เป็นประเด็นขึ้นมาทันทีกับกรณี Galaxy S8 / S8+ เจอปัญหาหน้าจออมแดงที่เกาหลีใต้ ซึ่งตอนนี้เราก็รอติดตามอัพเดทข่าวอยู่เรื่อยๆ ว่ามีรายงานการแจ้งจากผู้ใช้งานเพิ่มมากน้อยแค่ไหน และมีการจัดการอย่างไรไปแล้วบ้าง ในขณะเดียวกันเราก็ได้พยายามลองทดสอบดูว่าเครื่อง S8 และ S8+ ที่เราถืออยู่นั้นมีอาการจอติดแดงด้วยหรือไม่ และสามารถแก้ไขในเบื้องต้นได้อย่างไร (แนะนำให้อ่านเวอร์ชั่น หลังจากอัพเดท software แก้จอแดง แทนบทความนี้นะครับ)
ในเบื้องต้นเครื่องที่ถืออยูนั้นไม่พบว่ามีอาการอมสีแดงแต่อย่างใด หน้าเมนูก็ดูขาวเป็นปกติ รวมถึงไม่มีการติดโทนฟ้าหรือเขียวแบบ AMOLED รุ่นก่อนๆ ด้วย
ซึ่งกรณีหน้าจอติดโทนสีแดงนั้น จากที่ลองไล่เปิดเมนูการตั้งค่าหรือ Settings ดูแล้ว ก็พบว่าใน Galxy S8 / S8+ มีส่วนของการปรับตั้งค่าหน้าจออยู่ด้วย ซึ่งเป็นส่วนที่เราสามารถเข้าไปปรับตั้งค่าโหมดการแสดงผล รวมถึงสีของหน้าจอได้
ซึ่งกดเข้ามาแล้วก็จะเจอกับหน้าจอที่หลายๆ คนที่ใช้ Samsung คุ้นเคยกันดี ก็คือโหมดการแสดงผลหน้าจอแบบต่างๆ ที่มีการ Preset หรือตั้งค่ามาให้ก่อนแล้ว อารมณ์เดียวกับที่เรากดเลือกโหมดบนทีวีนั่นแหละ
ถ้าเลือกโหมดโรงภาพยนต์ สีหน้าจอจะดรอปความเข้มลงมา ส่วนที่เป็นสีขาวจะติดเหลืองนิดๆ ส่วนโหมดรูปถ่ายนั้นสีสันจัดจ้านกว่าโหมดภาพยนตร์อยู่หน่อยๆ แต่โหมดพื้นฐานนั้นจะไม่มีการเร่งสีใดๆ เลย ภาพจะออกมาจืดๆ หน่อย ซึ่งโหมดปกติหรือการแสดงผลแบบปรับได้นั้นให้สีสันและคอนทราสจัดจ้านที่สุด
แต่การสลับโหมดแค่นี้ ยังไม่สามารถจะปรับลดเรื่องของโทนสีจอได้ครับ แต่ถ้าหากเราเลือกการแสดงผลแบบปรับได้ และลองเข้าไปปรับสมดุลสี ก็จะสามารถปรับโทนสี RGB แดง เขียว ฟ้า ได้
โดยเมื่อเข้ามาแล้ว ค่ามาตรฐานของโหมดนี้คือดันไปเต็ม max ทั้ง 3 สี
โดยเราสามารถปรับการแสดงผลโทนสีขาวได้ว่ามันขาวขนาดไหน ถ้าอยากได้ขาวโอโม่ก็ตามนี้เลย แต่ถ้าอยากลดความเข้มลงหน่อยก็เลื่อนๆ ปรับลงมาได้
ลองปรับลงมาสุดเท่าๆ กันหมด จะเห็นว่าความเข้มของสีขาวลดลงมาหน่อย คือโอโม่น้อยกว่าภาพแรก
คราวนี้ลองปรับเอาสีแดงขึ้นไป งานนี้จอออกมาอมแดงคล้ายๆ กับเครื่องที่มีปัญหาตามข่าวแล้ว แต่เนื่องจากถ่ายในที่แสงจัดๆ ก็เลยอาจจะเห็นไม่ค่อยชัดเท่าไหร่นะครับ
ลองปรับเอาสีเขียวขึ้นมาสีเดียวบ้าง เริ่มอมเขียวแล้ว
