Facebook ได้ประกาศตัวเข้าสู่แพลตฟอร์มสกุลเงินผ่านระบบ Block-chain เป็นของตัวเองอย่าง Libra ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งแม้จะดูเป็นแพลตฟอร์มสกุลเงินที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักลงทุนรายน้อยใหญ่ทั่วโลก แต่ก็ถูกถาโถมไปด้วยข้อครหาจากแทบจะทุก ๆ รัฐบาลโดยเฉพาะชาติมหาอำนาจทั้งหลายที่ล้วนแต่แสดงความกังวลว่า นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งการเข้าแทรกแซงระบบการเงินโลกของ Facebook ที่อันตรายมาก

ถึงแม้จะกำลังถูกตั้งคำถามจากรัฐบาลทั่วโลกมากมาย แต่ Facebook ดูจะมุ่งมั่นมากที่จะจัดตั้งและจะพร้อมเปิดให้ Libra กลายเป็นสกุลเงินที่ใช้ได้จริงตั้งแต่ปี 2020 นี้เลย โดยประกาศล่าสุดเป็นการออกมาแจงรายละเอียดในด้านสเถียรภาพทางมูลค่าของสกุลเงิน Libra ที่ถูกตั้งคำถามโดยตรงจากรัฐบาลเยอรมันนี ซึ่ง Facebook ได้แถลงเป็นจดหมายเปิดผนึกออกมาแล้วว่า Libra จะมีสัดส่วนตะกร้าเงิน เป็นการเบื้องต้นดังนี้

  • ดอลลาร์สหรัฐ | 50%
  • ยูโร | 18%
  • เยนญี่ปุ่น | 14%
  • ปอนด์สหราชอาณาจักร | 11%
  • ดอลลาร์สิงคโปร์ | 7%

ซึ่งสกุลเงินทั้ง 5 นั้นต่างเป็นสกุลเงินหลักของโลกใน 10 อันดับแรกมาเป็นเวลานานอยู่แล้วจึงไม่น่าแปลกใจมากนัก แต่ที่นักลงทุนต่างสงสัยกันไม่น้อยก็คือว่า ไม่มีเงินหยวนของจีนอยู่ในสัดส่วนนี้และมีดอลลาร์สหรัฐเป็นสัดส่วนที่มากถึง 50% ซึ่งในทางหนึ่งก็เข้าใจได้เพราะเงินหยวนนั้นยังถูกตั้งคำถามมาอย่างต่อเนื่องว่ารัฐบาลจีนพยายามบริหารจัดการค่าเงินให้อ่อนกว่าที่ควรจะเป็นเพื่อผลประโยชน์ในเม็ดเงินจากการส่งออก จึงอาจเป็นเหตุที่ Facebook Libra จะยังไม่เลือกนำเอาหยวนมารวมด้วย ณ ตอนนี้นั่นเอง

สำหรับตะกร้าเงินนั้นเป็นวิธีการเพื่อรักษาสเถียรภาพของสกุลเงินที่ชาติมหาอำนาจมักใช้เป็นเครื่องมือ ส่วนประเทศไทยเรานั้นก็เคยใช้กับเขาเหมือนกันตั้งแต่ช่วงก่อนวิกฤติทางการเงิน “ต้มยำกุ้ง” เมื่อปี 40 นั่นเองเพียงแต่เป็นการรักษาค่าเงินให้แข็งแกร่งและแช่เอาไว้นานเกินความเป็นจริงไปมากจนเกิดปัญหาฟองสบู่ขึ้นมาในที่สุด

ส่วน Libra ที่นักลงทุนและสถาบันการเงินสายเทค ฯ ทั่วโลกต่างรอคอยนั้น ดูเหมือนจะไม่ไกลเกินความเป็นจริงนัก หลังจาก Facebook ถือว่าแน่วแน่พอสมควรที่จะทำให้เกิดขึ้นจริงให้ได้ ถึงแม้เบื้องต้นจะเปลี่ยนเจตนารมณ์ของการสร้างสกุลเงินกลางของโลกขึ้นมาไปบ้างก็ตาม เพราะเคยถูกคาดไว้ว่าจะมีสกุลเงินจำนวนมากกว่านี้อยู่ในตะกร้าเงินที่ใช้อ้างอิงมูลค่า แต่การใช้เฉพาะค่าเงินหลักเช่นนี้ก่อน ก็เป็นการพยายามลบจุดบอดของสกุลเงินที่ผันผวนสูงอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับ Bitcoin ไปก่อนหน้านี้นั่นเอง

ส่วนหลังจากนี้ตามรายงานมีการคาดการณ์กันว่า ในช่วงปลายปีนี้ Facebook จะออกมาแถลงรายชื่อนักลงทุนหลักกลุ่มแรกร่วม 100 รายทั่วโลกที่เข้ารายชื่อร่วมลงทุนจัดตั้ง Libra ขึ้นในสวิซเซอร์แลนด์โดยมีชื่อที่คุ้นหูนำมาก่อนแล้วอย่าง Visa | Mastercard | PayPal | Spotify | Uber ร่วมอยู่ด้วยต่อไป

ข้อสังเกตุ: ดอลลาร์สิงค์โปร์มีสัดส่วนอ้างอิงสูงมากถึง 7% หากเทียบกับมูลค่าการใช้งานจริงทั่วโลกที่มีสัดส่วนพอ ๆ กับเงินบาทของไทยที่ประมาณ 1% (ดอลลาร์สิงคโปร์คิดเป็นสัดส่วนค่าเงินอันดับที่ 10 ส่วนไทยนั้นอยู่อันดับที่ 11 ของโลก)

ที่มา: Engadget | Reuters