หลังจากที่ EU กลับไปพิจารณาการจัดสถานะ Gatekeeper หรือสถานะมีอำนาจในการควบคุมคู่แข่งรายอื่นในบริการนั้น ๆ ของทั้ง Apple iMessage, Microsoft Edge, Bing และ Microsoft Advertising ล่าสุดก็ได้ผลสรุปเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า บริการที่กล่าวมาทั้งหมดได้หลุดจากการพิจารณาจากสถานะ Gatekeeper อย่างเป็นทางการแล้ว

โดยทาง EU ได้ระบุว่า ถึงแม้ว่าทั้ง 4 บริการดังกล่าวจะเข้าข่ายตามเกณฑ์ Gatekeeper ในเชิงปริมาณก็ตาม (มียอดผู้ใช้งาน Active เกิน 45 ล้านราย และทำรายได้มากกว่า 7.5 พันล้านยูโรต่อปี) แต่หลังจากได้พิจารณาและวิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป คณะกรรมการที่ปรึกษาตลาดดิจิทัล และจากข้อมูลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องแล้ว ทั้ง 4 บริการไม่เข้าข่ายสถานะดังกล่าว

และในเมื่อคำพิจารณาดังกล่าวถูกประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว Apple จึงไม่ถูกบังคับให้เปิดระบบ iMessage ให้กับระบบคู่แข่งอื่น ๆ ได้ใช้งาน เช่น Android หรือ Windows และก่อนหน้านี้ก็ได้มีการพยายามปรับตัว เพิ่มฟีเจอร์การส่งข้อความด้วยมาตรฐานกลางแบบใหม่อย่าง RCS เพื่อให้ประสบการณ์การแช็ตแบบ Cross-Platform ระหว่างสองระบบทำได้ราบรื่นขึ้น

ส่วนฝั่ง Microsoft ก็ออกมาแสดงท่าทีเห็นด้วยกับคำตัดสินดังกล่าว โดยได้ระบุว่าทั้ง Bing, Edge, และ Microsoft Advertising ควรถูกจัดอยู่ในฐานะ “ผู้ร่วมแข่งขัน” มากกว่าการเป็น “ผู้นำในตลาด” เพราะมีผู้ใช้งานเพียงกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้นในกลุ่มประเทศ EU พร้อมยืนยันว่าทางบริษัทจะยังคงพูดคุยกับคณะกรรมาธิการต่อไป เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มต่าง ๆ ให้เป็นไปตามกฎ Digital Market Act

ถึงแม้ว่าทั้ง 4 บริการ จะหลุดจากสถานะ Gatekeeper ในหมวดแอปแช็ต หรือบริการ Search Engine แล้ว แต่ยังมีหลาย ๆ บริการ และแอป ของ Apple และ Microsoft ที่ยังถูกจัดสถานะดังกล่าวอยู่ เช่น ระบบปฏิบัติการ iOS และ Windows, เว็บเบราว์เซอร์อย่าง Safari, ร้านค้าแอปอย่าง Apple App Store รวมถึงแพลตฟอร์มโซเชียลของ Microsoft อย่าง LinkedIn

ซึ่งถ้าแพลตฟอร์มใดที่ติดอยู่ในสถานะ Gatekeeper แล้วไม่ปรับให้แข่งขันกับแบบโปร่งใสตัวตามกฎใหม่ Digital Market Act ก็จะมีโทษปรับถึง 10% ของรายได้รวมของบริษัททั่วโลก และจะปรับเพิ่มเป็น 20% ของรายได้รวม หากยังพบว่ายังมีการกระทำที่ละเมิดกฎดังกล่าวซ้ำด้วย

ที่มา: GSMArena, European Commission