dtac ออกแอปใหม่ที่จะมาช่วยทำให้เหล่าผู้ที่มีเครื่องแค่ซิมเดียว ใช้งานได้เพิ่มขึ้นอีกถึง 5 เบอร์ กับ “dtac call” ใช้ได้ทั้งโทรออกหรือรับสาย แถมยังรองรับ WiFi Calling โทรเข้า-ออกได้แม้อยู่ต่างประเทศด้วยอัตราค่าบริการเหมือนอยู่ไทยโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม เพียงแค่ผูกเบอร์ของเราเอาไว้กับแอป เสร็จพร้อมใช้งานได้ง่ายๆภายในไม่กี่นาทีเท่านั้น
dtac call น่าจะถูกใจเจ้าของกิจการหรือคนที่จำเป็นต้องมีหลายๆเบอร์สำหรับใช้ติดต่อลูกค้า หรือจะติดต่อใครก็แล้วแต่ โดยที่ไม่ต้องคอยพกมือถือหลายๆเครื่องให้หนักกระเป๋ากันอีกต่อไปแล้ว เพราะแอป dtac call สามารถลงทะเบียนเบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ของ dtac เอาไว้ในแอปนี้สูงสุดถึง 5 เบอร์ด้วยกัน โดยไม่ต้องใช้แม้แต่ซิมการ์ด
สรุปฟีเจอร์ของ dtac call
- ใช้งานได้สูงสุด 5 เบอร์
dtac call คือ แอปพลิเคชันใหม่สำหรับผู้ใช้เบอร์ดีแทค ที่ทำให้สมาร์ทโฟนเพียง 1 เครื่อง สามารถใช้งานได้สูงสุด 6 เบอร์ โดยตัวแอปใช้ได้สูงสุด 5 เบอร์ บวกเบอร์ซิมในเครื่องอีก 1 รวมเป็น 6 เบอร์ในเครื่องเดียวเท่านั้น ไม่ต้องพกสมาร์ทโฟนหลายเครื่องอีกต่อไป (ถ้าเครื่องรับ 2 ซิมก็กลายเป็นใช้งานได้ทั้งหมด 7 นะ) - รับส่ง SMS ได้ตามปกติ
dtac call ได้เพิ่มการรับและส่งข้อความผ่าน SMS ภายในแอปพลิเคชัน ทำให้สามารถทำธุรกรรมซื้อของออนไลน์ จ่ายเงิน จองตั๋วเครื่องบิน และอื่นๆ ที่ต้องใช้การยืนยัน OTP จาก SMS ได้ ขอแค่เชื่อมต่อสัญญาณเน็ตผ่านทาง WiFi หรือ 3G / 4G เท่านั้น แถมยังใช้งานได้แม้แต่ตอนอยู่ต่างประเทศอีกด้วย(การโทรออกผ่านแอป ด้วย 3G / 4G ไม่ต้องเสียเน็ตในแพ็กเกจ แม้อยู่ต่างประเทศ) - เลือกเบอร์ที่ต้องการใช้โทรออกได้
ผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน dtac call สามารถโทรออกสู่เบอร์บ้านและเบอร์มือถือโดยเลือกโทรจากหมายเลขได้ทั้ง 5 หมายเลขในแอปพลิเคชัน โดยที่ไม่ต้องใส่รหัสทางไกลหรือรหัสประเทศ (แม้ทำการโทรออกขณะอยู่ที่ต่างประเทศ) โดยผู้รับสายปลายทางก็ไม่จำเป็นต้องมีแอป dtac call ติดตั้งอยู่ - ใช้ฟังก์ชั่น WiFi Calling ได้ทุกเบอร์
ผู้ใช้งาน dtac call ยังสามารถใช้งานฟังก์ชัน WiFi Calling ผ่านแอปพลิเคชันได้ทั้ง 5 หมายเลข โดยผู้ใช้งานเบอร์ดีแทคสามารถเลือกใช้งานโทรผ่าน WiFi หรืออินเทอร์เน็ต 3G / 4G ได้ทุกที่ทั่วโลกนอกเหนือจากใช้สัญญาณมือถือปกติ โดยสามารถใช้งานโทรออก-รับสายได้แม้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ แต่บริเวณนั้นมีสัญญาณ WiFi และที่เจ๋งสุดๆ คืออยู่ต่างประเทศทั่วโลกก็ใช้งานได้เหมือนอยู่ประเทศไทยและคิดอัตราค่าบริการตามแพ็กเกจปกติที่สมัครไว้ใช้งานในประเทศไทย ขอแค่เชื่อมต่อกับ WiFi หรือ 3G/4G ก็พอ - รับสิทธิพิเศษ dtac reward ได้ตามปกติ
