ท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ำค่ายดีแทค ใครที่ติดตามข่าวคราวจะพบว่ามีแต่ปัจจัยลบที่ถาโถมเข้าหาแบรนด์นี้เสียเหลือเกิน ไม่ว่าจะเรื่องการพลาดการประมูลคลื่นความถี่ เรื่องผลการดำเนินการที่ไม่เข้าเป้า ลูกค้าแห่หนีกันไปกว่า 5 แสนราย และคำบ่นตามโซเชียลที่ออกมาอย่างต่อเนื่องเรื่องสัญญาณ วันนี้ (25 ก.ค.) ทางดีแทคได้มีการเปิดบ้าน เปิดตัวผู้บริหารฝ่ายการตลาดคนใหม่ – สิทธิโชค นพชินบุตร – ซึ่งเค้าคนนี้ไม่ได้มาบอกแค่เพียงทิศทางของดีแทค แต่ยังส่งสาส์นไปถึงทุกๆคน เพื่อบอกความมุ่งมั่นที่จะนำพา dtac ขึ้นไปเบอร์ 1 ของตลาด
ใครที่อ่านจนถึงจุดนี้แล้ว โดยเฉพาะคนที่มีประสบการณ์ไม่ดีกับ dtac อยู่ อาจจะมีคิดเหยียดเบาๆว่าวันนี้รักษาตัวเองให้รอดก่อน พัฒนาคุณภาพสัญญาณให้ดีทัดเทียมคู่แข่งให้ได้ แล้วค่อยมาพูด ซึ่งหลายคนที่ไปร่วมงานเมื่อวานก็คิดและพยายามยิงคำถามในแนวเดียวกันนี้เช่นกัน ซึ่งทางผู้บริหารก็ได้ตอบแบบแบ่งประเด็นออกเป็นส่วนๆไป รวมถึงเรื่องสัญญาณด้วย จึงขอรวบรวมข้อมูลที่เค้าได้ตอบ เอามาเล่าต่อให้ฟังแบบสรุปๆนะครับ
สำหรับแผนการพัฒนาดีแทคที่ทางคุณสิทธิโชค ได้เปิดเผยมานั้นประกอบไปด้วย 3 ข้อใหญ่ คือ
1. แบรนด์
ก่อนหน้านี้ถ้านึกถึงดีแทค คำแรกที่โผล่ขึ้นมาในหัวน่าจะตอบไม่ต่างกันนักคือคำว่า feel goood ภาพของแบรนด์จะเป็นชายหญิงใสๆ ดูมุ้งมิ้ง สบายๆโปร่งๆ มีรอยยิ้มเสมอ ดูแล และใส่ใจลูกค้า แต่ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ถ้าใครสังเกตโฆษณาของดีแทค จะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างเยอะ มีความเฟี้ยวฟ้าว สีทึมๆ ดูดุดันขึ้นกว่าเดิม และมีความใกล้เคียงทั้ง AIS และ Truemove H มากขึ้น แค่เปลี่ยน mood&tone เป็นสีฟ้าเท่านั้น ซึ่งก็ได้รับการตอบรับทั้งดีและไม่ดี แต่สิ่งนึงที่น่าคิดก็คือ คำพูดที่ว่า “ดีแทคดูไม่น่ารักเหมือนแต่ก่อน” ซึ่งทีมบริหารก็เล็งเห็นถึงสิ่งนี้เหมือนกัน และต้องการกลับไปเน้นย้ำความรู้สึกดีๆของผู้ใช้ที่มีต่อแบรนด์อีกครั้ง รวมถึงจะปรับวัฒนธรรมการทำงานที่สะท้อนความเป็นองค์กรดิจิทัล แหกกฎเดิมๆเพื่อเปิดความคิดสรรค์ต่างๆออกมา แต่คงจะไม่ได้กลับไปใช้ feel goood เช่นเดิม แต่จะมาในรูปแบบใหม่ คีย์เวิร์ดใหม่ไปเลย
มาดูโฆษณาตัวแรกของความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้
2. บริการดิจิทัล
ดีแทคเตรียมจะเน้นไปที่การนำเสนอบริการดิจิทัลให้หลากหลายมากขึ้น พัฒนาบริการต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ใช้งานอินเทอร์เน็ตให้ตอบโจทย์มากขึ้น และหาแพ็กเกจโปรโมชั่นที่เหมาะสม อย่างที่ได้เห็นปล่อยออกมาเรียบร้อยก็ dtac Music Infinite ที่เปิดให้ streaming ฟังเพลงฟรี หรือบริการดีแทคแอปพลิเคชั่น และเห็นว่าจะมีอะไรใหม่ๆออกมาอีกเพียบ
3. พาร์ทเนอร์
อีกจุดเด่นของค่ายใบพัดสีฟ้าที่น่าจะมาช่วยส่งเสริมให้เราใช้งานสมาร์ทโฟนได้อย่างเต็มที่มากขึ้น ก็คือเรื่องของการส่งเสริม startup ในโครงการ dtac accelerate ที่วันนี้ดูชัดเจนกว่าทุกค่ายเลยก็ว่าได้ ซึ่งเราก็น่าจะได้เห็นบริการใหม่ๆในประเทศไทยที่มาจากผลผลิตของโครงการนี้เรื่อยๆ และทางดีแทคก็ไม่ได้มีแนวคิดที่จะเก็บผลงานดีๆเหล่านี้ให้เฉพาะลูกค้าในเครือข่ายเท่านั้น แต่เปิดให้ทุกคนทุกค่ายใช้งานได้เช่นกัน
นอกจากนี้ทางค่ายยังมีแผนที่จะร่วมมือกับพันธมิตรมากขึ้นทั้งในระดับประเทศและระดับโลก คัดสรรค์บริการดิจิทัลต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์หรือสินค้าอะไรก็ตาม มาให้เราๆได้ใช้งานกัน ซึ่งถ้าใครมีอะไรที่คิดว่าน่าสนใจ อยากให้ดีแทคเค้าเอาเข้ามา ก็น่าลองเสนอดู ซึ่งก็น่าจะอารมณ์แบบที่เค้าเคสเซอร์ไพร์สไปเอา Nexus 5 มาขาย หรือหยิบเอา deezer มาให้บริการนั่นเอง
ทั้ง 3 ข้อนี้เป็นแผนหลักของทางผู้บริหารที่ต้องการจะนำพาดีแทคขึ้นเป็นเบอร์ 1 ให้ได้ ซึ่งไม่ได้กลาวถึงเรื่องสัญญาณเท่าไหร่นัก แต่เพื่อตอบคำถามของหลายๆคนที่สงสัยและกังขาเกี่ยวกับเรื่องสัญญาณของค่ายนี้ ผมก็เลยจัดคำถามส่งให้เรียบร้อย ซึ่งก็ได้คำตอบออกมาประมาณนี้นะครับ
สัญญาณดีแทคเป็นอย่างไรบ้าง?
