Facebook ประเทศไทย เปิดเผยสถิติที่น่าสนใจในงานแถลงข่าวออนไลน์ The Future of Shopping พบว่าสืบเนื่องจากการระบาดของโรค COVID-19 ที่ปัจจุบันยังเป็นปัญหาของประเทศไทย ผู้บริโภคได้หันมามีพฤติกรรมเลือกซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น อีกทั้งธุรกิจในภาคส่วนแชทบอทก็เติบโตขึ้นจากวิกฤตในครั้งนี้อีกด้วย

Facebook ได้ร่วมมือกับ BCG ออกแบบสอบถามผู้คนช่วงอายุระหว่าง 18-64 ปี จำนวน 8,864 คน ใน 9 ประเทศทั่วโลก รวมถึงไทยของเรา ซึ่งจากการสอบถามพบว่า การซื้อขายผ่านการทักแชทได้กลายมาเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคบนโลกออนไลน์ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งมาจากการระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้หลายคนรู้สึกสบายใจที่จะกด CF หรือ Window Shopping บนมือถือ มากกว่าการออกไปข้างนอกเอาตัวเองไปเสี่ยงกับการติดเชื้อ

โดย Facebook ประเทศไทย เผยว่า ผู้บริโภคชาวไทยในกลุ่ม Gen Z และ Millennials จำนวน 8 ใน 10 คน ชอบที่จะติดต่อร้านค่าผ่านแอปพลิเคชั่นส่งข้อความ อาทิ Messenger หรือ Direct Message ของ Instagram มากกว่า และผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทย 4 ใน 5 คน บอกว่าพวกเขารู้สึกใกล้ชิดกับร้านค้ามากขึ้นกว่าเดิมหลังจากได้ทักแชทออนไลน์ไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือโปรโมชั่นของสินค้าประเภทนั้น ๆ

นอกจากนี้ Facebook ประเทศไทย ยังได้เปิดเผยสถิติที่น่าสนใจเพิ่มเติมในแบบสอบถามดังกล่าว ดังนี้

  • ร้อยละ 65 ได้ทดลองใช้ฟีเจอร์ซื้อของผ่านการไลฟ์ (Live) ในปีที่ผ่านมา
  • ร้อยละ 28 ได้ซื้อของผ่านช่องทาง Live
  • ร้อยละ 84 ซื้อของผ่านการ Live ทุกเดือน
  • ร้อยละ 92 (เฉพาะผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทย) เผยว่า จะเพิ่มการซื้อของผ่านช่องทาง Live ในปีนี้
  • ร้อยละ 83 ส่งข้อความหาร้านค้าก่อนตัดสินใจ
  • ร้อยละ 70 ส่งข้อความในช่วงซื้อสินค้า
  • ร้อยละ 58 ส่งข้อความหลังจากการซื้อสินค้าไปแล้ว

เปิดตัว Facebook Shops นำเสนอฟีเจอร์ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากขึ้น

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา Facebook ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ที่มีชื่อว่า Shops นำเสนอฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์การซื้อของในโลกออนไลน์ของผู้บริโภคมากขึ้น อาทิ Shops Ads Solutions, Product Tags และ Custom Audiences ที่ทาง Facebook จะใช้ระบบจัดหาโฆษณาแบบ Personalised หรือสำหรับผู้ใช้งานคนนั้น ๆ โดยเฉพาะ ให้สามารถพบเห็นสินค้าที่เหมาะสมกับความต้องการของตัวเองได้ง่ายขึ้น

แถม Facebook ยังเปิดตัว API สำหรับ Messenger และ Instagram ที่เข้ามาช่วยให้ร้านค้าและลูกค้าสามารถสนทนา มี engagement กันได้ง่ายและคล่องขึ้น รวมไปถึง Instagram Visual Search for Shopping และการโฆษณาที่ใช้เทคโนโลยี AR ช่วยให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้งานสินค้าที่ตัวเองสนใจแบบเสมือนจริง ไม่ต้องเสียค่ารถหรือค่าน้ำมันออกไปตามร้านค้าจริง ๆ

แชทบอทเข้ามามีส่วนสำคัญ ช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า และทุ่นแรงเจ้าของกิจการ

ในงานดังกล่าว ทาง Facebook ประเทศไทย ยังได้เชิญตัวแทนจาก KaoJao เจ้าของแพลตฟอร์มแชทบอท (Chatbot) ชื่อดัง ที่ทำ SEO ติดหน้าแรกของ Google Search มาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอีกด้วย โดย KaoJao เผยว่า ปัจจุบันธุรกิจในภาคส่วนแชทบอทนั้นมีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างมาก เพราะผู้บริโภคส่วนมากต้องการที่จะมีปฏิสัมพันธ์พูดคุยกับร้านค้าโดยตรง เพื่อให้ได้ความรู้สึกไม่ต่างกับการไปเดินช็อปปิ้งตามห้างหรือตลาดจริง ๆ

อีกทั้งการตอบแชทไวของร้านค้า จะทำให้ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าจากร้านนั้น ๆ มากยิ่งขึ้นด้วย เพราะในส่วนนี้ทั้งทาง KaoJao และ Facebook ประเทศไทย มีความเห็นตรงกันว่า ในยุคซื้อของออนไลน์ ผู้บริโภคมีความใจเย็นน้อยลง เนื่องจากตัวเลือกในการเลือกสรรนั้นมีมากขึ้น หากร้านนี้ตอบช้า พวกเขาก็พร้อมที่จะไปซื้อร้านต่อไปที่ราคาใกล้เคียงกัน หรืออาจจะถูกกว่า

แชทบอทจึงเข้ามามีส่วนสำคัญมาก ๆ ของการขายของออนไลน์ในปัจจุบัน ซึ่งทาง KaoJao เผยว่า ร้านค้าสามารถป้อนคำสั่งได้ว่า หากลูกค้าทักมาแบบนี้ ตัวแชทบอทจะต้องตอบแบบไหน ซึ่งบริษัทฯ ระบุว่า บางทีลูกค้าและร้านค้าสามารถปิดดีลซื้อขายกันได้สำเร็จผ่านแชทบอทเลย เจ้าของธุรกิจหรือทีมงานแทบไม่ต้องทำอะไร ถือเป็นการทุ่นแรงไปได้เยอะพอสมควร เพราะเจ้าของร้านค้าบางคนอาจจะทำงานประจำไปด้วย ขายของเป็นอาชีพเสริม ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาว่างมาตอบแชทเท่าไหร่

 

ที่มา: งานแถลง The Future of Shopping ของ Facebook ประเทศไทย | อีเมลประชาสัมพันธ์