มือถือ Android พันธุ์แท้อย่าง Pixel 4 พึ่งเปิดตัวไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว และทำให้แฟนๆ ได้ว้าวกับโหมดถ่ายภาพในที่มืดมิดจนสามารถถ่ายได้แม้แต่ทางช้างเผือก, โหมดถ่ายหน้าชัดหลังเบลอที่เนียนกว่าเดิม เทียบชั้นกล้อง DSLR แถมยังมีกล้องซูม ที่ใช้ซอฟท์แวร์เข้ามาช่วยปรับความคมชัดของภาพให้สามารถซูมได้ไกลสุดๆ อีกด้วย ซึ่งล่าสุดมือถือรุ่นนี้ก็ได้มาถึงมือ DxOMark เพื่อทดสอบประสิทธิภาพกล้องกันแล้ว ว่าจะมีดีแค่ไหน

Pixel 4 เป็นมือถือรุ่นแรกของแบรนด์ที่มาพร้อมกับกล้องหลัง 2 ตัว หลังจากที่อินดี้ให้กล้องตัวเดียวมาตลอด เพราะมั่นใจกับระบบ AI ที่ใช้ในการประมวลผลภาพถ่ายของตัวเอง ซึ่งการเพิ่มกล้องซูมเข้ามาในคราวนี้ก็แน่นอนว่าจะทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของการถ่ายรูป Pixel 4 ดีขึ้นแน่นอน

สเปคกล้อง Pixel 4

  • กล้องคู่
  • กล้องหลักความละเอียด 12MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.55 นิ้ว, ระยะโฟกัส 27mm., รูรับแสง f/1.7, ระบบกันสั่น OIS
  • กล้องซูมความละเอียด 16MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/3.6 นิ้ว, ระยะโฟกัส 50mm., รูรับแสง f/2.4, ระบบกันสั่น OIS
  • PDAF autofocus
  • แฟลช LED คู่
  • ถ่ายวิดีโอ 4K 30fps, และ 1080p (ค่าเริ่มต้น)
  • ปรับเฟรมเรท 30/60fps ในการถ่ายวิดีโอความละเอียด 1080p

Pixel 4 ได้คะแนนถ่ายภาพนิ่งอยู่ที่ 117 คะแนน, ถ่ายวิดีโอที่ 101 คะแนน และได้คะแนนรวมที่ 112 คะแนน  ซึ่งน้อยกว่ามือถือระดับเรือธงหลายๆ รุ่นที่เปิดตัวในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น Galaxy S10+ (113), Honor 20 Pro (113), OnePLus 7 Pro (114), Galaxy Note 10+ (117) และ Mate 30 Pro (121) โดยจะแพ้ให้กับมือถือเหล่านั้นในด้านของการถ่ายภาพแบบ Ultra-wide เพราะมีมาให้แต่เลนส์ซูมนั่นเอง ส่วนการถ่ายภาพแบบ Bokeh ที่ Google ใช้ระบบ AI เข้ามาช่วยในการคำนวณความลึก และการตัดขอบวัตถุ ก็ยังไม่สามารถสู้มือถือที่ใช้เซ็นเซอร์ 3 มิติ ToF ได้อยู่ดี

Pixel 4 มีระบบ Autofocus ที่รวดเร็วและแม่นยำในทุกสภาพแสง และยังให้รายละเอียดของภาพที่ดีทั้งการถ่ายกลางแจ้งและในที่ร่มด้วย แต่จะมีข้อติเวลาถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยที่รายละเอียดจะหายไปบางส่วน แถมยังมี Noise เยอะอีกต่างหาก

ระบบซูมของ Pixel 4 พบว่าเจ๋งจริงอย่างที่ Google ได้เอามาโชว์ในงานเปิดตัว เพราะภาพที่ได้หลังจากซูมแล้วยังคงให้สีสันและรายละเอียดที่ดีมาก ยิ่งการซูมในระยะใกล้ยิ่งทำได้ดีสุดๆ แม้ในที่แสงน้อย ส่วนการซูมระยะไกลในสภาวะแสงปกติก็ยังคงทำได้ดี แต่ก็ยังสู้ระบบซูมของ Huawei P30 ไม่ได้อยู่ดี

