รีวิว Baseus Bass BP1 Pro หูฟังไร้สาย True Wireless ในราคาหลักร้อย แต่ได้สเปคคุณภาพคุ้มค่าคุ้มราคา เสียงดีคมชัดระดับ Hi-Res มีระบบตัดเสียงรบกวน ANC และโหมดฟังเสียงภายนอก Transparency ตั้งค่าการสั่งงานด้วยการสัมผัสหลายรูปแบบ ไปจนถึง EQ Mode ที่มีให้เลือกเยอะถึง 7 แบบ ทั้งหมดนี้ในราคาเพียง 899 บาท

สเปคพื้นฐาน Baseus Bass BP1 Pro
- ไมโครโฟน 6 ตัว
- รองรับ Codec: SBC, AAC, LDAC
- ระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation
- รองรับการเชื่อมต่อในระยะ 10 เมตร
- มาตรฐานทนน้ำ : IP55
- แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด : 12 ชั่วโมง (ปิด ANC) และ 7 ชั่วโมง (เปิด ANC)
- รองรับ Bluetooth 6.0 เชื่อมต่อได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์
- น้ำหนักหูฟัง : 53 กรัม (119 กรัมหากรวมเคสชาร์จ)
แกะกล่อง Baseus Bass BP1 Pro
ภายในกล่องของ Baseus Bass BP1 Pro ประกอบไปด้วย เคสชาร์จหูฟัง (Charging Case) สีขาวทรงสี่เหลี่ยมโค้งมนซึ่งมีไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่ และพอร์ตชาร์จ USB-C เมื่อเปิดออกมาจะเจอกับหูฟังทั้งสองข้าง นอกจากนั้นแล้วก็ยังมี จุกหูฟังมาให้ทั้งหมด 4 คู่ 4 ขนาด สายชาร์จ USB-A to USB-C และคู่มือใช้งาน (Quick Start Guide) ที่ภายในจะมี QR Code ให้เราสแกนเพื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Baseus

ตัวหูฟังจะมีผิวสัมแบบมันวาว และมีสีเดียวกันกับตัวเคสชาร์จ ก้านหูฟังมีความยาวกำลังดี ด้วยความที่มีน้ำหนักเบา 53 กรัม และเป็นหูฟังทรง In-Ear ทำให้สวมใส่ได้สบายกระชับหูไม่รู้สึกว่าแน่นหรือหลวมจนเกินไป เหมาะมากๆ สำหรับใครที่กำลังหาหูฟังสำหรับใส่ออกกำลังกายเพราะ Baseus Bass BP1 Pro รองรับมาตรฐานการทนน้ำทนฝุ่น IP55



การควบคุมเพลงหรือระดับเสียงของหูฟังสามารถทำได้ด้วยการสัมผัสที่ตัวก้านหูฟัง ซึ่งเราสามารถตั้งค่าได้ผ่านหน้า Setting ของแอปพลิเคชัน Baseus ว่าจะให้การแตะแต่ละรูปแบบออกมาเป็นแบบไหน ซึ่งหลักๆ จะแบ่งออกได้เป็น 4 รูปแบบ
- แตะหูฟัง 1 ครั้ง
- แตะหูฟัง 2 ครั้ง
- แตะหูฟัง 3 ครั้ง
- แตะหูฟังค้าง (ข้างใดข้างหนึ่ง)

ตัวเคสชาร์จดีไซน์สี่เหลี่ยมโค้งมนเปิด-ปิดฝาแบบ Clamshell โดยพอร์ตชาร์จ USB-C จะวางอยู่ในตำแหน่งใต้เคสชาร์จ และอย่างที่เคยเกริ่นไปก่อนหน้านี้ว่าตัวเคสมีไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่อยู่ที่ด้านหน้าด้วย โดยรายละเอียดของไฟสถานะดังกล่าวจะแบ่งออกได้เป็นสามระดับ ดังนี้
- แบตเตอรี่ 0-20% ไฟสีแดง
- แบตเตอรี่ 20-40% ไฟสีเหลือง
- แบตเตอรี่ 40-100% ไฟสีเขียว

การเชื่อมต่อผ่านแอป Baseus
Baseus รองรับการเชื่อมต่อหรือ Pairing ผ่านบลูทูธซึ่งทำได้ง่ายๆ เมื่อเปิดบลูทูธบนอุปกรณ์หรือสมาร์ทโฟนที่ต้องการเชื่อมต่อ จากนั้นให้เลือก ‘Baseus Bass BP1 Pro’ เพื่อทำการเชื่อมต่อหรือถ้าไม่ขึ้นชื่ออุปกรณ์ให้กดเชื่อมต่อ เราสามารถทำการเชื่อมต่อด้วยวิธี Manual Pairing โดยแตะค้างที่หูฟังทั้งสองข้างพร้อมกันเป็นเวลา 3 วินาที จนได้ยินเสียง ‘ปิ๊ป’ สองครั้ง