ปัญหาที่ทำให้หลายๆคนที่อยู่กับค่ายนี้มานาน เลือกจะย้ายออกกัน เพราะจากคำบอกเล่าของหลายๆคน รวมถึงประสบการณ์ตรงที่ถือเบอร์ของทั้ง 3 ค่าย ทดสอบความเร็วและความครอบคลุม ดีแทคเป็นเครือข่ายที่สัญญาณครอบคลุมน้อยที่สุด ออกต่างจังหวัด เดินทางไปจังหวัดต่างๆจะเจอค่ายนี้ลง Edge หรือสัญญาณหายไปเลยบ่อยมาก ที่เห็นเจ็บปวดกันที่สุดคือโดนเพื่อนต่างเครือข่ายมาถากถางว่าใช้งานไม่ได้ อัพโหลดช้ากว่าคนอื่น จนสุดท้ายก็ย้ายเครือข่ายหนีกันไป
“รับทราบถึงปัญหาแล้ว และจะดีขึ้นอย่างมากภายในก.ย.นี้”
ทางดีแทคเองบอกว่ารับทราบปัญหานี้ดี และพยายามที่จะแก้ไขอย่างต่อเนื่องอยู่ ถ้าใครใช้อยู่ในตัวเมืองและไม่ได้เดินทางไปไหนเป็นประจำ อาจจะไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ เพราะแผนการลงเสาเค้าคือลงตามหัวเมืองใหญ่เป็นหลักก่อน แล้วค่อยมาเติมที่ต่างๆ จากนั้นก็เชื่อมระหว่างจุดอีกที ซึ่งตามแผนสิ้นไตรมาส 3 (กันยายนนี้) การลงเสาจะเต็มมากขึ้น และเชื่อมต่อจุดต่างๆได้สมบูรณ์ขึ้นกว่าเดิม ยังไงก็รอดูความเปลี่ยนแปลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าดูละกัน ถ้ายังไม่ดีขึ้นอีกก็….รู้กันนะ
“ยังลงทุนขยายเสาเรื่อยๆ ไม่หนีจากไทยไปไหน”
ส่วนที่มีคนพูดกันว่าสาเหตุที่ดีแทคเน็ตเวิร์คห่วย เพราะเตรียมถอนตัวจากไทย โดยให้เหตุผลว่าในอีกสองปีข้างหน้าเมื่อหมดสัมปทานคลื่น 850MHz & 1800MHz จะต้องยกอุปกรณ์ทั้งหมดให้กับ CAT เหลือแต่เพียงคลื่น 2100MHz ทำให้ไม่เพียงพอแก่การให้บริการ ขยายเครือข่ายไปตอนนี้ก็ไม่คุ้ม เตรียมพับเสื่อเก็บเงินกลับประเทศชัวร์ — ตรงนี้หากดูจากงบดุลจะพบว่าทุกวันนี้ดีแทคยังคงลงทุนในการขยายสัญญาณอย่างต่อเนื่องหลักพัน หลักหมื่นล้านบาท ซึ่งถ้าหากธุรกิจนับว่าเป็นการทำที่ไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไหร่นัก ถ้าคิดจะพับเสื่อจริง ควรจะต้องประหยัดค่าใช้จ่าย ปันผลเอาเงินกลับประเทศให้มาที่สุดมากกว่า จึงทำให้ค่อนข้างน่าเชื่อถือว่าดีแทคไม่น่าจะถอนตัวจริงๆ
“อีกสองปีจะเกิดอะไรขึ้นก็ยังใช้งานได้ชัวร์”
ส่วนเรื่องคลื่นความถี่ที่กำลังจะหมดสัมปทานลงนั้น ทางดีแทคให้เหตุผลว่า ด้วยมูลค่าของคลื่นความถี่ที่สูงถึงหลักหลายหมื่นล้านบาท ทำให้ไม่ว่าในอนาคตจะเป็นรัฐบาลไหนบริหารประเทศอยู่ก็ตาม น่าจะหาทางเอาคลื่นความถี่ออกมาจัดสรรเพื่อนำเงินไปใช้บริหารบ้านเมืองแน่นอน และต่อให้มีการเตะถ่วงออกไป ก็ไม่น่าจะยึดคืนคลื่นไปดิบๆได้ เพราะน่าจะร้องศาลให้ขอคุ้มครองได้เช่นเดียวกับที่ AIS และ truemove H เคยทำมาก่อนนั่นเอง
เมื่อคราว AIS ประมูลคลื่น 900MHz แพ้ไปและมีปัญหาซิมดับ ก็ร้องขอให้ศาลคุ้มครอง
