ถือว่าเป็นที่ฮือฮากันพอสมควรเลยกับโปรเจ็กต์ใหม่ของ Elon Musk อย่าง Neuralink ซึ่งเป็นการสร้างเทคโนโลยีชิปฝังสมองเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมอุปกรณ์อีเล็คทรอนิกส์ต่าง ๆ ผ่านความคิดในหัวเท่านั้น โดยเมื่อปีที่แล้วก็ได้มีการสาธิตให้พวกเราได้เห็นถึงศักยภาพของชิปฝังสมองตัวนี้ด้วยการเอาไปฝังในสมองหมูเพื่ออ่านค่าสมองจากการทำกิริยาต่าง ๆ แต่ล่าสุดการทดลองดังกล่าวได้ก้าวไปอีกขั้น เพราะคราวนี้ใช้การฝังชิปลงในสมองลิงทำให้สามารถบังคับเกมง่าย ๆ ผ่านความคิดได้โดยไม่ต้องใช้อวัยวะอื่นเลย

Neuralink คืออะไร

สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักกับ Neuralink ก้ขออธิบายสั้น ๆ กันก่อนว่า Neuralink คือโปรเจ็กต์ของ Elon Musk ที่มีเป้าหมายหลักในการพัฒนาชิปฝังสมองที่มีฟีเจอร์การใช้งานหลากหลายไม่ว่าจะเป็นทางการแพทย์ ที่คาดว่านำไปรักษาโรคพาร์กินสันหรือโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท ไปจนถึงการใช้งานเพื่อความบันเทิงเช่นอย่างที่ Elon Musk เคยบอกเอาไว้ว่า Neuralink สามารถทำให้ผู้ใช้งานฟังเพลง Spotify ในหัวเราได้ อีกด้วย โดยใครที่อยากรู้รายละเอียดลึกลงไปกว่านั้น ก็เข้าไปอ่านในบล็อกด้านล่างได้เลยครับ

ทำความรู้จัก Neurotechnology จุดเริ่มต้นของอนาคต ที่เราจะสามารถบันทึกและถ่ายทอดความรู้เข้าหัวได้โดยตรง

ฝังชิปในสมองลิง

ล่าสุดก็ได้มีอัปเดตจาก Neuralink ว่าได้มีการทดลองฝังชิปดังกล่าวลงในสมองลิง และทดลองให้มันควบคุมเกม “Mind Pong” ผ่านสมองได้ ซึ่งก็คาดว่าน่าจะพูดถึงเกม Pong ที่เป็นเกมง่าย ๆ บังคับแผ่นกระดานขึ้น-ลงเพื่อตีลูกกลมกลับไปหาฝ่ายตรงข้าม

เกม Pong

ซึ่งการทดลองที่ว่า จะทำให้ลิง 2 ตัวสามารถเล่นเกม Mind Pong แข่งกันได้ผ่านการควบคุมในสมองเพียงเท่านั้น ซึ่งน่าเสียดายที่ตอนนี้ทาง Neuralink ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทดลองว่าสรุปแล้วทำได้ตามที่คาดหรือไม่ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่เราจะได้เห็นการประกาศอย่างเป็นทางการเพิ่มเติมในเร็ววันนี้ ส่วนใครที่เป็นห่วงน้องลิงว่าจะทรมานพราะทางนักทดลองก็ได้ออกมายืนยันว่าลิงทุกตัวที่อยู่ในการทดลองมีสุขภาพร่างกาย และจิตใจที่แข็งแรงแน่นอนครับ

การฝังชิป Neuralink ในสมอง

Neuralink จะกลายเป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการเปลื่ยนแปลงวงการเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก เพราะถ้าเทคโนโลยีนี้สำเร็จ ผู้ใช้งานจะสามารถติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้ Neuralink คนอื่นได้โดยตรง, ใช้รักษาผู้ป่วยระบบประสาทได้ หรือแม้กระทั่งอัปโหลดความรู้สึกนึกคิดกลับใส่คอมพิวเตอร์ก็ได้เช่นเดียวกัน อ่านแล้วก็รู้สึก Sci-fi มาก ๆ เลย แต่เห็นแบบนี้แล้วคาดว่าอีกซักพักเราอาจจะได้เห็นเทคโนโลยนี้ออกมาสู่โลกแห่งความจริงก็ได้ครับ

 

Source: SlashGear