มาอัพเดทฝั่ง Wearable หรือพวกอุปกรณ์สวมใส่อย่างสายรัดข้อมือกันหน่อยจ้า ก่อนหน้านี้ Samsung ได้เปิดตัวสมาร์ทแบนด์รุ่นเล็กถึงสองรุ่นด้วยกันคือ Galaxy Fit และ Galaxy Fit-e เสร็จแล้วก็เงียบหายไปนาน ก็ไม่วางขายซะที ตอนนี้มีอัพเดทล่าสุดแล้วว่าสามารถหาซื้อได้แล้วในโซนยุโรป ส่วนในบ้านเราก็น่าจะเข้ามาวางขายเร็วๆ นี้แล้ว (ละมั้ง)

จริงๆ แล้วเมื่อนำทั้ง Galaxy Fit และ Galaxy Fit-e ทั้งสองรุ่นมาเทียบกันเผลอๆ อาจจะมองไม่ออกเลยว่ามันต่างกันตรงไหน หลักๆ คือทั้งคู่มีฟีเจอร์สำหรับสายสุขภาพทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการติดตามกิจกรรมเช่นนับก้าวเดิน การนอน รวมถึงกิจกรรมการออกกำลังอย่างปั่นจักรยาน,ปีนเขา และการวิ่ง และทั้งสองรุ่นได้รับมาตรฐานความทนทานระดับ military Grade MIL-STD-810G รวมถึงกันน้ำได้นานถึง 10 นาทีอีกด้วย แต่ถ้าหากลองดูสเปคและความสามารถดีๆ ก็จะมีจุดที่แตกต่างกันอยู่ตามนี้เลย

ความแตกต่างระหว่าง Galaxy Fit และ Galaxy Fit-e

Galaxy FitGalaxy Fit-e
ขนาดตัวเครื่อง18.3 x 44.6 x 11.2 มิลลิเมตร16 x 40.2 x 10.9 มิลลิเมตร
น้ำหนัก23 กรัม15 กรัม
จอแสดงผลFull Color AMOLED ขนาด 0.95 นิ้ว  ความละเอียด 120 x 240PMOLED ขนาด 0.74 นิ้ว ความละเอียด 128×64 แสดงผลแบบโมโนโครม
แบตเตอรี่120 mAh ใช้งานปรกติ 1 สัปดาห์ รองรับชาร์จไร้สาย70 mAh ใช้งานปกติ 1 สัปดาห์ / โหมดประหยัดพลังงาน 13 วัน
CPUCortex M33FCortex M0
RAM512KB128 K
ROM32 MB4 MB
เซนเซอร์ Heart Rate

คุณภาพการนอนหลับ

ตรวจจับการเคลื่อนไหวอัตโนมัติ

Accelerometer Gyroscope

Heart Rate

คุณภาพการนอนหลับ

ตรวจจับการเคลื่อนไหวอัตโนมัติ

Operating System Realtime OSRealtime OS
แจ้งเตือนแจ้งเตือนเต็มรูปแบบมีการแจ้งเตือนบางส่วน
กันน้ำ5ATM5ATM
การเชื่อมต่อBluetooth 5.0 BLEBluetooth 5.0 BLE
สีBlack, SilverBlack, White, Yellow
ราคา จำหน่ายในยุโรปราคา 99 ยูโร หรือ ประมาณ 3,485 บาท (เกาหลีใต้ 118,800 won หรือประมาณ 3,200 บาท)ราคาเปิดตัว 39.99 ยูโร หรือประมาณ  1,400 บาท

หลักๆ คือตัว Galaxy Fit ที่มีราคาแพงกว่านั้น จะได้หน้าจอที่มีขนาดใหญ่กว่า ความละเอียดมากกว่า และมีเซนเซอร์ Accelerometer และ Gyroscope ทำให้เรื่องของการตรวจจับและวัดค่าต่างๆ นั้นจะแม่นยำกว่า รวมถึงการแจ้งเตือนก็จะครบครันกว่า ทำให้ราคาแพงกว่ากันราวๆ 2 พันบาทเลยทีเดียว

Play video

เปรียบเทียบกันให้เห็นถึงความแตกต่างกันไปแล้ว ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบ การใช้งานและงบประมาณในกระเป๋าของแต่ละคนกันแล้วจ้าจะเลือกตัวไหน ส่วน Galaxy Fit และ Galaxy Fit-e จะเข้าไทยช่วงไหนรอฟังข่าวกันอีกทีค่ะ

 

ที่มา sammobile