วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการยื่นเอกสารเข้าร่วมการประมูลคลื่น 1800MHz ซึ่งหลายฝ่ายก็จับตาดูว่า AIS และ dtac จะเอาอย่างไร หลัง TrueMove H ประกาศถอนตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว โดย dtac น่าจะเป็นค่ายที่อยากได้ที่สุด เพราะเป็นคลื่นเดิมของตน แต่ล่าสุดเช้านี้ทางดีแทคได้ส่งจดหมายประชาสัมพันธ์ถึงสื่อต่างๆ แจ้งถึงการไม่เข้าร่วมประมูลเรียบร้อย แจงมีคลื่นเพียงพอ ต้องการคลื่นความถี่ต่ำมากกว่า และราคาตั้งต้นที่สูงเกินไป
ยื่นคุ้มครองใช้คลื่น 1800MHz ต่อจนกว่าจะมีการประมูลคลื่นครั้งใหม่
การประมูลคลื่น 1800MHz ครั้งนี้เป็นการนำคลื่นที่หมดสัมปทานซึ่ง dtac ใช้งานอยู่ออกมาประมูล เมื่อดีแทคไม่ตอบรับการประมูล ก็ทำให้บางคนอาจกังวลว่าจะมีปัญหาอะไรต่อการให้บริการหรือไม่ โดยทางดีแทคได้ชี้แจงว่าทำการยื่นคุ้มครองต่อ กสทช. ไปเรียบร้อย ลักษณะเดียวกับที่ AIS และ TrueMove H ต่างก็เคยทำก่อนหน้านี้ ทำให้ดีแทคจะยังสามารถใช้งานคลื่น 1800MHz นี้ต่อไป จนกว่าจะมีการประมูลคลื่น จนมีเจ้าของสัมปทานรายใหม่เกิดขึ้นมา และจะมีการส่งค่าเช่าคลื่นนี้ให้แก่รัฐตามปกติ โดยรายละเอียดของค่าใช้จ่ายอยู่ที่เท่าไหร่อย่างไรนั้นยังไม่เปิดเผยออกมา แต่แว่วๆว่าอาจจะแพงกว่าที่ส่งให้ CAT ในปัจจุบันเสียอีก
คลื่นความถี่เพียงพอ การประมูลไม่น่าจูงใจ
ทางดีแทคได้ชี้แจงเรื่องนี้เอาไว้ว่าในปัจจุบันบริษัทได้คลื่น 2300MHz จากทาง TOT เข้ามาเติมพอร์ท (ประกอบกับจำนวนลูกค้าที่น้อยลงตามลำดับ) ทำให้มีคลื่นความถี่ที่เพียงพอต่อการให้บริการ โดยถือครองคลื่นความถี่ 2100 MHz เป็นจำนวน 2×15 MHz และคลื่น 2300 MHz เป็นจำนวน 1×60 MHz ซึ่งถ้าหมดสัมปทานคลื่น 1800 MHz และสิ้นสุดระยะเวลาเยียวยาแล้ว ดีแทคยังมีคลื่นย่านความถี่สูงเพิ่มมากกว่าอีกเดิม 10 MHz จากคลื่นใหม่ 2300 MHz อีก อย่างไรก็ดีคลื่นความถี่ที่ dtac มีนั้นเป็นเพียงช่วงความถี่สูงเท่านั้น จะยังไม่แก้ปัญหาในเรื่องความครอบคลุมที่มีปัญหาอยู่สักเท่าไหร่นัก
[บทวิเคราะห์] dtac-T ช่วยแก้ปัญหาความเร็วเน็ต แต่อาจจะไม่ได้แก้เรื่องการครอบคลุมของสัญญาณhttps://t.co/Nwzj32jD0H
— droidsans (@droidsans) June 8, 2018
และอีกประการหนึ่งที่เป็นปัจจัยทำให้ดีแทคไม่เข้าร่วมประมูลในครั้งนี้คือราคาเริ่มต้นที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลกมาก และกฎการประมูลที่ควรปรับปรุง คือ ควรปรับให้ขนาดคลื่นที่ออกมาประมูลมีจำนวนต่ำลง ซอยคลื่นความถี่ 45MHz ลงให้เป็นใบอนุญาตละ 5MHz จำนวน 9 ใบและยกเลิกการตั้งเกณฑ์จำนวนใบอนุญาตจะมีน้อยกว่าจำนวนผู้ประมูลหนึ่งใบ และลดราคาตั้งต้นลง โดยเมื่อเป็นตามนี้แล้ว AIS, dtac, TrueMove H ก็จะสามารถประมูลใบอนุญาตกันได้ตามความเหมาะสม อยากได้คลื่นปริมาณ 10MHz 20MHz หรือ 30MHz ก็ลงเงินกันได้ตามกำลังทรัพย์ ซึ่งถ้าใครอยากได้คลื่นมากก็จะกดประมูลคลื่นกันขึ้นไปสูงตามความต้องการเอง