ปัจจุบันเห็นหลายๆคนจากหลายๆพื้นที่บอกว่าดีแทคเครือข่ายดีขึ้น ซึ่งส่วนนึงก็น่าจะมาจากที่มีการเปิดให้บริการ 4G 1800 MHz ด้วยปริมาณคลื่นความถี่เต็ม 20 MHz ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ส่วนทั่วประเทศ ทางดีแทคอาจจะไม่ได้ใช้เทคนิคเดียวกันทั้งหมด แต่จะพัฒนาโครงข่าย 4G 2.1 GHz ในทุกอำเภอทั่วประเทศแทน ซึ่งก็จะเสร็จภายในภายในไตรมาส 3 ปีนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ดี แม้ว่าดีแทคจะมีการลงทุนขยายเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยความที่อนาคตยังไม่แน่นอนมาก ก็น่าจะมีการแบ่งรับแบ่งสู้อยู่พอสมควร ส่วนว่าสัญญาณจะดีขึ้นได้ขนาดไหน คงบอกได้แค่ว่ารอดูกันยายน-ตุลาคมนี้ ถ้ายังเตะถ่วง บอกเลื่อนสัญญาไปอีกครั้ง อันนี้ก็คงแล้วแต่ผู้ใช้จะพิจารณากันเอาเองนะ
และมีเรื่องอื่นๆที่ถามมาเพิ่มเติมให้อีกเล็กๆน้อยๆนะครับ
“โปรโมชั่น”
วันนี้ดีแทคไม่ได้พูดอะไรมากเรื่องของโปรโมชั่น มีบอกเพียงสั้นๆว่าแพ็กเกจปัจจุบันของบริษัทก็ไม่ได้แพ้ของคู่แข่งแล้ว ซึ่งก็จริงอย่างที่เค้าบอก ถ้าลองเปรียบเทียบแพ็กเกจค่าเน็ตค่าโทร AIS vs DTAC vs Truemove แพ็กเกจของดีแทคไม่ได้ด้อยกว่าค่ายไหนเลย แถมมีของฟรีที่ค่ายอื่นไม่มีใครกล้าให้ทั้งฟังเพลงสตรีมมิ่งฟรี หรือดู YouTube ฟรีหลังเที่ยงคืน แต่อย่างไรก็ดี ต้องไม่นับโปรหลังบ้าน โปรย้ายค่าย หรือของแถม ของฟรีต่างๆที่เอามาล่อลูกค้าให้ย้ายค่ายนะ ไม่งั้นก็คงไม่ได้เห็นคนไหลออกขนาดนี้
“ยังไม่มีโปรแรงสำหรับลูกค้าเก่า แต่ dtac reward ดูดีขึ้นเยอะ”
สำหรับลูกค้าเก่าที่หวังจะได้โปรแรงๆ จ่ายถูกๆได้เยอะๆ ก็น่าจะต้องหน้าบูดหน้าเซ็งกันต่อไป เพราะของแรงๆทุกค่ายจะมีให้ลูกค้าใหม่หรือย้ายค่ายเป็นหลักเท่านั้น ไม่ใช่เพียงลูกค้าดีแทคเท่านั้นที่เจอปัญหานี้ ต้องออกแรงใช้กำลังภายในในการหาส่วนลดต่างๆนาๆกันเองต่อไป แต่ไม่ว่าคุณจะอยู่ค่ายไหน อย่าลืมใช้พวกสิทธิพิเศษกันด้วยละกัน เพราะหลังๆมาลดแลกแจกแถมกันเยอะขึ้นมาก AIS นี่ทำมาดีจนหลายๆคนไม่ยอมย้ายออก ส่วน truemove H ก็พัฒนาดีวันดีคืนจนหลายๆคนติดใจ ส่วน dtac reward หลังๆก็มีความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นเพียบ จากที่แต่ก่อนสู้ค่ายอื่นไม่ได้เลย ลองกดดูโปรต่างๆจากแอพ dtac บนสมาร์ทโฟนได้เลย
สรุป
