ถ้าใครติดตามข่าวสารเกี่ยวกับแอนดรอยด์มานานมากพอก็จะรู้กันว่าแอปบนแอนดรอยด์ในยุคแรก ๆ นั้นเป็นการทำงานแบบ 32-bit จนกระทั่งวันเวลาผ่านไปอุปกรณ์แอนดรอยด์ได้มีการพัฒนามาตลอดเวลาและมีการรองรับการทำงานแบบ 64-bit เพิ่มเข้ามาด้วย และในปี 2019 ทาง Google Play ได้ประกาศบังคับให้แอปรองรับการทำงานแบบ 64-bit ด้วย จึงทำให้นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาแอปแอนดรอยด์บน Google Play แทบทั้งหมดรองรับการทำงานแบบ 64-bit กันแล้ว

ถึงอย่างนั้นการทำงานแบบ 32-bit บนแอนดรอยด์ก็ยังมีความจำเป็น เพราะยังถูกใช้อยู่ใน Android Go, Android TV, และ Wear OS

แต่สำหรับ Google Pixel 7 และ Google Pixel 7 Pro ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อตอนต้นเดือนนั้น ถือว่าเป็นอุปกรณ์แอนดรอยด์ตัวแรกที่รองรับการทำงานแบบ 64-bit เท่านั้น โดยเอาชุดคำสั่งของ 32-bit ออกไปทั้งหมด

และจากการเอาชุดคำสั่งของ 32-bit ออกไป ทำให้ลดการใช้งานหน่วยความจำชั่วคราวหรือ RAM ได้มากถึง 150MB ควบคู่ไปกับ CPU ตัวใหม่จึงทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้นมากกว่าเดิมถึง 25% เลยทีเดียว

ในขณะเดียวกันฝั่งผู้ผลิตหรือ Vendor ที่ปกติแล้วจะต้องทำขั้นตอนการทดสอบระบบด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า Compatibility Test Suite หรือ CTS เมื่อตัดชุดคำสั่ง 32-bit ออกไป ก็จะช่วยให้ขั้นตอนดังกล่าวลดลงไปครึ่งนึง จึงช่วยให้ฝั่ง Vendor ทำงานได้สะดวกและรวดเร็วกว่าเดิมด้วยเช่นกัน

และในอนาคตเราก็น่าจะได้เห็นอุปกรณ์แอนดรอยด์รุ่นใหม่ ๆ ที่รองรับการทำงานเฉพาะแบบ 64-bit เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน

แหล่งข้อมูล Android Developers Blog