ซูมวัตถุระยะใกล้

ซูมวัตถุระยะไกล

การถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอของ Pixel 4 ให้ภาพที่มีสีสันและรายละเอียดออกมาดี แต่จุดด้อยจะอยู่ที่การคำนวณความลึกของภาพที่ทำได้ไม่ดีนัก ถ้าเอาไปเทียบกับเหล่ามือถือที่มีเซ็นเซอร์ 3 มิติ มาด้วย

โหมด Night Sight สำหรับถ่ายภาพกลางคืน ก็ให้ภาพที่ออกมาดีทั้งสีและรายละเอียด ซึ่งระบบจะการคำนวณการใช้แฟลชตามสภาพแสงให้ด้วย (ถ้าเปิดแฟลชเป็น Auto) อย่างเวลาถ่ายภาพเมืองหรือวิวต่างๆ ในตอนกลางคืน แฟลชก็จะไม่ยิงออกมา

จุดเด่นอีกอย่างของ Pixel 4 คือการถ่ายวิดีโอที่ได้ไป 101 คะแนน เทียบเท่ากับ Galaxy Note 10+ ซึ่งถือเป็นคะแนนในการถ่ายวิดีโอระดับท็อปๆ ซึ่งมือถือที่ได้คะแนนในระดับนี้มักจะเป็นมือถือที่กล้องวิดีโอตั้งค่าการถ่ายเริ่มต้นไว้ที่ 4K แต่สำหรับ Pixel 4 นับเป็นมือถือรุ่นแรกที่มีค่าเริ่มต้นการถ่ายวิดีโออยู่ที่ 1080p แล้วได้คะแนนเยอะขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพในการจัดการกับ Noise ในทุกสภาพแสง, การให้สีสันที่สดใส, Autofocus ที่รวดเร็วและแม่นยำไม่แพ้การถ่ายภาพนิ่ง ส่วนระบบกันสั่นก็ออกมาเป็นที่พอใจ

Play video

การถ่ายเซลฟี่ของ Pixel 4 ยังได้คะแนนเท่ากับรุ่น Pixel 3 อยู่ที่ 92 คะแนน ด้วยกล้องเซลฟี่ความละเอียด 8MP แต่คราวนี้เหลือแค่ตัวเดียวเท่านั้น (Pixel 3 มีกล้องเซลฟี่ 2 ตัว) โดยภาพที่ได้จากกล้องหน้าของ Pixel 4 ให้สีสันที่สวยงามในหลายๆ สภาพแสง แต่ยังจัดการกับ Noise ได้ไม่ดีนัก โดยเฉพาะในบริเวณที่เป็นเงามืดของภาพ และเนื่องจากกล้องเหลือแค่ตัวเดียว การถ่ายเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอก็เลยไม่เนียนเท่า Pixel 3 ที่มีกล้อง 2 ตัว

ส่วนการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าถือว่าทำออกมาได้ดี เพราะเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้ค่อนข้างครบ ให้สีสันของผิวได้ตรง และยังมีระบบกันสั่นที่ค่อนข้างเนียนอีกด้วย

Play video

สรุปแล้ว Pixel 4 ก็เป็นมือถือที่ได้รับการพัฒนาเรื่องกล้องโดยรวมออกมาได้ดีกว่า Pixel 3 พอสมควร แต่ก็ยังไม่ถือว่าโดดเด่นนักหากเอาไปเทียบกับเหล่ามือถือเรือธงทั้งหลายในปี 2019 ที่ออกมาแข่งเรื่องกล้องกัน ไม่ว่าจะเป็น Samsung, Huawei, OnePlus ฯลฯ แต่อย่างน้อยมันก็ยังเป็นมือถือที่มีกล้องหลังแค่ 2 ตัว ที่ทำประสิทธิภาพออกมาสูสีกับมือถือรุ่นอื่นๆ ที่มีกล้อง 3 – 4 ตัว + เซ็นเซอร์ 3 มิติ ซะด้วยนะ

 

ข้อมูลเพิ่มเติม : DxOMark