แต่เพื่อการใช้งานฟีเจอร์หรือศักยภาพของหูฟังให้ได้มากที่สุด DroidSans แนะนำให้ผู้อ่านโหลดแอปพลิเคชัน Baseus มาใช้งานด้วยนะครับ เพราะภายในแอปพลิเคชันจะมีฟีเจอร์หรือความสามารถต่างๆ ให้เลือกใช้งานอีกเพียบเลย เช่น ดูสถานะแบตเตอรี่ของหูฟังกับเคสชาร์จ เปิดใช้งานโหมด Ambient sound ไปจนถึงปรับแต่ง EQ กับหูฟังไร้สายราคา 899 บาทได้ฟีเจอร์ใช้งานขนาดนี้ถือว่าคุ้มราคามากๆ



คุณภาพเสียงของ Baseus Bass BP1 Pro
Baseus Bass BP1 Pro มาพร้อมกับคุณภาพเสียงทรงพลัง ถ้าหากเชื่อมต่อเพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ Android จะรองรับการฟังเพลงไฟล์เสียงคุณภาพสูง LDAC หรือมาตรฐาน Hi-Res Audio ที่คุณภาพสูงสุด 990 kbps ซึ่งสูงกว่า SBC Codec ถึงสามเท่า โดยรวมแล้วเป็นหูฟังที่มีโปรไฟล์เสียงเน้นย่านเสียงเบสเป็นหลัก

แต่เพื่อผลลัพธ์ที่สามารถเห็นภาพหรือเข้าถึงได้ง่ายกว่านี้ เราเลยนำหูฟัง Baseus Bass BP1 Pro ให้ผู้ทดสอบทั้ง 3 คนซึ่งชื่นชอบการฟังเพลงแต่ละสไตล์แบบไม่ซ้ำกันไปใช้งานโดยความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณภาพเสียงจากผู้ทดสอบทั้ง 3 คนจะสรุปออกมาเป็นดังนี้
ผู้ทดสอบคนที่ 1 – แนวเพลงที่ชอบฟัง : Rock, Pop Rock

ผู้ทดสอบรายแรกชื่นชอบการฟังเพลง Rock หรือ Pop Rock เป็นหลัก ในเรื่องของเสียงถือว่าทำออกมา ‘ค่อนข้างน่าเซอร์ไพรส์กับราคา 899 บาท’ เบสหนักแน่น กระแทกชัดเจนมากกว่าหูฟังหลายรุ่นในเรทราคาเดียวกัน แต่ลักษณะของเบสจะเป็นแบบตื้น ไม่ลงลึกจนบางครั้งรู้สึกว่าไปกลบย่านเสียงอื่นๆ
ย่านเสียงร้องดูเบาบางไปหน่อย ทำให้เวลาเปิดเพลงที่เน้นเสียงของนักร้องเป็นหลักอาจจะยังไม่โดดเด่นออกมาสักเท่าไหร่นักเพราะโดนย่านเสียงอื่นๆ บนเวทีกลบ แต่ถ้าใครชอบฟังเพลงที่เน้นจังหวะกับเบสเป็นหลักก็จะรู้สึกว่าสนุกและฟังง่ายมากๆ
ผู้ทดสอบคนที่ 2 – แนวเพลงที่ชอบฟัง : Pop, Pop Dance

ในมุมของผู้ทดสอบคนที่สองซึ่งชอบฟังเพลง Pop หรือ Pop Dance ก็ยืนยันไปในทางเดียวกันว่าหูฟังรุ่นนี้ ‘ย่านเสียงเบสเด่นมาก’ เบสมาเป็นลูกชัดเจนฟังแล้วสะใจ แต่บางครั้งก็อาจแรงไปจนรู้สึกกระแทกหูถ้าใช้ฟังต่อเนื่องนาน ๆ อาจมีโอกาสปวดหัวบ้าง
ย่านเสียงร้องยังไม่ค่อยโดดเด่นสักเท่าไหร่ เวทีเสียงโดยรวมไม่ได้กว้างมาก ทำให้เสียงนักร้องกับดนตรีไม่แยกชั้นกันเท่าไร แต่ถึงอย่างนั้นกลับให้ความรู้สึกที่สนุกในการฟังได้ง่ายมาก ถ้าใครชอบหูฟังที่จูนมาเอาใจสายเบสต้องถูกใจแน่นอน เหมาะกับเพลงที่ฟังง่ายเข้ากับรสนิยมคนไทยได้ดี เช่น T-POP
ผู้ทดสอบคนที่ 3 – แนวเพลงที่ชอบฟัง : Hip-Hop, R&B

