ในชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่ต้องนั่งทำงานทั้งวัน ไม่ค่อยได้ขยับเขยื้อนกันไปไหน ก็อาจทำให้กล้ามเนื้อต่างๆในร่างกายตึงได้ อีกทั้งจะมาให้ออกกำลังกาย ก็ทำได้ไม่กี่วันเพราะมันไม่ค่อยมีแรงจูงใจใช่มั้ยล่ะคะ วันนี้จึงขอแนะนำเกมสนุกๆ ที่จะทำให้ทุกคนสุขภาพดีไปด้วย เกมออกกำลังกายมันๆอย่าง Fitforce ซึ่งเป็นเกม PC พัฒนาโดยคนไทยที่ให้อารมณ์คล้ายๆ การเล่นเกมด้วย Nintendo Switch เพราะเราต้องใช้การเคลื่อนไหวของร่างกายในการบังคับตัวละครในเกมนั่นเองค่ะ

ก่อนที่จะได้เสียเหงื่อกัน ก็ต้องเข้าไปติดตั้งเกม Fitforce ในมือถือและใน PC กันก่อนค่ะ โดยการดาวน์โหลดแอปมาติดตั้งบนมือถือก็เนื่องมาจากเราต้องใช้เซ็นเซอร์ต่างๆ ของมือถือในการทำงานร่วมกับตัวเกมบน PC นั่นเอง ซึ่งรองรับการใช้งานทั้งระบบ Android และ iOS ค่ะ

Fitforce
Fitforce
Developer: Runnex Technology
Price: Free
‎Fitforce
‎Fitforce

ส่วนตัวเกมที่เราจะเล่นบน PC ก็เข้าไปโหลดกันได้ฟรีๆ บนแพลตฟอร์ม Steam ค่ะ

วิธีเข้าเล่นเกม

ในการเข้าเล่นเกมครั้งแรก เราจะต้องใช้มือถือที่ลงแอป Fitforce สแกน QR Code บนหน้าจอ PC ซะก่อน เพื่อเป็นการจับคู่มือถือเข้ากับตัวเกมนั่นเองค่ะ

สแกน QR Code จากบนหน้าจอ PC เพื่อเข้าเล่นเกม

เมื่อเข้ามาในตัวเกมแล้ว ทั้งในมือถือและใน PC ก็จะมีหน้าจอให้เห็นเป็นแบบเดียวกันตามภาพ โดยตัวเกมจะมีให้เราเลือก 4 เมนูด้วยกันคือ Game (เลือกโหมดเล่นเกม), Program (ระยะเวลาออกกำลังกาย), Health Info (ข้อมูลการเผาผลาญของร่างกาย) และ Costume (ชุดแต่งกายตัวละครที่เราเล่น) ซึ่งในหัวข้อ Game ก็จะมีโหมดให้เราเลือกเล่นมากมายทั้งแบบฟรี และแบบเสียเงิน โดยแบบฟรีจะมีให้เลือกด้วยกัน 3 เกมคือ Running warrior, Rocket และ Flappy dive ส่วนในอีก 5 เกมที่เหลือก็จะต้องเสียเงินซื้อเพิ่มเกมละ 59 บาทค่ะ

ถัดมาที่เมนู Program ก็จะมีให้เราเลือกระยะเวลาในการเล่นของแต่ละเกมว่าต้องการเล่นกี่นาที มีทั้ง 15 นาที 30 นาที และ 45 นาที

ถัดมาในโหมด Health info ซึ่งก็จะแสดงข้อมูลให้เราทราบว่าหลังจากเล่นเกมแล้วเราเผาผลาญแคลอรี่ไปเท่าไหร่, ส่วนไหนของกล้ามเนื้อที่ถูกใช้งาน และเล่นเกมไปกี่นาที

อีกทั้งยังมีข้อมูลส่วนตัว อย่างส่วนสูง น้ำหนัก เพศ และอายุให้เข้าไปกรอกเพื่อใช้ในการคำนวณระบบเผาผลาญต่างๆ ได้แม่นยำขึ้น โดยการกรอกข้อมูลส่วนตัว ก็จะต้องเข้าไปกรอกในมือถือเท่านั้น โดยคำถามก็จะมีตามภาพดังกล่าวนี้ค่ะ

ถัดมาที่โหมด Costume ค่ะ ซึ่งในตอนเริ่มเล่นเกมก็จะมีชุดและตัวละครมาให้แบบนี้ แต่ถ้าอยากเปลี่ยนตัวใหม่ ก็ต้องเข้าไปเล่นเกมเพื่อสะสมเหรียญให้ครบตามที่กำหนดแล้วมากดสุ่มแลกตัวละครกันค่ะ

วิธีเล่น

เกมในแต่ละด่านจะมีวิธีเล่นไม่เหมือนกัน เนื่องจากท่าเล่นจะแตกต่างกันไปตามธีมเกมที่เล่นนั่นเอง โดยการรีวิวครั้งนี้จะขอเลือกเป็นโหมด Rocket Squat แล้วกันค่ะ ซึ่งในการเลือกและการควบคุมต่างๆ จะต้องทำผ่านหน้าจอมือถือทั้งหมดนะคะ

