เมื่อพูดถึง iPhone ก็คงไม่ต้องมาเกริ่นนำอะไรให้มากมาย มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ หลายๆคนคงอยากรู้ว่า iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ที่ทาง Apple ได้บอกว่ามีการปรับปรุงขึ้น 10 จุด และหนึ่งในนั้นก็คือกล้อง ที่มีการเพิ่มชิ้นเลนส์จาก 5 ชิ้นเป็น 6 ชิ้น และรูปรับแสงกว้างขึ้น จาก f/2.2 เป็น f/1.8 เพื่อให้เซนเซอร์รับแสงได้มากขึ้น ส่วนกล้องหน้าก็ได้เพิ่มความละเอียดจาก 5 ล้านพิกเซล เป็น 7 ล้านพิกเซล รวมไปถึงการใช้ Image Processor จากชิป A10 Fusion ตัวใหม่ และทุกครั้งที่มีการกดถ่ายภาพ จะมีการคำนวณถึงแสนล้านขึ้นตอน กว่าจะได้ภาพออกมา 1 ภาพ นั่นคือคุณสมบัติทางเทคนิค แล้วพอมาเป็นภาพจริงๆล่ะ จะทำได้ดีขนาดไหน

การทดสอบในครั้งนี้ จะไม่ได้ลงรายละเอียด และยังไม่มีการให้คะแนนใดๆ เพราะการทดสอบแบบละเอียดจะทำอีกครั้งในรอบการทดสอบประจำปีครับ ในครั้งนี้จะเป็นการทดสอบเปรียบเทียบแบบคร่าวๆ โดยจะมีทั้งหมด 19 รูปแบ่งเป็นหลายสภาพแสงดังนี้

  1. กลางแจ้ง ทั้งภาพมุมกว้าง และภาพซูม 2 เท่า
  2. ในร่ม (แสงจากหน้าต่าง) ทั้งภาพสิ่งของและภาพบุคคล
  3. ในร่ม แสงจากหลอดไฟ (สีโทนอุ่น) ทั้งภาพสิ่งของและกล้องหน้า
  4. ในร่ม แสงจากหลอดไฟ (สีโทนขาว) ทั้งภาพสิ่งของ, ภาพบุคคล และกล้องหน้า
  5. แสงน้อยมาก ทั้งภาพสิ่งของและภาพบุคคล

บอกไว้ก่อนว่าภาพทั้งหมดจะถ่ายในตำแหน่งเดียวกัน แต่ว่าช่วงเลนส์ของแต่ตัวจะไม่เท่ากัน ทำให้ภาพที่ได้จะมีมุมภาพที่ไม่เท่ากันนะครับ  แล้วแต่ละภาพจะมีการอธิบายสภาพแสงในช็อตนั้นๆ และมีการอธิบายประกอบภาพบ้าง แล้วให้ทางผู้อ่านเป็นคนตัดสินครับ แต่ในการทดสอบครั้งนี้ จะยังไม่มีการทดสอบโหมดภาพหน้าชัดหลังเบลอนะครับ เพราะทาง Apple ยังไม่ได้ออก Software ในโหมดนี้แบบตัวจริงออกมาให้ใช้งาน (มีแต่ตัว Beta) ซึ่งหลังจากที่ทาง Apple ออก Software ออกมา ก็จะมีการทดสอบให้ดูแบบเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นให้ดูอีกครั้งครับ มาเริ่มกันเลย

รูปที่ 1 สภาพแสงกลางแจ้ง

 

รูปที่ 2 เหมือนภาพข้างบน แต่เป็นการซูม 2 เท่า

ภาพนี้จะแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของเลนส์ซูม ในเวลาที่ต้องการซูมเข้าไปโดยที่ภาพยังไม่แตก แต่ก็แลกมากับโอกาสที่จะได้ภาพสั่นไหวนะครับ เพราะรูปนี้ถ่ายมาหลายภาพ แล้วหลายภาพที่ภาพสั่นครับ อาจจะเป็นเพราะเลนส์ตัวซูมไม่มีระบบกันสั่นก็เป็นได้

 