ลงสถานีฐานเพิ่มเติมแก้ปัญหาความครอบคลุมของสัญญาณ
เรื่องความครอบคลุมของสัญญาณโดยเฉพาะในต่างจังหวัด จะมีปัญหาค่อนข้างมาก และจากการที่มีแต่คลื่นความถี่สูงนี้ก็ทำให้ดีแทคจำเป็นต้องลงเสาสถานีฐานเพิ่มเติมจำนวนมาก โดยในปีที่ผ่านมาลงไปเพิ่ม 4,000 แห่ง และในปีนี้หากรวมกับที่ตกลงเอาไว้กับทีโอทีที่ต้องขยายสถานีฐานคลื่น 2300MHz แล้ว จะมีการขยายเสาเพิ่มอีกถึง 7,000 แห่งเลยทีเดียว อย่างไรก็ดี จำนวนสถานีฐานที่ลงเยอะนี้นั้น จะไม่ได้การันตีว่าจะแก้ปัญหาเรื่องความครอบคลุมได้ทั้งหมด ต้องรอติดตามต่อไป เพราะอย่างที่บอกคือ คลื่นความถี่สูง จะไม่สามารถส่งสัญญาณได้ไกลนักมากนั่นเอง
ช่วงบ่ายนี้ทางดีแทคจะมีเปิดโต๊ะแถลงข่าวตอบทุกข้อสงสัยในเรื่องการไม่เข้าร่วมประมูลคลื่น 2300MHz นี้ ถ้าใครอยากรู้อะไร ฝากคำถามเอาไว้ได้นะครับ ถ้าได้คำตอบจะเอามาบอกกันครับ
ที่มา จดหมายข่าวประชาสัมพันธ์จากดีแทค
ดีแทคมั่นใจถือครองคลื่นย่านความถี่สูงมากพอ ไม่เข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ 1800MHz
15 มิถุนายน 2561 – บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค แจงไม่ยื่นประมูลคลื่นความถี่1800 MHz ที่จัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ทั้งนี้ ดีแทคยังให้ความสำคัญแผนคุ้มครองลูกค้าใช้งานมือถือหลังหมดสัมปทาน จะต้องได้รับความคุ้มครองและไม่กระทบการใช้งานตามที่เคยมีกรณีสิ้นสุดสัมปทานคลื่นความถี่กับผู้ให้บริการรายอื่น พร้อมมุ่งให้ความสำคัญกับกระบวนการการมีส่วนร่วมกับผู้กำหนดนโยบาย และหน่วยงานกำกับดูแลเรื่องการจัดสรรคลื่นย่านความถี่ต่ำ (low-band spectrum) ในอนาคต
นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า“ดีแทคได้พิจารณาการเข้าร่วมประมูลอย่างรอบคอบ โดยมีข้อสรุปถึงการถือครองคลื่นย่านความถี่สูง (high-band spectrum) มีปริมาณมากพอที่จะรองรับการใช้งานดาต้าที่เติบโตขึ้นในอนาคต โดยการประมูลในครั้งนี้คงหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ไม่เอื้อประโยชน์ให้บริษัทฯ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าและผู้ถือหุ้นได้ในระยะยาว ดีแทคมั่นใจในการให้บริการอย่างต่อเนื่องจากจำนวนคลื่นความถี่ทั้งหมดที่ถือครองมากพอที่จะรองรับการเติบโตการใช้งานดาต้าของลูกค้า และเตรียมพร้อมสำหรับมาตรการคุ้มครองลูกค้าเพื่อไม่กระทบการใช้งานจากกรณีสิ้นสุดสัมปทานคลื่นความถี่”