สุดท้ายคือแนวเพลง Hip-Hop, R&B ผู้ทดสอบคนที่สามให้คำบรรยายว่าว่าหูฟังรุ่นนี้เหมาะกับการฟังเพลง Hip-Hop หรือ R&B ที่มีจังหวะกับซาวด์ดนตรีที่หนักแน่น เบสที่ชัดเจนกระแทกเป็นลูกๆ ช่วยขับให้เพลงมีพลังและทำให้รู้สึกสนุกตลอดทั้งการฟัง
แต่ย่านเสียงร้องกับการแยกชิ้นดนตรีของ Baseus Bass BP1 Pro อาจยังไม่โดดเด่นสักเท่าไหร่ เสียงร้องไม่ค่อยลอยขึ้นมาเหนือดนตรีสักเท่าไหร่ แต่หากมองในมุมของความ ‘เพลิน’ และ ‘จังหวะ’ ก็เรียกว่าเป็นหูฟังไร้สายในช่วงราคา 800-900 บาทที่น่าใช้มากๆ เลย


หากใครที่ใช้งานไปแล้วยังรู้สึกไม่ชอบรูปแบบเสียงมาตรฐานที่ถูกตั้งค่ามาตรฐานมาจากโรงงาน สามารถเข้าไปปรับ Equalizer (EQ Mode) ในแอป Baseus ได้ตามต้องการซึ่งมีให้เลือกมากถึง 7 แบบ และยังสามารถปรับแต่งหรือเพิ่ม Equalizer นอกเหนือจากพรีเซ็ตมาตรฐานที่มีมาให้ในแอปเพิ่มได้ด้วยตนเองอีกด้วย
- Baseus Classic
- Deep Bass
- Hi-Fi Live
- Jazz
- Classical
- Treble Boost
- Acoustic
นอกจากนี้ตัวแอปยังมีระบบ Dynamic Sound กับ Spatial Acoustics ให้เราเลือกใช้งานในกรณีที่ไม่ต้องการเปลี่ยนค่า EQ แต่ต้องการปรับให้โปรไฟล์เสียงเน้นเบสลึกหรือเสียงแหลมสูงใส (Bass Boost และ Dynamic Balance) ให้เหมาะกับเพลงหรือคอนเทนต์ที่เรากำลังดูอยู่ตอนนั้น เช่น ฟังเพลงหรือดูหนัง ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับหูฟังในช่วงราคานี้

ไมโครโฟนของ Baseus Bass BP1 Pro มีอยู่ด้วยกันข้างละ 3 ตัว รวมเป็นไมโครโฟนทั้งหมด 6 ตัว ซึ่งทำงานร่วมกับระบบ AI ตัดเสียงรบกวนเพื่อให้มั่นใจว่าคู่สนทนาของเราจะได้ยินเสียงของเราชัดเจน สามารถใช้งานคุยสนทนาหรือประชุมออนไลน์ได้แบบหายห่วงเลยครับ ถือว่าทำได้ดีสมกับราคาที่จ่ายไป
ระบบตัดเสียงรบกวน ANC เป็นยังไง
ในรุ่นนี้ถึงแม้จะมีราคาเพียง 899 บาท แต่ก็ยังมีระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation พร้อมเซนเซอร์ตรวจจับเสียงรบกวนแบบเรียลไทม์ถึง 4 ตัว สามารถลดเสียงรบกวนได้มากถึง -50dB มีให้เลือกปรับด้วยกันทั้งหมดสามระดับได้แก่ Normal (ปิด), Transparency (เปิดรับเสียงรอบข้าง) และ Noise reduction (ตัดเสียงรบกวน)

จากการทดลองใช้งานไม่ว่าจะเป็น นั่งรถไฟฟ้า เดินริมถนน และเดินในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน ถือว่าตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ในระดับปานกลางค่อนไปทางดี เสียงรถไซเรน เสียงประกาศบนรถไฟฟ้า ลดเสียงดังกล่าวไปได้เยอะพอสมควร ไม่มีอาการเสียงเพี้ยนที่ตัวซอฟต์แวร์ตัดออกไม่หมดโผล่มาให้ได้ยิน เราสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะให้โหมดตัดเสียงรบกวนทำงานแบบไหน อ้างอิงจากสถานที่หรือสถานการณ์ที่เราอยู่ในตอนนั้น
- Adaptive
- Indoor
- Outdoor
- Commuting
- Custom (เลือกระดับความเข้มข้นเองได้จาก 1-5)