ผู้ใช้งานสามารถรับสิทธิพิเศษ dtac reward จากทุกหมายเลขที่ใช้งานในแอปพลิเคชันทั้งรับส่วนลดหรือสิทธิพิเศษต่างๆ ได้ผ่านสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว
**แต่สำหรับเบอร์โทรศัพท์ของ dtac ทั้ง 5 เบอร์ ที่จะนำมาใช้งานในแอป dtac call นั้น ต้องเป็นเบอร์ที่ลงทะเบียนโดยเจ้าของเดียวกันเท่านั้น อันนี้ก็เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานต่างๆนั่นเอง**
ส่วนวิธีการใช้งานแอป dtac call นั้นก็ไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก แค่เราโหลดแอปตัวนี้มาติดตั้งเอาไว้ในเครื่องแล้วก็ลงชื่อเข้าใช้ได้เลย โดยใส่เบอร์ dtac และรหัสที่เราได้ลงทะเบียนไว้
วิธีการใช้งาน
ในการเพิ่มเบอร์อีก 4 เบอร์เข้าไปในแอป ให้เข้าไปที่หน้าหลักของแอปและกดที่สัญลักษณ์โทรศัพท์ที่มุมขวาบน แล้วกดที่ “เพิ่มเบอร์ดีแทค” หรือจะกดเข้าไปที่สัญลักษณ์ตั้งค่ามุมซ้ายบน (3 ขีด) เลือก “จัดการเบอร์ทั้งหมด” และเลือก “เพิ่มเบอร์ดีแทค”
เมื่อกรอกเบอร์ที่จะเพิ่มแล้วก็กดที่ “ขอรับรหัสผ่าน” เมื่อได้รหัสแล้วก็ใส่ซะ แล้วกด “ยืนยันรหัส” เป็นอันเสร็จพิธี
ส่วนการเลือกใช้เบอร์แต่ละเบอร์ที่ได้ทำการลงทะเบียนเอาไว้ก็แค่เข้าไปที่หน้าหลักของแอป >กดที่แถบสีฟ้าด้านบน > เลือกหมายเลขที่ต้องการโทรออก แค่นี้เอง
การโทรออกก็เหมือนกับการโทรออกทั่วไป โดยกดหมายเลขหรือเลือกจากหมายเลขที่บันทึกเอาไว้ในเครื่อง
หากต้องการส่งข้อความ (SMS) ก็แค่เข้าที่หน้าหลักของแอปแล้วเลือกที่ “ข้อความ” > เลือกเบอร์ > พิมพ์ข้อความและกดส่ง
การใช้งานหลักๆของ dtac call ก็มีแค่นี้เอง ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย จะเหมือนการใช้งานโทรศัพท์ทั่วๆไปนี่แหละ เพียงแต่เราจะต้องเข้าไปทำในแอป dtac call เท่านั้น ส่วนการรับสายก็ไม่ต้องทำอะไรเลย เมื่อมีคนโทรเข้ามาเราก็กดรับสายตามปกติ
และคาดว่าหลายๆคนต้องมีคำถามเกี่ยวกับแอปและบริการ dtac call แน่ๆ ว่ามันทำงานยังไง มีค่าบริการเพิ่มเติมรึเปล่า คุณภาพเสียงเป็นยังไงบ้าง ฯลฯ เราก็เลยรวบรวมเป็น FAQ เอาไว้ให้ตามนี้เลย
dtac call มีการคิดค่าบริการยังไง
การโทรออก-รับสาย และ รับ-ส่งข้อความ SMS บนแอปพลิเคชัน dtac call จะคิดค่าบริการตามแพ็กเกจของเราตามการใช้งานปกตินี่แหละ