ดีแทคมีคลื่นย่านความถี่สูงปริมาณมากเพียงพอ
ปัจจุบัน ดีแทคได้ถือครองความถี่ย่าน 2100 MHz จำนวน 2×15 MHz และมีคลื่นใหม่ความถี่ 2300 MHz จำนวน1x60MHz ซึ่งเป็นคลื่นความถี่เดียวที่กว้างที่สุดในประเทศไทย ซึ่งถ้าหมดสัมปทานคลื่น 1800 MHz และสิ้นสุดระยะเวลาเยียวยาแล้ว ดีแทคยังมีคลื่นย่านความถี่สูงเพิ่มมากกว่าอีกเดิม 10 MHz จากคลื่นใหม่ 2300 MHz ที่จะนำมาให้บริการสำหรับคลื่นย่านความถี่สูงอย่างพอเพียง
ทั้งนี้ คลื่น 2300 MHz ได้ถูกนำมาให้บริการ 4G TDD เพื่อตอบสนองการใช้งานดาต้าที่เน้นการดาวน์โหลด สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้าที่หันมานิยมการรับชมวิดีโอผ่านสมาร์ทโฟนจำนวนหลายชั่วโมงต่อวัน
ถึงแม้ว่าดีแทคจะสิ้นสุดสัมปทานคลื่น 1800 MHz และ 850 MHz ดีแทคยังมีปริมาณคลื่นความถี่ที่จะให้บริการต่อจำนวนลูกค้ามากกว่าผู้ประกอบการรายอื่น (ดีแทคมีจำนวนคลื่นเฉลี่ย 2.75 MHz ต่อจำนวนลูกค้า 1 ล้านราย ในขณะผู้ให้บริการรายอื่นมีจำนวน 1.37 MHz และ 1.99 MHz)
ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่าย ดีแทคยังเร่งขยายสถานีฐานอย่างรวดเร็วกว่าที่ผ่านมา โดยมีการขยายเพิ่มสถานีฐาน 3G/4G บนโครงข่าย 2100 MHz จำนวน 4,000 แห่งต่อปีในช่วง 2560-2561 ซึ่งขยายรวดเร็วกว่าเดิมถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อน ดีแทคยังรุกขยายสถานีฐานสำหรับการใช้งานบนคลื่นความถี่ 2300MHz dtac TURBO ด้วยเทคโนโลยี 4G TDD ให้ได้อีกอย่างน้อย 4,000 แห่งในปีนี้ตามข้อตกลงกับทีโอที และหากดีแทคสามารถทำได้เต็มกำลังการติดตั้งสถานีฐานคาดว่าจะขยายได้มากถึง 7,000 แห่งในปลายปีนี้
อุตสาหกรรมโทรคมนาคมต้องการคลื่นย่านความถี่ต่ำ (LOW-BAND SPECTRUM)
จากที่ประเทศไทยมีคลื่นย่านความถี่สูง (high-band spectrum) รองรับบริการ ดีแทคขอย้ำว่าภาพรวมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของไทยในขณะนี้ต้องการคลี่นความถี่ต่ำ (low-band spectrum) มากกว่า เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนในต่างจังหวัด และพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงบริการโทรคมนาคมขั้นพื้นฐาน และกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับชุมชน การสร้างนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการและปัญหาเฉพาะในแต่ละท้องถิ่น อันจะนำมาซึ่งการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ แต่ประเทศไทยยังขาดแผนการจัดสรรคลื่นความถี่ต่ำที่จะมาให้บริการ