รูปที่ 3 กลางแจ้งเน้นพื้นที่สีเขียว

ภาพกลางแจ้งจาก 3 ภาพที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าสีที่ได้จาก iPhone 7 Plus จะจืดลงกว่า iPhone 6s Plus โดยให้ดูที่สีเขียว จะเห็นได้จากรูปที่ 3 ที่การวัดแสงออกมาใกล้เคียงกัน แต่ว่าสีเขียวจาก iPhone 7 Plus จะจืดกว่า iPhone 6s Plus ส่วน Note 7 จะมีการปรับภาพให้สวยออกมาเลย

 

รูปที่ 4 ถ่ายใกล้ของโบเก้ที่เกิดจากตัวเลนส์ (ไม่ใช่ software หรือ depth effect)

รูปนี้คือการถ่ายใกล้ เพื่อจะให้เกิดโบเก้ ให้ลองดูโบเก้ (คือส่วนที่ละลายฉากหลัง) จะเห็นว่า Note 7 จะละลายฉากหลังได้มากกว่าตัวอื่น ส่วน iPhone 7 Plus ทำโบเก้ให้เป็นเป็นวงๆชัดกว่าทาง iPhone 6s Plus และลองดูส่วนสีเขียวเทียบกันดู ก็จะเห็นว่าจืดลงกว่า iPhone 6s Plus เช่นกัน

 

รูปที่ 5

 

รูปที่ 6

รูปนี้ให้ลองดูสีแดงของ iPhone 7 Plus เทียบกับ iPhone 6s Plus จะเห็นว่าสีแดงก็จืดลงกว่าเดิมเช่นกัน

 

รูปที่ 7

รูปนี้ดอกไม้ของจริงจะสีแดงสดมาก และให้ดูสีแดงเทียบกันอีกที และรูปนี้ทำให้เห็นข้อดีอย่างเดียวของการไม่เร่งสีของ iPhone 7 Plus เพราะมิติการแยกสีของดอกไม้ สามารถทำได้ดีกว่าตัวอื่นทั้งหมดที่มีการเร่งสี หรือพูดง่ายๆก็คือเห็นการไล่โทนสีของสีแดงได้ชัดกว่าตัวอื่นๆนั่นเอง

 

รูปที่ 8 ภาพในอาคาร I โทนไฟขาว

 

รูปที่ 9 ภาพในอาคาร II โทนไฟขาว

รูปที่ 8 กับรูปที่ 9 ให้ลองดูสีเปรียบเทียบกันชัดๆอีกที

 

รูปที่ 10 ภาพในอาคาร III โทนไฟสีอุ่น

มาถึงรูปที่เป็นไฟสีโทนอุ่นล่ะครับ ให้ลองเทียบ White Balance ระหว่าง iPhone 7 Plus กับ iPhone 6s Plus ดูครับ จะเห็นว่าโทน White Balance ของ iPhone 7 Plus จะออกไปในทาง Magenta มากกว่าทาง iPhone 6s Plus (โทนชมพูม่วง) อยู่นิดๆ

 

รูปที่ 11 ภาพอาหาร

รูปนี้จะเห็นทั้งเรื่อง White Balance ที่ไปทาง Magenta และเรื่องของการไม่เร่งสี

 

รูปที่ 12 ภาพถ่ายในที่แสงน้อย I

 

รูปที่ 13 ภาพถ่ายในที่แสงน้อย II

รูปนี้แสงน้อยมากครับ โดยจะมีไฟสีโทนอุ่นอยู่ไกลๆ แต่ถือว่าแสงที่มาน้อยมากครับ จะเห็นว่า Noise และความสว่างของ iPhone 7 Plus ทำได้ดีกว่า iPhone 6s Plus พอสมควร และก็เห็น White Balance ไปในโทน Magenta เหมือนภาพด้านบนๆด้วยเช่นกัน

 

รูปที่ 14 ถ่ายภาพบุคคล I

ภาพถ่ายบุคคล แสงริมหน้าต่าง รูปนี้ถ้าดูกันดีๆ จะเห็นว่าภาพจาก iPhone 7 Plus มีการพยายามปรับความใสของหน้าให้ดูใสเด้งขึ้นมา แต่กลายเป็นว่าดูไม่เนียน และดูหลอกตานิดๆ เพราะหน้าผากและโหนกแก้มดูแบนขึ้นทันที และเหมือนโป๊ะแป้งที่โหนกแก้มและหน้าผากมากเกินไป