จากที่ดีแทคดูเบลอๆ หาตัวตนไม่ได้ คลำทางไปไม่เจอ วันนี้เริ่มจะมีทิศทางที่ชัดเจน จากการที่มีผู้บริหารระดับสูงเป็นชาวไทยมากขึ้น ได้คนที่เข้าใจตลาดจริงๆมาทำงาน รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร และที่สำคัญที่สุดคือได้คนที่มีคนที่มี passion มีวิสัยทัศน์ อยากจะทำให้องค์กรนี้ดีขึ้นจริงๆมาทำงาน ทำให้ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นแบรนด์นี้กลับมาอีกครั้ง ถ้าทำได้ตามแผนที่วางเอาไว้จริง แต่ก็ไม่ได้ง่ายนักที่จะขึ้นถึงจุดเดิม จะตามคู่แข่งที่นำไปค่อนข้างเยอะให้ทัน ทำให้ผู้คนที่เคยหันหน้าหนีเค้าไปแล้ว กลับมารักกันอีกรอบได้ และที่สำคัญที่สุดที่คือคุณภาพสัญญาณที่ก่อนหน้าไม่ได้เป็นรองใคร แต่ปัจจุบันกลับมีความครอบคลุมและความเร็วตามหลังคู่แข่งไปเรียบร้อย ซึ่งหากว่าในเดือน ก.ย.นี้ยังไม่เห็นพัฒนาการที่ชัดเจนขึ้นเท่าไหร่นัก ก็ควรจะต้องคิดแล้วว่าจะให้เค้าเปลี่ยนแปลงหรือเราต้องเป็นคนเปลี่ยนซะเองครับ
สำหรับคนที่ใช้ดีแทคและพิจารณาจะเซย์กู๊ดบาย ด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม แล้ววันหน้าถ้า dtac ดีจริงเมื่อไหร่ก็ค่อยย้ายกลับมา ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่ เพราะตราบใดที่เหล่าผู้ให้บริการยังคงสาดโปร หาทางดึงคนเข้าเครือข่าย มากกว่าออกโปรรั้งให้คนอยู่ การย้ายค่ายข้ามไปมาก็น่าจะวิธีที่ทำให้คุ้มค่าที่สุด หรือถ้ายังแฮปปี้ไม่มีปัญหาอะไร ยังมีความผูกพัน มีความหวังใน dtac อยู่ ก็มารอลุ้นกันว่าจะเป็นไปตามที่ทีมบริหารชุดใหม่ ได้ตั้งเป้าไว้ว่า จะนำพา dtac ขึ้นเป็น “แบรนด์ดิจิตอลอันดับ 1 ของประเทศ” และมั่นใจว่า “ดีแทควันนี้ ยังดีขึ้นได้อีก” ได้อย่างที่ต้องการรึเปล่าครับ
ลงหัวเมืองอะไรครับ ในพัทยา ตรงกลางพัทยากลาง
ตรงข้ามห้าง Big C Extra สัญญาณมีประมาณ 0-1 ขีดตลอด
แจ้งไป 3 รอบก็ไม่ดีขึ้น จนตอนนี้ย้ายค่ายแล้ว
ตอนย้ายยังแอบมี SMS มาบอกว่า ถ้าไม่ย้ายค่ายได้เนต
เพิ่ม 20GB ทุกเดือน เป็นเวลา 1 ปี รวม 240GB
คือผมไม่ได้มีปัญหาเรื่องเนตไม่พอ แต่มีปัญหาที่สัญญาณ
มันใช้ไม่ได้ เนตเยอะไปก็เท่านั้น
1 ทำให้เสียงบ่น หายไปให้หมด
2 ทำให้มีเสียงชม ไใ่ว่าจะไปที่ไหน
แล้วค่อย ย้อนไปทำด้านบนดีไหมนะ คุณหัวหน้าทีม
เอาให้สัญญาณดีตลอดก่อนเถอะ
เเม่ม โทรคุยทีเดี๋ยวหายๆ ais กับ true เน็ตถึงจะให้น้อยกว่า เเต่สัญญาณก็มีเเทบตลอดนะ
ส่วนตัว ย้ายมาโดนเติบบบ เอาแค่สัญญานนิ่งๆ ให้ได้ก่อน ก่อน อย่าเป็นเเบบ หอยทากเป็นตะคริว สล็อต เป็นง่อย ก็พอ 555
กรุงเทพแถวดินแดงยังมีปัญหาเลยครับ
ตั้งแต่ดูถูกลูกค้า 90% ของตัวเองที่ใช้ Android ผมว่าเจริญยากแล้วอ่ะ
มาเรียนอเมริกาใช้ Project fi ชอบมากในการ switch จากเครือข่ายไป Wifi แถม Roaming data rate เดิมไปต่างประเทศ กลับมาเยี่ยมบ้านนี่ไม่มีปัญหาเลย
ถ้าค่ายไหนทำได้แบบนี้หรือจับมือกับ Google ได้นี่ผมว่าน่าจะถูกใจคนใช้มากครับ
Dtac ที่เปิดอยู่ยังจองเบอร์ไว้นะ อดใจรอกลับตัว
มาเรียนตามตรงว่าลองของไปทีนึง
ลองย้ายเข้ามา Dtac ตอนกลาง ก.ค.