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังติดกับดักต้นทุนของคลื่นความถี่ที่สูงระดับโลก เมื่อรวมกับข้อกำหนดกรณีผู้เข้าร่วมประมูลมีจำนวนเท่ากับหรือน้อยกว่าจำนวนใบอนุญาต หรือ N-1 จะนำประเทศไปสู่สภาวะขาดคลื่นความถี่เพื่อนำมาใช้งาน เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในภูมิภาคเดียวกัน ประเทศไทยจ่ายค่าบริการอินเทอร์เน็ตที่สูงกว่าแต่กลับได้ใช้งานความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ช้ากว่าประเทศอื่น การตั้งหลักเกณฑ์ที่ไม่เหมาะสมจะนำไปสู่ภาวะการขาดแคลนคลื่นความถี่ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ช้าลง โดยจะส่งผลเสียต่อภาพรวมในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของประเทศไทย
มั่นใจให้บริการอย่างต่อเนื่อง
ในขณะเดียวกัน การให้บริการมือถืออย่างต่อเนื่อง หรือ “ซิมไม่ดับ” คือหน้าที่ร่วมกันของ กสทช. ในฐานะองค์กรกำกับดูแล ซึ่งมีหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคในกิจกรรมโทรคมนาคม และถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกับผู้ให้สัมปทานคลื่นความถี่ พร้อมกับผู้ประกอบการโทรคมนาคมในการที่จะต้องให้บริการตามประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พ.ศ. 2556 และ พ.ศ. 2558 เพื่อคุ้มครองลูกค้าให้สามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง โดยดีแทค และ CAT ได้ร่วมยื่นแผนคุ้มครองลูกค้าใช้งานมือถือหลังหมดสัมปทานคลื่น 1800 MHz และ 850 MHz ต่อ กสทช. เมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา
แผนความคุ้มครองลูกค้าในกรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทานดังกล่าวที่ยื่นต่อ กสทช. เพื่อให้ลูกค้าดีแทคที่ยังอยู่ในระบบสัมปทานเดิม จะต้องได้รับความคุ้มครองและไม่กระทบการใช้งานตามที่เคยมีกรณีสิ้นสุดสัมปทานคลื่นความถี่กับผู้ให้บริการรายอื่น และยังมีลูกค้าคงค้างในระบบเช่นเดียวกัน ซึ่งที่ผ่านมาผู้ประกอบการที่หมดสัมปทานได้รับระยะเวลา 9-26 เดือนในช่วงเยียวยา ซึ่งได้สิ้นสุดเมื่อผู้ชนะการประมูลคลื่นได้ทำตามหลักเกณฑ์และเปิดใช้งานคลื่น ดีแทคยืนยันที่ลูกค้าจะต้องได้รับการคุ้มครองตามประกาศ กสทช. คลื่น 1800 MHz ควรนำมาสู่การใช้งานสำหรับมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทานจนกระทั่งผู้ชนะการประมูลได้ทำตามกฎเกณฑ์และเปิดให้บริการวันแรก สำหรับคลื่น 850 MHz ที่ไม่ได้นำไปประมูลดีแทคจะต้องได้รับสิทธิ์จนกระทั่งคลื่นได้ถูกนำไปจัดสรรให้กับผู้ได้รับอนุญาตใช้งานต่อไป
จากการที่ดีแทคได้เร่งโอนย้ายลูกค้าที่ใช้บริการ 2G และเร่งขยายโครงข่ายทั้งคลื่น 2100 MHz และ 2300 MHz จะเป็นมาตรการยืนยันเพื่อลูกค้าดีแทคที่ใช้งานบนทุกคลื่นความถี่ทั้ง 2G, 3G และ 4G จะมั่นใจได้อย่างเต็มที่สำหรับการใช้งานอย่างต่อเนื่องไม่มีความเสี่ยงจากซิมดับ
