ขอเชิญพบกับ รีวิว Huawei Ascend P1 มือถือที่ แรง เบา และบาง ที่สุดของค่าย Huawei (แพงที่สุดของค่ายด้วย กับราคาเปิดตัว 14,900 บาท) ซึ่งตอนนี้น่าจะมีวางขายหลายร้านแล้ว แต่หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้จักมันซักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นลองมาสัมผัส Ascend P1 ผ่านทางสายตากับ DroidSans review กันสักหน่อย

== ==  VDO Review :  Huawei Ascend P1 (U9200) == ==

Play video

.

.

เพื่อนสมาชิกบางคนบอกเน็ทไม่ดี ไม่มี WiFi ต่อดู งั้นขอเชิญชม Photo review แบบคร่าวๆ ไปก่อนได้ครับ

 == == Photo Review == ==

Huawei Ascend P1 ตัวเครื่องบางเพียง 7.7 มิลลิเมตร หน้าจอเป็น Gorilla Glass บอดี้เป็นพลาสติกขึ้นรูปทั้งเครื่อง ทำให้น้ำหนักเบา

 

ฝาหลังไม่สามารถแกะได้ ทำให้ต้องวางช่องใส่ micro SD ไว้ที่ด้านขวา และช่องใส่ SIM ที่ด้านบนของตัวเครื่อง 

 

หน้าจอ Super AMOLED 4.3 นิ้ว สีสันสดแสบตา สว่างและคมไปทั้งจอ ส่วนของ Homescreen นั้นคงความเป็น Google ICS ไว้ 90% แต่มีเพิ่ม toggle swicth ไว้ให้เปิดปิดพวก bluetooh wifi ได้สะดวกขึ้น

 

กล้องหลังความละเอียด 8 ล้าน มีลูกเล่นพวก effect สีสัน และ filter พอสมควร รวมถึงการเล่นกับใบหน้าคนตามภาพ ส่วนกล้องหน้า 1.3 ล้านนั้นไม่ได้ชัดสักเท่าไหร่

 

ส่วนการใช้งานวิทยุนั้น ก็ต้องเสียบหูฟังเพื่อเป็นเสาสัญญาณเช่นเดิม

 

ระบบเสียง Dolby Mobile 3.0 นั้นช่วยให้เสียงบน Ascend P1 ดีขึ้น ทั้งลำโพงภายนอกและหูฟัง เปิดทิ้งไว้เลยดีแล้ว

 

การเล่นเว็บนั้นลื่นและติดนิ้วดี ไม่ว่าจะเป็นการย่อขยาย หรือเลื่อนไปมา

  

ส่วนการเล่นเกมนั้นไม่มีปัญหา ลื่นๆ ไม่มีกระตุก เพราะ CPU 1.5 GHz dual-core เอาอยู่

 

คราวนี้มาดูตัวอย่างภาพถ่ายและวิดีโอกันดีกว่า

 

  == == Huawei Ascend P1 8 Mpixel Main Camera Sample == ==

ตัวอย่างภาพ 8 ล้านจากกล้องหลัก

 

 

ใครสนใจอยากดูภาพต้นฉบับเชิญได้เลยที่ Huawei Ascend P1 sample images

 

== ==   Huawei Ascend P1 1080p HD camcorder sample == ==

ตัวอย่าง VDO จากกล้องหลัง ความละเอียด 1080p Full HD

Play video

 

 

== == ล้วง แคะ แกะ spec == ==

1. UMTS HSDPA หรือ 3G ระดับ H

– Huawei Ascend P1 รองรับ 3G ทุกเครือข่ายในเครื่องเดียว

2. ขนาดหน้าจอ

จอ 4.3 นิ้ว กับความละเอียด qHD 960×540 Super AMOLED สีสันสดแสบตา

3. หน่วยประมวลผล CPU + GPU

– ใช้ CPU TI-OMAP 1.5 GHz dual-core + GPU PowerVR 540

4. RAM / Internal Memory

– RAM 1 GB / ROM 4 GB ตัว system กินไปเยอะ เหลือแบ่งเป็น Internal Memory 1.8 GB เอาไว้ลงแอพ สามารถใส่ micro SD เพิ่มได้ถึง 32 GB

5. Wireless b/g/n + Bluetooth

– ใช้ Bluetooth 3.0 โอนถ่ายข้อมูลได้เร็วขึ้น มี WiFi สามารเปิด WiFi hotspot ได้ มี DLNA แชร์ข้อมูลผ่าน WiFi

6. GPS with AGPS

– จับสัญญาณได้เร็ว ไม่เกิน 2 นาทีโดยเปิดใช้งานการระบุตำแหน่งผ่าน Wireless Location ช่วยด้วย ทดลองบนที่โล่ง ฟ้าเปิด ไม่มีเมฆ 

7. ลำโพง และระบบเสียง Dolby Mobile 3.0

– เสียงดังลำโพงดังมาก ออกโทนใสๆ ถ้าเปิด Dolby Mobile ช่วยนี่ เสียงดีขึ้นทั้งลำโพงภายนอกและหูฟัง ส่วนการฟังเพลงจากหูฟังให้เสียงโทนกลางๆ ใสๆ เบสมากลางๆ ไม่หนักมาก

8. Camera and Front-facing camera

– กล้องหลัก 8 ล้านโฟกัสเร็ว ชัตเตอร์ก็เร็วด้วย ความคมของภาพค่อนข้างโอเค มีปัญหาเรื่อง white balance ในบางครั้ง ส่วนเรืองสีภาพก็ค่อนข้างธรรมชาติ กล้องหน้า 1.3 ล้านแต่ภาพก็ไม่ได้ชัดมาก

9. FM Radio

– มี FM Radio ใช้งานได้ด้วยการเสียบหูฟัง

10. Battery life

– แบตขนาด 1670 mAH ซึ่งตัว Ascend P1 มีการจัดการพลังงานที่ค่อนข้างดี แบตอึดกว่าที่คิด ใช้งานได้ทะลุวันสบายๆ

*ปรับความสว่างหน้าจอลงที่ประมาณ 30% ใช้งานโทรศัพท์ประมาณ 30 นาที เล่นเวบและโซเชียล 60 นาที ถ่ายรูปไปประมาณ 10 รูป เปิด data online ตลอดทั้งวันบน 3G

 

สรุปส่งท้ายให้ Huawei Ascend P1 ถือเป็นมือถือที่ลื่นไหลใช้งานสนุกอีกเครื่องนึงเลยทีเดียว ตัวเครื่องก็บางเบาสวยใช้ได้ ส่วนของวัสดุนั้นเป็นพลาสติกขึ้นรูปทั้งหมด ซึ่งตรงนี้แล้วแค่คนชอบเลย แต่ปัญหาสำหรับคนที่สนใจและอยากได้คือ มันหาซื้อลำบากนี่แหละ เท่าที่ทราบมาคือมีขายแค่ TG Fone กับ TWZ เท่านั้น ราคาเปิดตัวก็ 14,900 บาท ซึ่งถ้าดูจาก spec แล้วการรองรับ 3G ทุกเครือข่าย CPU dual-core และมาเป็น android ICS 4.0 เพิ่ม micro SD ได้ ขนาดเครื่องบางเบา ก็น่าจะทำให้หลายๆ คนแอบลังเลระหว่าง OPPO Finder , Huawei Ascend P1 และ Sony Xperia S กันอยู่ เพราะราคาและสเปคพอๆ กันทั้งนั้นเลยนะครับ


จบการรีวิวเพียงเท่านี้ สวัสดีจ้า