ขนาดอยู่ตรงสนามราชมังฯ หัวค่ำ สัญญาณเต็ม แต่เน็ทไม่วิ่ง ชุ่นพระ!!?
ผมต้องเปิด-ปิด Airplane ไม่งั้นส่ง Line ไม่ได้
ผมย้ายลองใช้ 3 ชม. ผมต้องย้ายออกเลย ทำงาน remote อะไรลำบากจริงๆขนาดอยุ่ กทม.
อยากลองดู เห็นว่าได้ net เยอะดี ที่ทำงานก้อมีคนใช้กัน
แล้วย้ายออกก็ยากมากกก ต้องใช้กำลังภายในถึงจะได้ ผมยังคิดเลยว่าถ้าตาสีตาสาที่เค้าจะย้ายออกนี่ …
แต่ถึงจะประสบการณ์ไม่ดี แต่ก็ยังเป็นกำลังใจให้ Dtac กู้ชื่อขึ้นมา ให้มาสู้กับที่เหลือเขาได้ จะได้เกิดการแข่งขันกันเยอะๆ (ผมออกมาได้แล้วสบายใจละ)
ยังห่วงเลยว่า ถ้า Pokemon Go เข้าไทย
คนตระเวนเล่นกันเยอะๆ Dtac จะสู้เขาได้ไหม?
มันจะเกิดการเปรียบเทียบมาก จริงๆนะ
..รีบปรับปรุงสัญญาณไวไวนะ ห่วง..
มีปัญหาเหมือนเม้นท่านบนเลย คือย้ายออกยากมาก ดึงเรื่องอยู่สองอาทิตย์แล้ว
สาเหตุที่ย้ายออกเลย พอครบสัญญา 12 เดือนปุ๊ป มายัดแพ๊คเกจอะไรก็ไม่รู้ให้ผม ค่าบริการแพงขึ้น ดาต้าน้อยลง ที่ผ่านมาก็เหมือนที่ complain กันนั่นแหละ สัญญาณห่วยมาก ใช้ๆ หลุด บางที่ไม่มีสัญญาณ
คงเป็นค่ายที่จะไม่ยอมย้ายกลับมาอีกแน่นอน
ตอนนี้ผมให้ AIS ที่หนึ่งนะ ทรู รองลงมา
อยู่แบบพอเพียง มีน้อยใช้น้อย คนน่าจะเข้าใจและพอใจมากกว่า
คิดใหญ่เกินตัวลูกค้าเลยพากันเซ็ง
ยากมาก ต่างจังหวัดสัญญาณน้อยมาก
ถ้าเดินทางบ่อย สัญญาณจะไม่นิ่งหายไปเป็นช่วงๆ
ยังสู้ AIS ไม่ได้
แต่ผมใช้ Dtac เพราะจังหวัดผมคนใช้น้อย เน็ตเร็วดีไม่ต้องแย่งกับใคร
แต่ถ้าพูดถึงความเสถียรของสัญญาณ ให้ 6/10 ยากหน่อยนะจะขึ้นมาเป็นเบอร์ 1
ใจสู้นะเนี่ย
นี่ยังจำได้ว่า เคยโฆษณาไว้ สิ้นเดือน มิย 59 4G ของ DTAC จะครอบคลุมทั่วไทย ไม่รู้ตอนนี้คลุมหรือยัง