ปิดท้ายด้วยลองดันสีฟ้าขึ้นมาสีเดียว งานนี้ได้ความรู้สึกเหมือนหน้าจอ AMOLED สมัย Galaxy S รุ่นแรกๆ เลย อมเขียวอมฟ้ากันสุดๆ
เพราะฉะนั้นหากเจอปัญหาหน้าจออมแดง อมเขียว หรืออมฟ้า วิธีการแก้ไขเบื้องต้นก็คือเข้ามาปรับตั้งค่าในสมดุลสีได้ครับ เพราะมันคือการปรับจูนโทนสีขาวของหน้าจอโดยเฉพาะ
ปัญหาหน้าจอหลากสีนั้นหลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว อย่างสมัย Galaxy S แรกๆ ก็มีจออมเขียวอมฟ้า iPhone เองก็เคยมีดราม่าจอขาวจอเหลือง ส่วนจอสีอมแดงหรือติดแดงนี่ทาง droidsans เองก็เพิ่งเจอไปเร็วๆ นี้ตอนทดสอบ HTC 10 เมื่อหน้าจอ 2 เครื่องแดงไม่เท่ากัน (ทดสอบมือถือ 10 รุ่น) ซึ่งเรื่องนี้อาจพบเจอได้จากหน้าจอที่ผลิตมาจากคนละเจ้า หรือคนละสายการผลิต
หลายๆ คนอาจจะมองว่าวิธีนี้เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุหรือเปล่า เพราะถ้าหน้าจอมันไม่ได้ขาวมาตั้งแต่ต้น มาปรับโทนสีเอาแบบนี้ก็ยังไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตัว Hardware หรือหน้าจออยู่ดี ซึ่งนั่นก็อาจจะถูกในส่วนนึงครับ แต่ถ้ามองกันไปอีกมุมนึง เช่นพวกหน้าจอคอมพ์แพงๆ เวลาซื้อมาทำงาน ก็ยังต้องมีการปรับจูนสีหรือ calibrate ในลักษณะคล้ายๆ กันแบบนี้ เพื่อให้สีตรงกับงานที่จะทำเหมือนกัน ซึ่งการมีให้ปรับจูนโทนสีหรือแสดงผลสีขาวได้นั้นก็ยังถือว่าดีกว่าไม่มีให้ปรับอะไรเลย และหลายๆ ยี่ห้อเองก็มีการปรับหน้าจอแบบนี้ออกมาหลายนรุ่น อาจจะเป็นการปรับ color temperature หรือปรับแบบละเอียด
แต่วิธีนี้จะเป็นการแก้ปัญหาได้มากน้อยแค่ไหน ลดสีแดงลงไปแล้วการแสดงผลอื่นๆ เช่นภาพถ่ายหรือวิดีโอต่างๆ บนเครื่องจะดีเหมือนรุ่นที่หน้าจอปกติหรือไม่ เอาไว้เดี๋ยวถ้าเจอเครื่องจอติดแดงแล้วเราจะเอามาลองทดสอบเทียบให้ดูกันอีกที (ว่าแต่วันที่ 28 ใครไปรับเครื่องบ้างเนี่ย ไปช่วยกันลุ้นมะ อิอิ)
ข้อสงสัยคือถ้าจออมแดงแบบในข่าว แล้วเรามาปรับ RGB เองสีอื่นมันจะยิ่งเพี้ยนรึเปล่าครับ
ได้เครื่องมาต้องเช็คด่วนมีปัญหาจะได้รีบไปโวยที่ศูนย์ได้
แผนการตลาดเพื่อดิสเครดิต รูปที่เอามาเปรียบเทียบ ก็ไม่เห็นว่ามันปรับสีแดงแบบนี้เอาไว้ก่อนหรือเปล่า มันอาจจะทำไว้ก่อนแล้วก็เอามาวางเทียบกับตัวที่ปกติไม่ได้ปรับก็ได้
ตอบด้วยภาพละกันครับ
https://pbs.twimg.com/media/C9qPirIUwAAaiFM.jpg
และข่าวเรื่องจอแดง สำนักข่าวเกาหลีลงข่าวทุกสำนัก
