เรื่องราวของ Galaxy Note 7 เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมานั้น คงเป็นเรื่องที่คนจดจำกันไปอีกพักใหญ่และกลายเป็นตราบาปติดตัวซัมซุงไปอีกนาน ภายหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ก็มีความเป็นห่วงจากผู้ที่สนใจจะเป็นลูกค้าของค่ายนี้ว่าจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นมาอีกโดยเฉพาะใน Galaxy S8 ซึ่งทาง Samsung เองก็มีความพยายามโปรโมทว่าตนเองมีการปรับปรุงหลายอย่างมากแล้วนะ แต่ว่ามีอะไรบ้างและเพียงพอหรือไม่นั้น วันนี้เดี๋ยวเรามารวบรวมข้อมูลและช่วยกันคิดกันดูดีกว่าว่าประวัติศาสตร์จะมีซ้ำรอยหรือไม่
ดังที่บอกไปข้างต้นว่าซัมซุงเองได้สร้างความเปลี่ยนแปลงในองค์กรของตัวเองเพื่อที่จะเรียกความเชื่อมั่นของลูกค้ากลับมาอีกครั้ง พร้อมทั้งชูนโยบายการควบคุมคุณภาพอีกมากมาย เพื่อให้เพื่อนๆ เข้าใจมากยิ่งขึ้น เราจึงนำมาขยายความให้อ่านกันครับว่าเราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นบ้าง
มาย้อนความหลังกันสักนิดว่าหลังจากเหตุการณ์ Galaxy Note7 เกิดการระเบิดเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา เกิดอะไรขึ้นบ้าง ซัมซุงลงมือจัดการปัญหานี้อย่างไร มาจนถึงการแถลงผลการสืบหาสาเหตุ และการให้คำมั่นสัญญาที่จะให้ความสำคัญในการควบคุณภาพมากยิ่งขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์ในอนาคต
การรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ Galaxy Note7
หลังจากที่เริ่มมีข่าว Galaxy Note7 เกิดการระเบิดขึ้นหลายเคสในช่วงเดือนกันยายนปีที้แล้ว ทางซัมซุงก็ได้เปิดให้ผู้เสียหายสามารถมาเปลี่ยนเป็นเครื่องใหม่ได้ แต่พอพบว่าเครื่องใหม่ก็ยังเกิดปัญหาไม่ต่างกัน จึงได้หยุดกระบวนการผลิตทันที และเรียกคืนเครื่อง Galaxy Note7 มีการเปิดให้ลูกค้านำเครื่องคืนตามร้านค้า รวมถึงคอยดักตามสนามบินเปิดจุดรับเครื่องคืนด้วย ซัมซุงระบุว่าจากจำนวนเครื่อง 3 ล้านเครื่องที่วางขายไป สามารถเรียกกลับคืนมาได้มากถึง 96% ของทั้งหมด ซึ่งเรียกว่าสามารถเก็บคืนได้เกือบทั้งหมดเลยทีเดียว
ภายหลังการเก็บเครื่องคืนกลับมา ทางซัมซุงก็ได้ระดมกำลังวิศวกรกว่า 700 ชีวิตช่วยกันทดสอบ Galaxy Note7 จำนวน 200,000 เครื่อง และแบตเตอรี่ที่ใช้ใน Galaxy Note7 อีกร่วม 30,000 ก้อน ทั้งยังดึงให้บริษัทอย่าง UL, Exponent, TÜV Rheinland ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ เข้าร่วมตรวจสอบกระบวนการผลิตและทดสอบแบตเตอรี่ด้วย ซึ่งกระบวนการที่ว่านั้นครอบคลุมตั้งแต่การผลิต ตัวแบตเตอรี่ ฮาร์ดแวร์เครื่อง วงจรไฟฟ้าและซอฟต์แวร์ที่ควบคุมระบบไฟในเครื่อง ตลอดจนการขนส่ง จนทำให้สามารถระบุได้ว่าปัญหาเกิดจากแบตและรูปทรงของเครื่อง
แบตเตอรี่ตัวปัญหา
