ถึงแม้ว่าล่าสุด Apple จะจำใจ ยอมทำตามกฎ EU โดยเปิดให้ผู้ใช้งานในประเทศกลุ่ม EU ทำการดาวน์โหลดแอปผ่านสโตร์อื่น ๆ ของ Third Party นอกเหนือจากบน App Store ได้แล้ว แต่อีก 1 ยักษ์แห่งวงการเทคฯ อย่าง Microsoft กลับมองว่าสิ่งที่ Apple ทำดูเหมือนว่าจะหลงทิศทางไปเสียหน่อย เพราะถึงแม้ว่าจะเปิดให้แล้วก็ตาม แต่ก็ยังเจอ Apple เก็บค่าธรรมเนียมอยู่ดี

ผู้บริหาร Microsoft ฝั่ง Xbox อย่าง Sarah Bond ที่ตอนนี้กำลังซุ่มพัฒนา Xbox Store ให้ระบบ iOS ต้อนรับกฎใหม่อยู่ ออกมาแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับนโยบายใหม่ของ Apple ร่วมกับ CEO จาก Spotify ผ่าน X (Twitter) ส่วนตัวโดยมีเนื้อความว่า

“เราเชื่อว่าการร่วมพูดคุยกันอย่างมีเหตุผลจะช่วยส่งเสริมการเปลี่ยนแปลง และความก้าวหน้าต่อการทำแพลตฟอร์มระบบเปิด รวมถึงช่วยส่งเสริมการแข่งขันที่มากขึ้น แต่นโยบายใหม่ของ Apple กำลังก้าวเดินไปสู่ทิศทางที่ไม่ถูกต้อง เราคาดหวังว่า Apple จะรับฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบายนี้”

โดยนโยบายที่หลาย ๆ นักพัฒนาแอป Third-Party ทั้ง Microsoft, Epic Store รวมถึง Spotify ต่างไม่ปลื้มคือนโยบายใหม่ที่มีชื่อว่า Core Technology Fee ซึ่ง Apple จะเก็บเงินนักพัฒนาสโตร์ Third Party หากแอปที่อยู่ในร้านค้านั้นมียอดดาวนโหลดเกิน 1 ล้านแอปขึ้นไป จะต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปี 0.50 ยูโร (ประมาณ 19 บาท) ต่อ 1 ยอดติดตั้งใหม่หลังจากแตะหลัก 1 ล้านโหลด

นอกจากนี้นักพัฒนาแอปยังต้องแบ่งเงิน 17% ให้กับ Apple หากมีการใช้จ่ายผ่านระบบอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ช่องทางของ Apple ด้วย โดยฝั่ง Spotify ก็ได้ออกมาเผยว่านโยบายใหม่นี้ถือเป็นการ “ขู่กรรโชกทรัพย์” จากนักพัฒนา และเรียกร้องให้ EU เข้ามาตรวจสอบ และจัดการนโยบายนี้

เบื้องต้นฝั่งคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ได้ออกมาระบุว่า ได้เตรียมออกหนังสือชี้แจงในเรื่องการเปลี่ยนแปลงนโยบายของ Apple หลังกฎของ EU มีผลบังคับใช้อย่างจริงจังในเดือนมีนาคม 2024 พร้อมสัญญาว่า จะลงโทษอย่างหนักหากนโยบายใหม่ของ Apple ไม่เป็นไปตามกฎที่ EU กำหนดเอาไว้

ทั้งนี้ Microsoft Xbox Store บนระบบ iOS คาดว่าจะมีการเปิดให้ดาวน์โหลดเร็วสุดภายในปี 2024 นี้ โดยจะมีเกมชูโรงจากทั้งค่าย Activision Blizzard และ King ทั้งเกม Call of Duty: Mobile และ Candy Crush Saga

ที่มา: The Verge