แบตเตอรี่ใช้งานได้นานเท่าไหร่
Baseus Bass BP1 Pro สามารถใช้งานได้ยาวๆ แบบไม่ต้องชาร์จบ่อยให้กวนใจ หากเปิดใช้งานโหมดตัดเสียงรบกวน (ANC) สามารถใช้งานหูฟังได้ต่อเนื่องสูงสุด 7 ชั่วโมง และถ้าหากปิดใช้งานโหมดตัดเสียงรบกวน (ANC) จะสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 12 ชม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

และถ้าใช้งานหูฟังร่วมกับเคสชาร์จแล้วล่ะก็ บอกได้เลยว่าใช้งานกันแบบเพลินๆ พกติดตัวไปใช้ฟังเพลง ประชุมออนไลน์หรือดูคลิป ฟังพอดแคสต์ตอนทำงานนอกสถานที่ เช่น คาเฟ่ สวนสาธารณะ ระหว่างเดินทางไกล ก็ไม่ต้องกลัวว่าแบตจะหมดระหว่างวัน ใช้งานสูงสุด 55 ชั่วโมง (เมื่อปิด ANC) หรือสูงสุด 36 ชั่วโมง (เมื่อเปิด ANC)
ฟีเจอร์เสริมอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เมื่อเชื่อมต่อ Baseus Bass BP1 Pro และใช้งานกับแอป Baseus ก็จะมีฟีเจอร์พิเศษอื่นๆ ให้ใช้งานกันอีกเพียบ เช่น Gesture Setting ที่เลือกได้ว่าหูฟังทั้งสองข้างเมื่อแตะเพื่อออกคำสั่งแล้วจะให้เป็นการสั่งการอะไร ไม่ว่าจะเป็น เล่น-หยุดเพลง, ข้ามเพลง, ย้อนกลับไปเพลงก่อนหน้า, เพิ่ม-ลดเสียง, รับ-ปฎิเสธสายโทรเข้า ไปจนถึงแตะเพื่อ สลับโหมดตัดเสียงรบกวน หรือเปิดรับเสียงรอบข้าง


อีกหนึ่งฟีเจอร์เด็ดก็คือ Find headphones หรือความสามารถในการหาหูฟังที่เราลืมวางทิ้งเอาไว้ที่ไหนสักแห่ง โดยจะปรากฎขึ้นเป็นแผนที่หรือพิกัดโดยรวมของหูฟัง เราสามารถกดเลือกให้หูฟังข้างใดข้างหนึ่งส่งเสียงเพื่อให้ตามหาง่ายขึ้นได้ แต่เสียงที่ส่งออกมาอาจจะไม่ได้ดังมากนะครับ เห็นผลได้ดีที่สุดคือเราวางทิ้งไว้ในห้องที่ไม่มีเสียงรบกวนหรือเป็นห้องที่เงียบสนิท


สรุปจุดเด่นของ Baseus Bass BP1 Pro
ด้วยค่าตัวหลักร้อยสำหรับหูฟังไร้สายที่รองรับฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation รองรับเสียงคุณภาพสูงระดับ Hi-Res พร้อมระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานสูงสุดถึง 55 ชั่วโมง (เมื่อปิด ANC และใช้งานร่วมกับเคสชาร์จ) ทำให้หูฟังอย่าง Baseus Bass BP1 Pro นับได้ว่าเป็นหูฟังสาย Budget สิบใบแดงได้ทอนหลักร้อยอีกหนึ่งรุ่นเลย ที่ควรค่าแก่การเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ สำหรับทุกคนประจำปี 2025 ด้วยสไตล์ที่เน้นเสียงเบสเป็นหลัก ฟังง่าย ฟังสนุก แถมยังปรับ EQ ด้วยตัวเองได้อีก

การรับประกัน และราคาจำหน่าย Baseus Bass BP1 Pro
Baseus Bass BP1 Pro ราคา 899 บาท (ยังไม่นับรวมส่วนลดจากโค้ดนะ) มีวางจำหน่ายบนช่องทางออนไลน์ทั้งหมดสามสีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น สีขาว (Moon White) สีดำ (Cosmic Black) และสีฟ้า (Galaxy Blue) สามารถสั่งซื้อได้ด้วยการคลิกลิงก์ตามช่องทางต่อไปนี้เลยครับ



พร้อมรับประกันสินค้านาน 18 เดือน ไม่มีซ่อมเปลี่ยนสินค้าให้ใหม่ทันทีผ่านตัวแทนจำหน่ายหรือร้านค้าออนไลน์ที่ทำการซื้อ Baseus Bass BP1 Pro
Comment