การคิดค่าบริการโทรออก-รับสาย
1. การโทรหาเบอร์ประเทศไทยจะคิดค่าบริการตามแพ็กเกจปัจจุบันที่เราใช้
2. การโทรออกหาเบอร์ต่างประเทศ จะคิดค่าบริการโทรต่างประเทศ (เช็คค่าบริการให้ดีๆก่อนละกันนะ)
3. การรับสายไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนทั่วโลก ก็รับสายฟรีเหมือนอยู่ประเทศไทย
การคิดค่าบริการรับ-ส่งข้อความ (SMS)
1. การส่งข้อความหาเบอร์ประเทศไทยจะคิดค่าบริการตามอัตราแพ็กเกจที่เราใช้
2. การส่งข้อความหาเบอร์ต่างประเทศ จะคิดค่าบริการโทรต่างประเทศ (อันนี้ก็ต้องเช็คราคาดีๆนะ)
3. รับข้อความ SMS ฟรี
*การโทรออก-รับสาย และการรับ-ส่งข้อความ (SMS) จะต้องทำรายการผ่านแอปพลิเคชัน dtac call
**ทุกบริการของ dtac call จะต้องใช้อินเทอร์เน็ต ซึ่งมีค่าใช้จ่ายตามแพ็กเกจที่เราใช้ แต่ถ้าเราใช้เบอร์ dtac อยู่ สามารถใช้โทรออกรับสายได้โดยไม่เสียเน็ตในแพ็กเกจนะ
การโทรด้วยแอปพลิเคชัน dtac call ต่างกับการใช้แอปพลิเคชันอื่นยังไง
การโทรผ่านแอป dtac call เป็นบริการพิเศษสำหรับลูกค้าดีแทค โดยที่ทุกคนสามารถโทรหาเราผ่านเบอร์มือถือได้ตามปกติ และปลายสายไม่จำเป็นต้องโหลดแอปด้วย ไม่ว่าจะเบอร์บ้านหรือเบอร์อะไร ก็ติดต่อได้สะดวก และการคิดเงินก็สะดวก แถมยังสบายตัวเพราะไม่ต้องพกมือถือหลายๆเครื่องให้หนักกระเป๋าอีกตะหาก เพราะ dtac call รวม 5 เบอร์ไว้ในมือถือเครื่องเดียวแล้ว
คุณภาพการโทรด้วย dtac call เป็นยังไง
คุณภาพการโทรด้วย dtac call จะขึ้นอยู่กับคุณภาพสัญญาณเน็ตที่ทำการเชื่อมต่ออยู่ ถ้าสัญญาณ WiFi ไม่เสถียร ก็จะกระทบกับคุณภาพเสียงเช่นกัน
เบอร์ในเครื่องต้องเป็น dtac เท่านั้นใช่มั้ย
ข้อนี้อาจจะเป็นข้อจำกัดเดียวที่ทำให้ dtac call ดูใช้ยาก เพราะการใส่เบอร์ dtac ทั้ง 5 เบอร์ลงในแอป ต้องเป็นเบอร์ dtac ที่ลงทะเบียนด้วยชื่อเดียวกันทั้งหมด แน่นอนว่าผู้ใช้ส่วนมากก็ต้องมีเบอร์ค่ายอื่นด้วย และเบอร์พวกนั้นจะใส่ในแอปนี้ไม่ได้ แต่เราก็ยังสามารถใส่ซิมค่ายอื่นในเครื่อง แต่ใช้เบอร์ dtac ในแอป dtac call ได้ด้วยนะ
สรุปจากการทดลองใช้งาน
จากการที่ได้ทดลองใช้งานแอป dtac call ก็พบว่าพอเราลงทะเบียนเบอร์อะไรเรียบร้อยแล้ว มันใช้งานได้สะดวกจริงๆ โดยเฉพาะคนที่มีเบอร์ dtac มากกว่า 2 เบอร์ขึ้นไป เพราะไม่ต้องคอยพกมือถือหลายๆ เครื่อง มีแค่เครื่องเดียวก็ใช้ได้ตั้ง 5 เบอร์ และถ้ามือถือรองรับการใช้งาน 2 ซิม ก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก เพราะเราสามารถใส่ซิมของค่ายอื่นเอาไว้ในเครื่อง แต่ใน dtac call ก็ยังใช้เบอร์ของ dtac ได้ด้วยเพราะมันไม่จำเป็นต้องใส่ซิม dtac เอาไว้ในเครื่องนั่นเอง แปลว่ามือถือที่รองรับ 2 ซิม สามารถใส่ซิมเพื่อใช้งานเบอร์ของค่ายอื่นได้ 2 เบอร์ + เบอร์ใน dtac call อีก 5 เบอร์ เลยทีเดียว (แต่เบอร์ใน dtac call ต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่นะ จะเป็น wifi หรือ 3G / 4G จากซิมค่ายอื่นก็ได้) ซึ่งการใช้งาน dtac call นี้ ยังทำให้มือถือที่ซื้อมาจากต่างประเทศแต่โดนล็อคโซนซิม หรือแท็บเล็ตที่ไม่รองรับการใช้งานโทรศัพท์ ให้สามารถใช้งานเป็นโทรศัพท์ได้แค่มี แอป dtac call ติดตั้งเอาไว้ และต้องเชื่อมต่ออยู่กับอินเทอร์เน็ตเท่านั้นเอง ถือว่าเป็นแอปที่พลิกแพลงการใช้งานได้เยอะเลย
สำหรับการใช้งานก็ไม่มีอะไรยุ่งยากเลย เมื่อมีสายเข้าเราก็แค่กดรับตามปกติเหมือนเราใช้เบอร์ธรรมดาๆ นี่แหละ โดยในหน้าจอที่ใช้โทรศัพท์ก็จะมีข้อความโชว์ว่าสายนี้โทรเข้ามาที่เบอร์ไหน และการโทรออกก็แค่เข้าไปในแอป dtac call เลือกเบอร์ที่ต้องการโทรออก แล้วก็เลือกเบอร์ผู้ติดต่อของเราและโทรออกไปได้เลย…ง่ายๆ แบบนี้แหละ
ผู้ใช้งาน Android ที่สนใจแอป dtac call ก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดมาใช้ได้ฟรีๆ จาก Google Play Store ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คลิก: http://bit.ly/Callcli_Droidsans และสำหรับผู้ใช้งาน iOS ก็รอกันอีกแป๊บเดียว เพราะว่าทีมพัฒนา dtac call กำลังเร่งพัฒนาแอป dtac call สำหรับ iOS อยู่เลย คาดว่าอีกไม่นานนี้ได้ใช้กันถ้วนหน้าแน่นอน
เป็นแอปที่ดีมาก แต่ต้องปรับปรุงเยอะ มันตั้งค่าสลับอัตโนมัตไม่ได้ หมายถึงเมื่อไม่มีสัญญาณไวไฟ มันก็ยังใช้ งานผ่านดาต้า และเมื่อมีสายเข้า มันก็ยังเรียกเข้าผ่านตัวapp พอใช้ไปสัก1วัน กลายเป็นว่าวันนั้นทั้งวันมีแต่สายไม่ได้รับ ไม่มีใครโทรเข้าได้เลย (โทรออกได้ปกติ)ผมติดตั้งไปสองรอบแล้ว ตอนนี้ถอดถาวร รอการปรับปรุง
ผมลองใช้มาได้สักพัก ทำงานได้ดีมากกับ Redmi Note 3 SD (Android 6 Global Rom)
มันสามารถรู้ตัวได้เองเลยว่า ถ้ามือถือเรามีสัญญาณก็จะโทรปกติ
พอไม่มีสัญญาณ ก็จะวิ่งเข้า Dtac Call ให้เองแล้วใช้งานผ่าน WiFi
แต่กับ Xiaomi Mi3 (Android 6 Developer Rom) ดันมีปัญหาแบบที่คุณ e20rsn เจอเลยครับ
ถ้ามือถือมีสัญญาณปกติ แต่เปิด Dtac Call เอาไว้ จะกลายเป็นคนอื่นโทรเข้าไม่ได้เลย
ต้อง Off Dtac Call ที่เบอร์นั้นๆเองทุกครั้ง
แต่ถ้าถอด Sim เบอร์นั้นออกไปเลย ใช้ WiFi อย่างเดียว