เมื่อซัมซุงทราบสาเหตุแล้วว่าแบตเตอรี่ที่ใช้กับ Galaxy Note7 นั้นมีความบกพร่องจากการผลิต ทำให้เกิดแนวทางใหม่ในการทดสอบแบตเตอรี่ของซัมซุงว่าแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพตามความหมายของซัมซุง จะต้องผ่านกระบวนการทดสอบ 8 จุดสำคัญคือ
- การทดสอบความทนทานของแบตเตอรี่ ทั้งการชาร์จไฟที่กำลังสูงกว่าปกติ, การเจาะ และการทดสอบการทำงานในแต่ละอุณหภูมิ
- การตรวจสอบภายนอกตัวแบตเตอรี่ด้วยสายตาตามมาตรฐาน
- การส่อง X-Ray เพื่อตรวจสอบสภาพภายในของแบตเตอรี่
- การทดสอบชาร์จไฟเข้าและการใช้งานให้แบตเตอรี่คลายประจุ
- การทดสอบ TVOC ที่เป็นการตรวจว่าไม่มีสารประกอบของแบตเตอรี่รั่วไหลออกมา
- การแยกส่วนแบตเตอรี่เพื่อตรวจคุณภาพขั้วแบตเตอรี่และแผ่นฉนวน
- การจำลองการใช้งานเลียนแบบการใช้งานทั่วไปของลูกค้า
- การตรวจสอบความเสถียรของแรงดันไฟในแต่ละชิ้นส่วนของแบตเตอรี่ และแบตเตอรี่ที่ประกอบเสร็จแล้ว
นอกจากนี้แล้วซัมซุงก็ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านแบตเตอรี่จากหลากหลายสถาบันชื่อดังมาร่วมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับแบตเตอรี่อีกด้วย
รู้ซึ้งว่าคุณภาพและความปลอดภัยต้องมาก่อน
บทเรียนจาก Galaxy Note7 ทำให้ซัมซุงมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตหลายอย่างมาก ไม่เพียงแต่เฉพาะเรื่องของแบตเตอรี่เท่านั้น ในการที่จะกู้คืนความเชื่อมั่นจากลูกค้าได้ ซัมซุงจึงเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของบริษัทให้กลายเป็นบริษัทที่ใส่ใจกับคุณภาพและความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง มีการปรับกระบวนการทดสอบผลิตภัณฑ์ให้ละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น มีการทดสอบชิ้นส่วนและอุปกรณ์ในลักษณะต่างๆ ที่เหนือกว่าระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมทั่วไป
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นการปรับโฉมบริษัทจริงๆ เลยก็ว่าได้ เพราะว่านอกจากกระบวนการภายในที่ปรับเปลี่ยนไป ก็ต้องบอกให้ลูกค้ารับรู้ว่าซัมซุงจะไม่ยอมพลาดอีกครั้ง ถึงระดับที่ว่าสโลแกนของบริษัทเปลี่ยนเป็น Committed to Quality (มุ่งมั่นในคุณภาพ) หรือ Innovation is our legacy. Quality is our priority. (นวัตกรรมเป็นสิ่งที่เราสืบสาน, คุณภาพเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญ) ไปเลยทีเดียว จะเห็นได้ว่าสโลแกนทั้งสองจะเน้นย้ำไปที่คำว่า Quality รวมถึงในงานเปิดตัว Galaxy Tab S3, Galaxy Book ที่ผ่านมานั้น ซัมซุงก็ยังเปิดตัวด้วยการนำเสนอตนเองเป็นผู้ที่ใส่ใจในคุณภาพสินค้าจริงๆ
Galaxy S8 เป็นทั้งความหวังและโอกาสสุดท้ายของซัมซุง