 

รูปที่ 15 ถ่ายภาพบุคคล II

รูปนี้ก็เหมือนรูปข้างบนเช่นกัน หน้ามีการเกลี่ยและทำให้มิติความโค้งบนใบหน้าหายไป เพราะต้องการทำให้หน้าใสเด้ง

 

รูปที่ 16 ภาพถ่ายบุคคล III แสงน้อยโทนอุ่น

รูปนี้แสงน้อยมาก และเป็นไฟโทนสีอุ่น จะเห็นว่าภาพจาก iPhone 7 Plus ทำออกมาได้ดี ทั้งในเรื่องของ Noise และ White Balance ที่ไปในโทน Magenta ที่เข้ากับรูปลักษณะนี้ เพราะชุดเป็นสีชมพู และโทนสีนี้ก็ทำให้สีผิวออกมาดูอมชมพูพอดี

 

ต่อไปมาดูกล้องหน้ากันบ้างครับ

รูปที่ 17 ภาพจากกล้องหน้า I แสงขาวในห้าง

รูปนี้เป็นแสงสีขาวในห้างที่สว่างพอสมควร จะเห็นว่า iPhone 7 Plus เมื่อเทียบกับ iPhone 6s Plus จะมีการเร่ง Clarity เพื่อทำให้ภาพดูเหมือนคมชัดและมีมิติมากขึ้น แต่กล้องหน้าก็ขอพูดถึง Huawei P9 Plus ไว้หน่อย เพราะว่าออกมาดูธรรมชาติที่สุดครับ 

 

รูปที่ 18 ภาพจากกล้องหน้า II แสงขาวในบ้าน

รูปนี้แสงสีขาวที่ไม่สว่างนัก แต่อยากให้ดูกำแพงด้านหลัง ที่รายละเอียดกำแพงหายไปเป็นปื้นๆ ซึ่งเป็นมาตั้งแต่ iPhone 6s Plus จนมาถึง iPhone 7 Plus นอกนั้นก็เหมือนคำอธิบายด้านบนครับ

 

รูปที่ 19 ภาพจากกล้องหน้า III แสงอุ่น

รูปนี้เป็นแสงโทนอุ่น ปริมาณแสงกลางๆ ไม่มากนักครับ และคำอธิบายก็ยังเหมือนด้านบนครับ

 

สรุป

มาถึงข้อสรุปที่ได้ ในมุมของการเปรียบเทียบระหว่าง iPhone 7 Plus กับ iPhone 6s Plus เท่านั้นก่อนนะครับ

  1. สีของ iPhone 7 Plus จะจืดลงไปจากเดิม (Saturate ลดลง)
  2. ในฉากที่มีความต่างของสภาพแสงในภาพมาก โทนการวัดแสง มีแนวโน้มว่าจะออกไปทางสว่างขึ้นกว่าเดิม ซึ่งหลายๆครั้งจะออกมาสว่างเกินไปนิด แต่จุดนี้สามารถปรับบนจอได้เลยอยู่แล้วครับ
  3. การถ่ายภาพในที่แสงน้อยดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดพอสมควร
  4. White Balance ในสภาพแสงโทนอุ่น ภาพที่ออกมาจะออกไปในโทน Magenta (ชมพูม่วง) มากกว่าเดิม (แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล)
  5. การถ่ายภาพบุคคล จะมีการเร่งหน้าใสให้ผิวหน้า ทำให้ไม่เห็นมิติความโค้งบนใบหน้า และบางทีดูเหมือนโป๊ะแป้งมากเกินไป (ยังไม่เนียนนัก)
  6. โหมดการซูม 2 เท่า ออกมารายละเอียดดี เพราะเป็นภาพจากเลนส์จริงๆ แต่ให้ระวังเรื่องภาพสั่นเอาไว้ เพราะเหมือนว่าในตัวเลนส์ซูมนั้นจะไม่มีกันสั่น

จบกันไปแล้วนะครับสำหรับการเปรียบเทียบในครั้งนี้ ชอบหรือไม่ชอบยังไงลองคอมเม้นท์กันมาได้เลยครับ แล้วรอดูทดสอบรอบใหญ่เร็วๆ นี้ จัดเต็มกว่านี้แน่นอนครับ