คนอื่นจะโทรเข้า Dtac Call ได้ปกติ
นี่ก็ว่าเดี๋ยวไปญี่ปุ่น เอา Sim2Fly ใส่เอาไว้
แล้วใช้ Dtac Call รับ/โทร หาลูกค้าสบายๆเลย
เรียกได้ว่า Dtac ทุบหม้อข้าวลูกค้า Roaming ของตัวเองทิ้งซะอย่างนั้น
ไม่รู้ผมตอบตรงคำถามรึเปล่านะฮะ ในเมนู Manage Number เราสมารถเลือกได้ว่าจะให้สายเรียกเข้ามันดังที่ dtac call หรือที่ซิมน่ะครับ
สอบถามนิดนึงครับ
สมมติผมไปฮ่องกง ผมเสียบซิมของฮ่องกงที่ใช้เป็น data unlimited และเปิด Dtac call ไว้ด้วย ไม่แน่ใจว่าสามารถทำให้คนโทรเข้าโทรออกได้รึเปล่าครับ ถ้าทำได้นี่ปลดแอกหลายข้อจำกัดเลยทีเดียว
เพะราจากที่เคยใช้ wifi calling ที่ตปท ส่วนมากจะยังไม่ค่อยเสถียร (โทรออกได้ แต่คนโทรเข้ามาไม่ติด) และก้อยังต้องเสียบซิมดาต้าที่ประเทศนั้นๆเพื่อมาปล่อย WIFI ให้เครื่องที่เปิด wifi calling อีกทีนึง
ได้ครับ
ผมกะว่าเอาไว้อุดช่องว่างตามสถานที่สัญญาณอ่อนๆ แต่กลับเจอปัญหาแบบนี้ซะงั้น
"การโทรออกผ่านแอป ด้วย 3G / 4G ไม่ต้องเสียเน็ตในแพ็กเกจ"
ถ้าใช้เครื่อง2ซิม เปิดดาต้าซิม1 ทรู ซิมสองดีแทค +ลงทะเบียนเบอร์ดีแทคอีก4 เบอร์ เวลาโทรเบอรดีแทคผ่านแอพ ต้องใช้ดาต้า ของซิม1 ใช่ไหมครับ ดาต้าที่ใช้นี่ มากน้อยขนาดไหนพอมีรายละเอียดไหมครับ
ใช่ครับ มันจะกิน data จาก SIM1 กรณีที่เราไม่ได้ต่อ WiFi
ส่วนจำนวน data ที่ใช้ ผมลอง google ดู
มีคนลองคำนวณเล่นๆได้ประมาณ 45MB ต่อชั่วโมง (ขึ้นกับ codec ที่ใช้)
อ้างอิง
https://www.lifewire.com/megabytes-for-one-minute-conversations-3426705
ผมมองว่า เป็น app ที่มีประโยชน์สำหรับคนเดินทางไป ตปท มาก
เพราะไม่ต้องใส่ sim จริง ไม่ต้องเสี่ยงเรื่อง roaming
เราไปประเทศไหน ก็ซื้อ sim เติมเงินสำหรับ 3G/4G ในประเทศนั้นๆ
แล้วเปิด dtac call ทิ้งไว้ จบเลย
ผมทดลองแล้วก็โอเครนะ แต่ปกติผมมี เครื่องที่ใส่ซิมด้วยอยู่แล้วสำหรับเบอร์ที่แอดในแอพ dtac call
ในแอพ เราเลือกได้ด้วยนะว่าจะใช้งานผ่านแอพ หรือ ใช้งานผ่านซิมได้
ตอนนี้สรุปแล้ว ก็ลงแอพไว้แอดเบอร์เรียบร้อย สถานการปกติ ก็ตั้งให้ทำงานผ่านซิมตามปกติทุกเบอร์ และคาดว่า จะตั้งค่าใช้งานให้ผ่านแอพเป็นครั้งเป็นกรณีไปตามความสะดวก ก็โอเครนะ มีทางเลือกเพิ่มคับ สำหรับเวลาลืมเครื่องสำรอง ก็ตั้งค่าให้ใช้งานผ่านแอพมาเครื่องหลักได้เลย หรือเวลาแบบไปออกกำลังกายไม่ต้องการพก 2 เครื่อง ก็ตั้งให้ย้ายการใช้งานมาผ่านแอพแทนซิมได้เลย
เข็ดหลาบกับ capture ก็พอแล้วอ่ะ วันดีคืนดีบอกแอพหมดอายุ, ต้องเสียเวลาไปโหลดภาพกลับ.