สายรัดข้อมือหรือสมาร์ทแบนด์ราคาประหยัดจาก Samsung มาแล้ว งานนี้ประเทศไทยพร้อมวางจำหน่ายด้วยกันทั้ง Galaxy Fit และ Galaxy Fit-e เรียกว่ามาครบทั้ง 2 ตัวเลือก หน้าจอสี และหน้าจอขาวดำ โดยทั้งคู่นั้นหลักๆ ก็สามารถใช้งานเป็น Activity และ Fitness Tracker ได้ มีเซนเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นหัวใจ รวมถึงสามารถใช้ตรวจวสอบการนอนได้ แบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนาน
ถือเป็นครั้งแรกที่ Samsung ลงมาเล่นตลาดสมาร์ทแบนด์ แถมยังราคาออกมาสูสีกับค่ายจีนอย่าง Huawei และ Xiaomi ซะด้วย โดยรุ่น Fit-e นั้นจะเป็นหน้าจอขาวดำ เซนเซอร์มีน้อยกว่ารุ่นพี่ และมีราคาประหยัดกว่าที่ 1,290 บาท ส่วน Galaxy Fit นั้นก็มีความสวยงามมากขึ้นด้วยจอสี AMOLED และได้เซนเซอร์เพิ่มเข้ามาเพื่อความแม่นยำในการตรวจสอบกิจกรรมหรือออกกำลังกาย มีราคาขยับขึ้นมาที่ 3,290 บาท
ขนาดของ Galaxy Fit-e นั้นก็เล็กๆ น่ารัก หน้าจอเป็นโมโนโครมหรือขาวดำ หน้าปัดจะเล็กๆ หน่อย ประมาณ 0.74 นิ้ว
ที่หน้าจออาจจะแสดงผลเป็นภาษาแปลกๆ อันนี้ไม่ต้องตกใจ มันเป็นช่วงแพร์ก็จะเปลี่ยนภาษาไปเรื่อยๆ
ส่วนด้านหลังก็มี optical heart rate เอาไว้ตรวจสอบอัตราการเต้นหัวใจ จุดทองๆ ด้านล่างนั้นเอาไว้ต่อกับแท่นชาร์จ
ซึ่งของในกล่องก็มีให้แค่นี้ ตัวเรือนก็สายชาร์จ อีกด้านจะเป็นหัว USB เอาไว้เสียบ ไม่มีหม้อแปลงมาให้
ตัวเรือนนั้นสามารถถอดออกมาได้นะครับ เผื่อจะเปลี่ยนสาย เพราะว่ารุ่นนี้มีวางขายด้วยกัน 3 สี เผื่อเบื่อๆ จะเปลี่ยนสายก็ทำได้ (ได้ข่าวว่าจะมีสายมาขายต่างหากด้วยนะ)
สเปค GALAXY FIT-E
- หน้าจอ PMOLED 0.74 นิ้ว ความละเอียด 128×64 แสดงผลแบบโมโนโครม
- เซนเซอร์ Accelerometer
- เซนเซอร์ HR วัดอัตราการเต้นหัวใจ
- เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 BLE
- ขนาด 16 x 40.2 x 10.9 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 15 กรัม
- แบตเตอรี่ 70 มิลลิแอมป์ (ใช้งานปกติ 1 สัปดาห์ / โหมดประหยัดพลังงาน 13 วัน)
- มีระบบสั่นแจ้งเดือน
- กันน้ำที่ 5ATM (ลงน้ำได้ 50 เมตร)
- วางจำหน่าย 3 สี ขาว ดำ เหลือง
- ราคาเปิดตัว 1,290 บาท
ส่วน Galaxy Fit นั้นจะได้หน้าจอ AMOLED มีสีสันสวยงาม ขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นมาหน่อยเป็น 0.95 นิ้ว
ตัวเรือนของ Fit จะแตกต่างตรงที่ว่าสายล็อคนั้นสามารถแกะเปลี่ยนได้ โดยการถอดออกทีละข้าง ลักษณะเดียวกับนาฬิกา
ส่วนอุปกรณ์ในกล่องนั้นจะมีแค่แท่นชาร์จมาให้เท่านั้น ซึ่งรุ่นนี้ใช้ระบบการชาร์จผ่านแท่นแม่เหล็ก ประกบเข้าด้วยกันก็จะทำการล็อคทันที
สเปค GALAXY FIT
- หน้าจอ Full Color AMOLED 0.95 นิ้ว ความละเอียด 120 x 240
- เซนเซอร์ Accelerometer + Gyroscope
- เซนเซอร์ HR วัดอัตราการเต้นหัวใจ
- เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 BLE
- ขนาด 18.3 x 44.6 x 11.2 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 23 กรัม
- แบตเตอรี่ 120 มิลลิแอมป์ (ใช้งานปกติ 1 สัปดาห์)
- มีระบบสั่นแจ้งเดือน พร้อมการแจ้งเตือนเต็มรูปแบบ
- กันน้ำที่ 5ATM (ลงน้ำได้ 50 เมตร)
- วางจำหน่าย 2 สี ดำ เงิน
- ราคาเปิดตัว 3,290 บาท
ถ้าอยากจะลองเทียบขนาดตัวเรือนของทั้งคู่ ก็ลองดูจากภาพนี้คร่าวๆ ได้ หากเทียบขนาดกับ Fenix 5x Plus ขนาดของมันคือนาฬิกาผู้ชายเรือนใหญ่ๆ เรือนนึงนั่นแหละ
ทั้ง Galaxy Fit และ Galaxy Fit-e จะเริ่มวางขายในประเทศไทยช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ครับ ใครสนใจเล็งๆ ตัวไหนเอาไว้ก็เตรียมสอยกันได้เลย ส่วนฟังก์ชั่นการใช้งานมันทำอะไรได้บ้างนั้น รวมถึงต่างกันตรงไหน เดี๋ยวจะมารีวิวให้ดูกันเร็วๆ นี้ครับ
สนใจเรื่องแจ้งเตือนครับ รอดูว่ารองรับภาษาไทยสมบูรณ์มั้ย
Galaxy Fit-e กับ Mi band 3 คงต้องเลือกแล้วซินะ แต่ราคาก็ห่างกันพอตัว
Mi band 4 จอสีจะมาแล้ว
พึ่งฝากเพื่อนซื้อ Fit ที่เกาหลี โดนไป 34xx
ราคาเปิดมาถูกกว่าที่หิ้วอีก 55555
Mi band 4 จอสี 7 ร้อยกว่าบาท เซนเซอร์ 6 แกน
กันน้ำ 50atm รองรับภาษาไทย 100% เตือน line
ได้สบายๆ
พยายามเนาะ
จับ GPS ยังไง
พวกรุ่นไม่มี GPS ในตัวจะใช้ GPS จากมือถือผ่านทาง app ครับ ไปวิ่งต้องเอามือถือไปด้วย