด้วย ถ้าแอ๊บไหนเรานานๆทีใช้ มันจะปิดตัวเองเหมือนกัน
ปล.2 ปิดตัวเองในที่นี้ไม่ใช่คือแอ๊บเด้งนะ
แต่หมายถึง แอ๊บมันรีโหลดใหม่ เวลาเปิดใน Recent App
งั้น Apple ก็อย่าใช้ คำว่า True Multitasking เลยครับ เพราะความหมายของคำ
กับผลที่แสดงออกมา มันคนละอย่างกัน ยกตัวอย่างนะครับ
– Dropbox, OneDrive, Google Drive เวลาสั่งอัพรูปเป็นร้อยๆรูปเนี่ย
กดยุบ(กดปุ่มโฮมจากหน้าแอพ กลับไปหน้าโฮม)แล้ว มันไม่อัพโหลดต่อ
– Line Call ทำไมต้องให้สไลด์หน้าล็อคหน้าจอก่อน ไม่เข้าใจ มันเสียเวลามากอ่ะ
นี่ครับ การทำงานแบบเบื้องหลังของจริงต้อง Google Photo ขนาดปิด รีเครื่อง
ยังมี service ของแท้ มาอัพโหลดให้โดยที่ยังไม่ได้สั่งมันเลย
อีกอย่างคำว่า Mutitasking คือทำงานพร้อมๆกันคับ แบบใน computer
อย่าง iPad ที่มี Split Mode อะ โอเคร multitasking จริง
ปล.ไม่ได้บอกว่า REAL multitasking ของ android ดีกว่า แต่บางที มันสะดวกกว่า
Dropbox, OneDrive, Google Drive มันก็ดาวน์โหลดต่อนะ
ปิดหน้าจอมันก็ทำงานเบื้องหลังครับ ผมว่าคุณคงเข้าใจผิดแล้วล่ะ
ลองทดสอบได้เลยครับ camera upload ใน Dropbox
ออกจากแอ๊ปไปเล่นอะไรก็ได้ รูปก็อับโหลดขึ้นเรื่อยๆ
ส่วน line call ต้องสไลด์ ก็ปกติป่าวครับ
เวลารับสายในหน้าจอล็อก มันก็ต้องสไลด์รับ
เพื่อกันกดปุ่มโดยไม่ตั้งใจ ก็เหมือนกับรับสายปกติ
ที่ต้องมาปิด app ไม่ใช่เพราะกินแบต แต่เป็นเพราะแรมไม่พอแล้วมันเด้งหลุดตลอด
+1 ครับ
ความจริงที่โหดร้าย T_T
แอพมากแอพน้อยก็หมดเร็วเหมือนเดิม #จบข่าว