หลังจากเลือกโหมดเกมที่จะเล่นเสร็จแล้วก็กด “เริ่มเล่น” จากมือถือได้เลยค่ะ 

และขอแนะนำว่าควรสวมกางเกงที่มีกระเป๋าในการเล่นนะคะ เพราะว่าจะต้องนำมือถือวางตามตำแหน่งที่เกมกำหนดนั่นเอง แต่จะมีบางเกมที่ไม่จำเป็นต้องเอามือถือใส่กระเป๋ากางเกงก็เล่นได้เหมือนกัน อย่างเช่นในโหมด Flappy Dive ซึ่งจะต้องใช้มือจับเครื่องเอาไว้ตลอด

ก่อนเล่นก็ต้องหยิบมือถือหันหน้าออกและใส่เข้าไปในกระเป๋ากางเกงด้านขวา 

จากนั้นก็ทำตามที่เกมสอนเลยค่ะ หันหน้าจอมือถือออกจากตัวเองและใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงด้านขวาตามในภาพ และเช็คว่าด่านนี้จะใช้ท่าอะไรเล่น โดยตัวอย่างในด่านนี้จะต้องใช้ท่า Squat เป็นหลักค่ะ

เมื่อเข้าสู่ตัวเกม ในด่าน Rocket Squat ก็เล่นไม่ยากค่ะ และใช้เวลาแค่ 60 วินาที เท่านั้น โดยวิธีเล่น ก็แค่ทำท่า Squat เพื่อเตรียมพุ่งตัวไปเก็บเหรียญที่จะลอยมาอยู่ตรงตำแหน่งลูกศรเท่านั้น แต่ว่าต้องเล็งดีๆหน่อยนะคะ เพราะว่าเหรียญนั้นลอยไปมาแอบไวอยู่นิดนึง และถึงแม้ท่าที่เราเห็นนั้นจะดูง่าย แต่ขอบอกเลยว่ากว่าจะจบด่านนี่ก็แทบตาย เหมือนได้มีกล้ามหน้าขาเพิ่มขึ้นมาแบบไม่รู้ตัว (นี่แค่นาทีเดียวนะ)

เอามือถือใส่กระเป๋ากางเกง และเล่นที่หน้าจอ PC แบบนี้ค่ะ

หลังจากจบเกม ก็จะมีข้อมูลขึ้นให้ว่าเราได้ไปกี่เหรียญ เผาผลาญไปเท่าไหร่ อย่างของอันนี้ที่สควอทขาแทบหัก แต่เบิร์นไปแค่ 3 แคลเอง 😥

Fitforce สามารถปรับกราฟิกได้ 3 ระดับ คือ High, Medium, Low ที่ความละเอียดสูงสุด 1,920 x 1,080 ขอบอกเลยว่า แสง สี เสียงคือใช้ได้ เพลงเร้าใจ ภาพในเกมก็โอเค แต่มีจุดบกพร่องนิดนึงตรงที่ว่า การเชื่อมต่อระหว่างมือถือและตัวเกมไม่ค่อยแม่นซักเท่าไหร่ บางทีวิ่งๆ ไปมันก็ไม่ยอมเลี้ยวตามตัวเรา จากการทดลองโดยใช้ มือถือรุ่น Samsung A9 กับโน้ตบุ๊ค Asus Fx504 สามารถปรับกราฟิกไปที่ High ได้ ไม่มีปัญหาอะไร มีแค่เรื่องความไม่เสถียรของการบังคับตัวละครเท่านั้นที่อาจทำให้เสียอารมณ์ได้ค่ะ

ซึ่งเรื่องความไม่เสถียรของการบังคับเกมยังพอเข้าใจได้อยู่ เพราะ Fitforce กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาแบบ Early Access ซึ่งจะมีการสอบถาม Feedback ของผู้เล่นเพื่อนำไปปรับปรุงตัวเกมให้สมบูรณ์ขึ้นเรื่อยๆ นั่นเองค่ะ

สรุป

เกม Fitforce ถือว่าเป็นเกมที่สนุก และได้เหงื่อเกมนึงเลย (ถ้าไม่ติดว่ามันไม่ค่อยแม่นซักเท่าไหร่) ซึ่งในแต่ละด่านจะมีรูปแบบการเล่นที่ค่อนข้างน่าสนใจ เหมือนได้เปลี่ยนบรรยากาศจากเวลาที่เราเล่นเกมปกติ ที่จะต้องเล่นผ่านมือถือ (นึกถึงภาพ Temple run)  ก็ใช้แค่ปลายนิ้วกดไปมาเพื่อบังคับทิศทางการวิ่ง แต่ว่าในเกม Fitforce เราจะต้องวิ่งจริงๆ เพื่อให้ตัวละครในเกมวิ่งตาม มันก็จะรู้สึกอินและฟินกว่าเดิมนะ แถมยังเป็นการได้ออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายไปในตัวด้วย เอาเป็นว่าใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศในการออกกำลังกาย ก็ลองโหลดมาเล่นกันได้เลยค่ะ