Disney+ Hotstar ประกาศเปลี่ยนแปลงแพ็กเกจที่ให้บริการในประเทศไทย โดยยุติการจำหน่ายแพกเกจ Basic เดิม ที่มีราคา 99 ต่อเดือน และ 799 บาทต่อปี พร้อมออกแพ็กเกจ Standard มาแทน ราคา 199 บาทต่อเดือน และ 1,590 บาทต่อปี จุดสำคัญคือ การเพิ่มอุปกรณ์ที่ดูพร้อมกันได้เป็น 2 เครื่อง รองรับการรับชมบนทีวี และอัปเกรดความละเอียดภาพเป็น FHD จากเดิมแค่ HD

ก่อนหน้านี้ Disney+ Hotstar มีแพกเกตที่ให้บริการอยู่ 2 แพกเกจคือ Basic และ Premium

Basic (ยกเลิกแล้ว)

  • ราคารายเดือน 99 บาท
  • ราคารายปี 799 บาท
  • ล็อกอินได้ 4 เครื่อง
  • สร้างโปรไฟล์ได้ 7 โปรไฟล์
  • ดูพร้อมกันได้ 1 อุปกรณ์
  • ความละเอียด HD
  • ใช้งานได้บน มือถือ แท็บเล็ต และแล็ปท็อป

Premium

  • ราคารายเดือน 289 บาท
  • ราคารายปี 2,290 บาท
  • ล็อกอินได้ 10 เครื่อง
  • สร้างโปรไฟล์ได้ 7 โปรไฟล์
  • ดูพร้อมกันได้ 4 อุปกรณ์
  • ความละเอียด 4K
  • ใช้งานได้บน มือถือ แท็บเล็ต แล็ปท็อป และทีวี

ล่าสุด แพ็กเกจ Basic ถูกยกเลิกไปแล้ว ในขณะที่ Premium ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนแพ็กเกจ Standard ของใหม่ มีรายละเอียดดังนี้

Standard

  • ราคารายเดือน 199 บาท
  • ราคารายปี 1,590 บาท
  • ล็อกอินได้ 4 เครื่อง
  • สร้างโปรไฟล์ได้ 7 โปรไฟล์
  • ดูพร้อมกันได้ 2 อุปกรณ์
  • ความละเอียด FHD
  • ใช้งานได้บน มือถือ แท็บเล็ต แล็ปท็อป และทีวี
แพ็กเกจมาตรฐานแพ็กเกจพรีเมียม
ค่าบริการ รายเดือน199 บาท289 บาท
ค่าบริการ รายปี1,590 บาท2,290 บาท
สตรีมได้ทุกเรื่อง
ดาวน์โหลดสำหรับบางคอนเทนต์
(เฉพาะบนอุปกรณ์มือถือ / แท็บเล็ตเท่านั้น สูงสุด 10 อุปกรณ์)
จำนวนอุปกรณ์ที่เข้าสู่ระบบได้สูงสุดสูงสุด 4 อุปกรณ์สูงสุด 10 อุปกรณ์
จำนวนโปรไฟล์ที่สร้างได้สูงสุด 7 โปรไฟล์สูงสุด 7 โปรไฟล์
จำนวนอุปกรณ์ที่สตรีมได้พร้อมกัน2 หน้าจอ4 หน้าจอ
สตรีมผ่าน AirPlay หรือการแคสต์✓ 
คุณภาพของวิดีโอสูงสุดสูงสุด FHD (1080p)สูงสุด 4K Ultra HD
คุณภาพของเสียงสูงสุดสูงสุด Dolby Atmos (5.1 Dolby)สูงสุด Dolby Atmos (5.1 Dolby)
อุปกรณ์ที่สามารถสตรีมได้มือถือ, แท็บเล็ต, แล็ปท็อป, ทีวีมือถือ, แท็บเล็ต, แล็ปท็อป, ทีวี

จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า แพ็กเกจ Standard เป็นแพ็กเกจที่อยู่ตรงกลางระหว่าง Basic กับ Premium โดยทำลายข้อจำกัดหลาย ๆ อย่างของ Basic ที่อาจดูน่าอึดอัดทิ้งไป โดยเฉพาะการที่ไม่สามารถดูพร้อมกันหลายอุปกรณ์ได้ แต่ทั้งนี้ก็แลกมากับราคาที่ขยับขึ้นราว 2 เท่าเช่นกัน จึงน่าสนใจไม่น้อยว่า การเดินกลยุทธ์ในครั้งนี้ของ Disney+ Hotstar จะได้รับเสียงตอบรับไปในทิศทางใด

ที่มา : Disney+ Hotstar