ถ้าใครได้ติดตามข่าวสารเกี่ยว Galaxy S8 มาน่าจะทราบดีว่ามีความล่าช้าในการผลิต ทั้งเรื่องของการผลิตชิปที่ไม่สามารถทำได้ทันตามแผนที่วางไว้ และเรื่องแบตเตอรี่ที่ทางซัมซุงไม่สามารถผลิตมาได้ทัน จนต้องไปเจรจาให้ทาง LG และผู้ผลิตแบตสัญชาติญี่ปุ่น Murata ที่เพิ่งไปซื้อแผนกแบตเตอรี่ของโซนี่มา แต่ผู้ผลิตหลักก็ยังคงเป็น Samsung SDI ส่วนบริษัท ATL ที่เคยผลิตแบตเตอรี่ให้ใน Galaxy Note7 นั้นน่าจะไม่ได้มาร่วมวงในครั้งนี้ ความล่าช้าในการผลิตนั้นอาจจะมาจากหลากปัจจัยที่ไม่พร้อม แต่ก็เชื่อว่าส่วนนึงน่าจะมาจากการตรวจสอบคุณภาพที่ซัมซุงให้ความสำคัญมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้านี้
Galaxy S8 ที่กำลังจะเปิดตัวในอาทิตย์นั้นก็ดูจะเป็นความหวังหลักของซัมซุงที่จะเป็นมือถือรุ่นที่จะกู้ชื่อบริษัทขึ้นมาได้ ซัมซุงต้องทำให้ลูกค้าได้เห็นว่าทางบริษัทได้พูดจริง ทำจริง และพิสูจน์ได้ว่าผลิตภัณฑ์ของซัมซุงต่อจากนี้จะมีคุณภาพและไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือน Galaxy Note7 อีก ซึ่งผมเองก็เชื่อว่าซัมซุงไม่น่าที่จะทำพลาดอีกเป็นครั้งที่สอง เพราะถ้าหากยังเกิดขึ้นอีก ก็คงไม่มีโอกาสเหลือให้ซัมซุงแก้ตัวแล้ว
แล้วเพื่อนๆ ล่ะครับ คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย Galaxy S8 ระเบิดอีกหรือไม่ มาโหวตกันได้ และ/หรือ คอมเมนท์วิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์กันได้ข้างล่างนี้เลยครับ
คุณคิดว่า Galaxy S8 จะระเบิดหรือไม่ |
ถ้าระเบิดแบบ note7 อีกก็เลิกขายโทรศัพท์เถอะครับ 55
ทีมออกแบบ พยายาม ให้บอดี้เครื่อง เล็กและบาง มากเกินไป
รอบนี้ คงโดนคาดโทษ ไว้แล้ว
มันน่าจะมีบ้างแหละครับ ผมว่า แต่คงไม่เยอะแบบ note7
เพราะผมยังเชื่อว่า ค่ายนี้ qc ได้ไม่เข้มมากพอ จนสินค้าที่ขายจอม่วง แล้วโทษลูกค้าว่ากดทับ
เคสในอนาคตน่าจะเป็นการโทษลูกค้าว่าใช้งานผิดประเภท มีรอยกดทับ ทำให้ระเบิดแทน
เห็นตอน A7 ออก ก็มีคนถามว่ารุ่นนี้จะระเบิดรึเปล่า
แล้วก็มีคนรุมด่าคนนี้ว่าจะซ้ำเติมทำไม ไม่เบื่อเหรอ
ถามอยู่ได้ว่าระเบิดรึเปล่า แต่มารอบนี้ Droidsans
ถามเองเลย น่าสนใจดีครับ
รอดูข้อบกพร่องระดับ critical ประจำอุปกรณ์รุ่นนี้ได้เลย ใครควักเงินซื้อก่อนก็ได้สิทธิเป็น Tester จำเป็นไปละกัน
จากความพยายามในการแก้ไขปัญหาของ Samsung โดยการเพิ่มการ QC แล้ว
และขนาดแบตเตอรี่ที่ไม่ได้เวอร์วังเหมือนกับ Note 7 ไม่น่าจะเจอปัญหาเดิมครับ
แต่ราคาน่าจะแพงนิดหน่อย ถ้าไม่แพงขึ้นก็ต้องมาดูกันว่าเค้าตัดอะไรทิ้ง หรือยอมลดกำไรกันแน่
คือถ้าไม่ระเบิดคงจะไม่รู้ถึงความชุ่ยตัวเองใช่มั้ย ปล่อยออกมาขายได้ไง ยัดแบตจนขอบย่นแบบนั้น เชื่อเค้าเลย
คาดว่าไม่ระเบิด แต่ผมไม่จองล่วงหน้าอยู่ดี เข็ดกับ Note 7 แล้ว
รอคนใช้ไปซักพักก่อน ไม่มีปัญหาค่อยตามยังไม่สาย