ดีแทคมุ่งสู่การสร้างโครงข่ายดาต้าที่ดีที่สุด
นายประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเทคโนโลยี บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “ดีแทคยืนยันเต็มร้อยที่จะสร้างโครงข่ายการใช้งานดาต้าให้ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย เราลงทุน 4,510 ล้านบาท ต่อปี เพื่อให้บริการคลื่น 2300 MHz ตามสัญญาทางธุรกิจและความร่วมมือกับทีโอที และดีแทคยังลงทุน 1.5-1.8 หมื่นล้านบาทในการขยายโครงข่ายคลื่น 2100 MHz และ 2300 MHz โดยการที่เป็นพันธมิตรคู่ค้ากับทีโอทียังทำให้ดีแทคมีโอกาสทางธุรกิจใหม่ สู่การให้บริการบรอดแบนด์ไร้สายประจำที่ (Fixed Wireless Broadband) และการร่วมเป็นพันธมิตรกับ CAT ทำให้ดีแทคได้ใช้งานเสาสัญญาณโทรคมนาคมหลังจากสิ้นสุดสัมปทาน วันที่ 15 กันยายน 2561 ทั้งหมดนี้จะทำให้ลูกค้าดีแทคมั่นใจสามารถใช้บริการอย่างต่อเนื่องและได้รับประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุดอีกด้วย”
นายลาร์ส กล่าวเพิ่มเติมว่า “ลูกค้าดีแทคมั่นใจได้ในการใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ดีแทคมีคลื่นย่านความถี่สูง (high-band spectrum) มากที่สุด และเราได้เร่งสร้างโครงข่ายเพื่อการใช้งานดาต้าที่ดีที่สุดในประเทศไทยไม่ใช่แค่เพื่อวันนี้แต่เพื่อรองรับอนาคต โดยขณะนี้ผู้ให้บริการในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมต้องการมากที่สุด คือ การจัดสรรคลื่นย่านความถี่ต่ำ (low-band spectrum) ที่มีความชัดเจน เพื่อวางแผนในการให้บริการผู้ใช้งานดาต้าได้ครอบคลุมทั้งในเมืองและทุกพื้นที่ทั่วไทย”
เห็นด้วยว่าราคาตั้งต้นสูงไป
บางทีสูง ก็ต้องเอา ถ้าหากต้องการจะอยู่ในธุรกิจนี้ต่อ ชีวิตคนเรา มันก็ต้องมีวันที่เราจ่ายแพงครับ
ยกมาทั้งหมดนี้ก็มีเหตุผล แต่น่าจะเพิ่ม ดีแทค ดีมึนไม่เข้าประมูล รอรัฐเยียวยา ตามรอย truemove ais จบข่าว! 555
เออแล้วดีแทคมีแค่ 2100 กับ 2300 แปลว่าดีแทคจะเป็นเจ้าแรกที่ไม่ทำ 2G หรือเปล่ครับ
AIS ก็เลิกทำ 2G มานานแล้วนะครับ คือ hardware เหลือแค่ไหนก็แค่นั้น พังก็จบไม่ซ่อม
จะตีมึนใช้คลื่นฟรี โดยมาคิดเงินจากเราไปเรื่อยๆมากกว่ามังครับ เพราะจะอ้างว่าต้องเยียวยาไปจนกว่าจะมีผู้เข้าประมูลนำคลื่นไปบริหารจัดการ ซึ่งถ้าไม่มีก็ใช้ฟรียาว
ตอน AIS – True น่ะใช่ครับ ใช้ฟรี แต่ของดีแทคนี่ทาง กสทช.ตั้งเงื่อนไขเอาไว้แล้วว่าถ้าจะใช้นี่ต้องโดน 30% จากรายได้ที่เกิดขึ้นในคลื่น 1800MHz นี้ ซึ่งจำนวนไม่น้อยเลยล่ะ