จากนโยบายการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ EV ของหลายประเทศทั่วโลกดูเหมือนจะส่งผลให้ยอดขายของรถยนต์ไฟฟ้าพุ่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลล่าสุดได้เผยออกมาแล้วว่าสถิติการส่งมอบรถ EV ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 สูงขึ้นมาถึง 79% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของเมื่อปี 2021
ตลาดรถยนต์ EV ดูจะฟื้นฟูขึ้นมาอย่างต่อเนื่องหลังจากการระบาดของ COVID-19 และปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ จากการรายงานล่าสุดของ Counterpoint Research พบว่า ยอดการจัดส่งรถยนต์ EV ในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้โตขึ้น 79% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว โดยคิดออกมาเป็นจำนวนก็ทะลุ 1.95 ล้านคันไปแล้ว
Soumen Mandal นักวิจัยตลาดกล่าวว่า “ตลาด EV กำลังโตขึ้นอย่างรวดเร็วและน่าจะสูงขึ้นไปกว่านี้อีกหากไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามยูเครน-รัสเซีย และการระบาดระรอกใหม่ของ COVID-19 ในจีนช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยรถยนต์ EV นับเป็น 12% ของจำนวนรถยนต์รวมทั้งหมด (รถสันดาป+รถยนต์ไฟฟ้า) ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้”
ส่วนแบรนด์รถยนต์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดยังคงเป็นของ Tesla ที่ทำได้ถึง 16.7% ส่วนที่สองเป็นของแบรนด์จีนอย่าง Wuling ตามมาห่าง ๆ ที่ 8.9% และที่ 3 ถึงที่ 5 เป็นของ BMW 6.0%, Volkswagen 5.2% และ BYD Auto 4.8% ซึ่งก็เป็นค่ายจีนอีกเหมือนกัน
Soumen Mandal พูดถึงสาเหตุของยอดขายรถ EV ที่เพิ่มสูงขึ้นมาก ก็เพราะการพัฒนาเทคโนโลยีให้แบตเตอรี่สามารถเก็บพลังงานได้มากขึ้นและใช้งานได้ยาวนานขึ้นกว่าเดิม การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างการเพิ่มจุดชาร์จ นโยบายจากรัฐบาล รวมไปถึงราคาน้ำมันที่แพงขึ้นเรื่อย ๆ และการตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้นนั่นเอง
ทั้งนี้ 10 อันดับรถยนต์ EV ที่มียอดขายสูงสุดนับเป็น 1 ใน 3 ของยอดขาย EV ทั่วโลกในไตรมาสแรกของปีนี้ แชมป์ตกเป็นของ Tesla Model Y ยอดส่งมอบ 8.48% ตามมาด้วย Tesla Model 3 ยอดส่งมอบ 6.61%, Wuling Hongguang MINI EV ยอดส่งมอบ 5.46%, BYDSong DM ยอดส่งมอบ 2.96% และ BYD Qin PLUS DM-i ยอดส่งมอบ 2.40%
Peter Richardson รองประธานฝ่ายวิจัยให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดว่า ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ เพราะมีหลายประเทศตั้งใจจะเลิกใช้รถน้ำมันภายในปี 2040 รวมไปถึงการพัฒนารถยนต์ EV ให้มีความฉลาดมากขึ้น นับได้ว่านี่เป็นช่วงที่วุ่นวายที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งอุตสาหกรรมยานยนต์กว่าศตวรรษที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ และยังคาดการณ์ว่ายอดการจัดส่งรถ EV ในปี 2022 นี้จะเกิน 10 ล้านคัน และจะมากถึง 58 ล้านคันในปี 2030
สรุปได้ว่าแนวโน้มการใช้รถยนต์ EV มีแต่จะสูงมากขึ้นจากปัจจัยที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมหรือราคาน้ำมันที่แพงขึ้นเรื่อย ๆ (ข้อนี้ดูจะเป้นสาเหตุหลักเลย) และถ้าหากว่าใครที่กำลังสนใจหารถยนต์ EV มาลองขับสักคัน เราก็ได้รวบรวม 10 รถยนต์ EV ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทที่น่าสนใจในปี 2022 ไว้ให้ทุกคนได้อ่านเพื่อประกอบการตัดสินใจกันด้วยครับ
ที่มา : counterpointresearch
Comment