รอๆ
งานนี้ต้องดูกันยาวๆ
คนสายมือถือชอบตื่นตูมกันจริงนะเอาจริงๆ มันเป็นเรื่องปกติของจอทุกประเภท(มือถือ ทีวี มอนิเตอร์) เลย ไม่งั้นมันไม่มีอุปกรณ์เอาไว้ calibrate ตัวละแพงๆหรอก เพราะทำมายังไง ต่อให้รุ่นเดียวกันจอสองจอก็ได้ไม่เหมือนกันเป๊ะๆหรอก
ตื่นสิครับเครื่องละสามหมื่นซื้อมาต้องมาลุ้นปรับสีอีก มันต้องคาลิเบรทมาให้จากโรงงาน ต่างได้ก็นิดหน่อย แต่นี่มันต่างมาก
calibrate ก็ต่อเมื่อใช้งานไปสักระยะหนึ่งแล้วมันเกิดความคลาดคลื่นครับ ไม่ใช้ซื้อมาก็มา calibrate เลย มันใช่ไหมครับคุณ
ลองไปดูพวกฟอรั่มของฝั่งหนังฝั่งทีวีดูครับคือมันเป็นเรื่องปกติ เขาซื้อมาต้องมานั่งปรับกันเป็นปกติ ถึงบางคนจะไม่จริงจังขนาดต้องซื้อตัว calibrate มาใช้ก็เถอะครับ ยังไงก็ไม่เหมือน สองเครื่องสองตัวต้องมาปรับตาม characteristic ของเครื่องนั้นๆเอง ไม่มีค่ากลางแบบเป็นมาตรฐานเป๊ะๆ อย่าไปนึกรวมถึงพวกจอ monitor ตัวแพงๆ(dell)ที่เขา calibrate มาให้ดีๆนะครับ อย่าลืมว่าอันนั้นมันแค่ตัวจอ มีชิพอย่างมากก็ asic, scaler ที่มันแพงก็เพราะต้องควบคุมอะไรแบบนั้นแหละ
มากันเป็นแพทเทิร์นอ่ะ
แต่ก่อน benchmark มือถือ boost clock speed ก็สนุกสนานกันไปที
มาตอนนี้เรื่องจออีกแล้ว ต่อไปเรื่องไรอีกดี mem speed มั๊ย(แบบรุ่นเดียวกันเป๊ะๆเลยนะ ไม่เหมือนผลไม้นะ จะ main จะ secondary ก็ได้) มีเรื่องให้สนุกสนานกันทุกปีเลย
ไม่เถียงนะว่าควรรักษาสิทธิ์ของตัวเอง หรือถ้ามันทำออกมาได้เหมือนกันเป๊ะๆจะดีมากๆ (อย่าลืมนะครับโลกจริงอุปกรณ์อิเลคฯแบบนี้มันไม่มีอะไรเป๊ะๆ มันมีแค่ค่ายอมรับได้หรือไม่) ,แต่ที่กำลังบอกคือเรื่องแบบนี้มันไม่แปลก ไม่งั้นมันไม่มีออพชั่นพวกนี้มาให้แน่นอน ปรับแล้วหายก็ดีไป ปรับไม่หายก็เคลมล่ะครับ ที่สำคัญคือลองทำดูรึยัง , dead pixel เอย , light leak/light bleed เอย ได้ไม่เหมือนกันสักจอหรอก
ผมมี S7 Edge 3 เครื่อง เครื่องนึงอมแดง
ปรับแดงลง จอก็ไม่เหมือนอีกสองเครื่องนะ
คนประเทศเจ้าของแบรนด์เองเค้ายังออกมารักษาสิทธิ์ของตัวเอง แตกต่างกันจริงๆ
นิสัยคนไทยก็แบบนี้ละครับ ลองได้ชอบอะไรแล้วละก็…ไม่สนหรอกว่าจะดีหรือไม่ เชียร์อย่างเดียว แบบไร้สติก็มี
บ้านเมืองมันถึงได้วุ่นวายไม่รู้จักจบสิ้น เพราะมีคนประเภทนี้อยู่เยอะครับ(เกี่ยวกันไหมนี่ 555)
ผมนี่อึ้งไปเลย