หลังจากที่ CrowdStrike สร้างความวุ่นวายให้กับระบบคอมพิวเตอร์สำนักงานทั่วโลกเมื่อเดือนที่ผ่านมา จากการที่ได้ปล่อยอัปเดตจนเกิด Error เป็นวงกว้างกระทบ ระบบธนาคาร ระบบเช็กอินของสายการบิน ล่าสุดสายการบินอย่าง Delta Airline รวมถึงนักเดินทางได้รวมตัวกันฟ้องบริษัท เพราะทำให้เกิดเที่ยวบินต้องดีเลย์ และยกเลิกจนเกิดเป็นความเสียหายอย่างหนัก

นักเดินทางได้รวมตัวกัน และยื่นฟ้องคดีแบบกลุ่มต่อศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ โดยระบุว่า CrowdStrike ดำเนินงานด้วยความประมาทเลินเล่อ ไม่ทำการทดสอบซอฟต์แวร์ ก่อนออกอัปเดตจนทำให้เกิดปัญหาทั่วโลก ส่งผลกระทบให้เที่ยวบินเกิดความล่าช้า หรือยกเลิก จนทำเกิดปัญหาตามมา ทั้งสูญเสียเงินค่าที่พัก, ค่าไฟลต์บิน รวมถึงไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้ทันเวลา และเสียสุขภาพจากการที่ต้องนอนในสนามบินเป็นเวลานาน

โดยนักเดินทางได้เรียกร้องให้ CrowdStrike ชดเชยค่าเสียหาย รวมถึงจ่ายค่าเสียหายเพื่อลงโทษให้กับผู้ที่เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตามทาง CrowdStrike ได้ออกมาตอบโต้ถึงคดีความดังกล่าวว่าไม่มีน้ำหนัก และจะทำการปกป้องบริษัทอย่างจริงจัง

ซึ่งนอกจากฝั่งของนักเดินทางแล้ว สายการบินดังของสหรัฐฯ อย่าง Delta Airline ก็มีแผนฟ้อง CrowdStrike ด้วยเช่นกัน โดยจะเรียกค่าชดเชยกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังทำให้ต้องยกเลิกไฟลต์บินกว่า 6,000 ไฟลต์ภายในระยะเวลา 6 วัน สร้างความเสียหายให้กับผู้โดยสารกว่า 500,000 ราย

และในกรณีนี้เอง CrowdStrike ก็ไม่ยอมเช่นกัน โดยได้ระบุว่าตนได้เสนอบริการช่วยเหลือให้กับ Delta ฟรี ๆ และจะส่งทีมงานไปช่วยแก้ไขปัญหาที่หน่วยงานของ Delta ในทุก ๆ สนามบินแล้ว แต่ทาง Delta ไม่ได้ติดต่อกลับมา แถมยังระบุด้วยว่าเป็นเพราะระบบ IT หลังบ้านของทางสายการบินนั้นมีความซับซ้อน และต้องซ่อมแซมด้วยวิธีแบบแมนวล

ถ้า Delta ต้องการยืนฟ้องร้องจริง CrowdStrike เรียกร้องให้ทางสายการบินชี้แจงว่า ในเมื่อสายการบินอื่น ๆ เจอผลกระทบแบบเดียวกัน ทำไมสายการบินอื่นสามารถแก้ไขปัญหาได้เร็วกว่า Delta และทำไมถึงปฏิเสธการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญของ CrowdStrike ที่จะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวให้คลี่คลายได้เร็วขึ้น

ณ ตอนนี้เอง Delta ก็โดนกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ สอบสวนในประเด็นที่ CrowdStrike สงสัยอยู่เช่นกัน ว่าทำไม Delta ถึงแก้ไขปัญหาได้ช้ากว่าสายการบินคู่แข่งอื่น ๆ

ที่มา: Reuters