ในที่สุดก็ได้ฤกษ์เปิดตัวกันซะที สำหรับมือถือซีรีส์เรือธงรุ่นล่าสุดจาก Google อย่าง Pixel 5 ซึ่งคราวนี้จะแตกต่างออกไปจากซีรีส์แล้วๆ ตรงที่มันเป็นมือถือสเปคระดับกลาง ไม่ใช่ระดับเรือธงเหมือนที่ผ่านมา แต่ก็ยังเรียกว่าน่าสนใจอยู่ดี เพราะมันเป็นมือถือ Android พันธุ์แท้ที่มักจะมีฟีเจอร์เจ๋งๆ มาให้ใช้ก่อนใครเพื่อนนั่นเอง ส่วนสเปคที่แม้ว่าจะไม่ได้จัดมาให้แบบไฮเอนด์เหมือนรุ่นก่อนๆ แต่ก็สามารถใช้งานทุกอย่างได้แบบสบายๆ
ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอ
Pixel 5 ได้รับการเปลี่ยนดีไซน์ไปจากรุ่น Pixel 4 ด้วยหน้าจอที่มีขอบบน-ล่างบางลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะคราวนี้ใช้หน้าจอแบบเจาะรูสำหรับวางกล้องเซลฟี่ที่มุมซ้ายบนแทน โดยหน้าจอของมือถือรุ่นนี้ เป็นจอแบบ OLED ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ และมีรีเฟรชเรทอยู่ที่ 90Hz ทำให้การเคลื่อนไหวต่างๆ บนหน้าจอดูลื่นขึ้น สมูธขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการไถหน้าจอเปลี่ยนหน้าไปมา หรือจะเป็นการเล่นเกมก็ตาม นอกจากนี้ยังครอบด้วยกระจก Gorilla Glass 6 ที่สามารถกันรอยขีดข่วนต่างๆ จากกุญแจ หรือเศษเหรียญได้อีกด้วย
พลิกมาดูด้านหลังยังคงมีโมดูลกล้องสี่เหลี่ยมที่มุมซ้ายบนอีกเช่นกัน แต่ย้ายแฟลชลงมาอยู่ด้านล่าง ถัดลงมาจากโมดูลมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเพิ่มเข้ามา จากเดิมที่ Pixel 4 ใช้เฉพาะเซ็นเซอร์ในการสแกนใบหน้าเท่านั้น
ตัวเครื่องของ Pixel 5 ใช้วัสดุที่เป็นโลหะแบบ Aluminium เสริมความแข็งแกร่งให้ตัวเครื่อง โดยจะวางจำหน่ายทั้งหมด 2 สี คือ สีดำ Just Black และสีเขียว Sorta Sage
กล้องหลังเพิ่มเลนส์ Ultra-wide พร้อมฟีเจอร์มากกว่าเดิม
Pixel 5 มากับกล้องหลัง 2 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 12.2MP (f/1.7) และกล้อง Ultra-wide 16MP (f/2.0) ซึ่งถึงแม้ว่าทางด้านฮาร์ดแวร์กล้องอาจจะดูธรรมดาๆ ไปหน่อย แต่ซอฟต์แวร์ที่ทาง Googleพัฒนาขึ้นมา เรียกว่าสู้กับมือถือรุ่นอื่นๆ ในตลาดได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายด้วยโหมด HDR+ ที่ให้ความคมชัดและสว่างไสว แม้ถ่ายย้อนแสง
โหมดถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ (Portrait Mode) ในสภาวะแสงน้อย ก็ยิ่งเพิ่มลูกเล่นให้กับภาพถ่ายตอนกลางคืนได้แบบงามๆ และดูเป็นธรรมชาติ
ปรับแสงสีให้กับภาพถ่ายด้วยโหมด Portrait Light ที่แม้ว่าแสงธรรมชาติจะไม่เป็นใจ แต่เราก็ยังสามารถจัดแสงได้เองแบบเนียนๆ
กล้องเลนส์ Ultra-wide ที่ใส่มาให้คราวนี้ก็สามารถเก็บภาพมุมกว้างๆ ได้ทั้งภาพนิ่ง และวิดีโอ โดยมีความกว้างอยู่ที่ 107 องศา
Pixel 5 ยังมากับโหมดถ่ายวิดีโอสุดเทพอย่าง Cinematic Pan ซึ่งจะเพิ่มความนิ่งให้กับการถ่ายวิดีโอโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริม แถมยังมีการปรับค่า FPS ของวิดีโอให้ช้าลง ทำให้ภาพที่ออกมาดูสวยงาม และดูโปร ได้อารมณ์เหมือนกับภาพยนตร์จริงๆ
แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้สูงสุดกว่า 2 วัน
แบตเตอรี่ขนาด 4080 mAh ของ Pixel 5 อาจจะดูไม่มากมายนัก แต่มันมากับระบบ Adaptive Battery ที่เราสามารถตั้งค่าได้ว่าจะให้แอปอะไรรันอยู่เบื้องหลัง และแอปอะไรที่ต้องการให้หยุดทำงาน นอกจากนี้ยังมีโหมด Extreme Battery Saver ที่จะทำให้ Pixel 5 มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานแบบปกติได้สูงสุดถึง 48 ชม.
มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68
จะทำน้ำหกใส่ ใช้งานตอนเดินตากฝน หรือจะทำตกแอ่งน้ำ ก็ไม่มีปัญหา เพราะ Pixel 5 ได้รับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP68 ซึ่งสามารถลงน้ำจืดได้ลึกถึงเมตรครึ่ง เป็นเวลา 30 นาที (แต่ไม่แนะนำให้เอาไปใช้งานในน้ำนะครับ)
สเปค PIXEL 5
- หน้าจอ OLED ขนาด 6 นิ้ว Full HD+ (1080 x 2340) รีเฟรช 90Hz รองรับการแสดงผล HDR ครอบด้วย Gorilla Glass 6
- CPU : Snapdragon 765G
- RAM : (LPDDR4x) RAM 8GB
- ความจุ : (UFS 2.1) 128GB ไม่รองรับ microSD card
- กล้องหลัง :
- Wide 12.2MP (f/1.7), ขนาดพิกเซล 1.4μm, ระบบโฟกัส dual pixel PDAF, ระบบกันสั่น OIS และ EIS
- Ultra-wide 16MP (f/2.2), ขนาดพิกเซล 1.0μm, มุมกว้าง 107 องศา
- กล้องหน้า : 8MP (f/2.0), ขนาดพิกเซล 1.12um, มุมกว้าง 83 องศา
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, 2×2 MIMO, Wi-Fi Direct, DLNA, hotspot, Bluetooth 5.0, NFC, USB Type-C
- เซ็นเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ (ด้านหลัง), accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer
- รองรับ 5G :
– Sub-6 Bands n1/2/3/5/7/8/12/28/41/66/71
– mmWave: Bands n258/n260/n261 - มาตรฐานกันน้ำ / กันฝุ่น : IP68
- แบตเตอรี่ : 4000 mAh, รองรับชาร์จไว 18W, รองรับชาร์จไร้สาย, รองรับการชาร์จไร้สายให้อุปกรณ์อื่น (Battery Share)
- ระบบปฏิบัติการ : Android 11 (จะได้รับการอัปเดต OS และความปลอดภัยอย่างต่ำ 3 ปี)
- ขนาด / น้ำหนัก : 144.7 x 70.4 x 8.0 มม. / 151 กรัม
ราคา และวันวางจำหน่าย
Pixel 5 มีจำหน่ายเพียงรุ่นเดียวเท่านั้น โดยเริ่ม Pre-order ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปผ่านทางเว็บไซต์ Google (US) และจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2020 เป็นต้นไป ราคา 699 ดอลลาร์ หรือประมาณ 22,100 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม : Google (US)
SD765จอ90Hz ราคา20000+ เลื่อนลงไปดูข้างล่าง MI10 SD865จอ144hz !!!! WTF
อยากลองใช้กล้องดูนะ แต่สเปครวมๆกับราคาไมรู้สึกมันแพงจัง
ไปเล่น S20 FE 5G คุ้มกว่านะ
คือยังหาคุณสมบัติเด่นที่ต้องการไม่เจอ… อ่ะแต่สีสวยอยู่
หน้าตาแบบเครื่องราคา 4990 .. 55
แถมยังมีการปรับค่า FPS ของวิดีโอให้ช้าลง << น่าจะใช้คำว่า "ปรับความเร็ว(หรือสปีด)ของวิดีโอให้ช้าลง" มากกว่า
ราคา 4a สองเครื่อง โหดสลัดผัก
สเปค
CPU แค่ Snapdragon 765G (คนอื่น 865)
เมมแค่ UFS 2.1 (คนอื่น 3.0 – 3.1)
กล้องหลังแค่ Wide กับ Ultra-wide (คนอื่นมี tele)
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (คนอื่น wifi6)
2×2 MIMO (คนอื่น 4×4)
สแกนลายนิ้วมือด้านหลัง (คนอื่นใต้หน้าจอ)
รองรับชาร์จไว 18W (คนอื่น 30 – 100W)
ขาย 22,000 จริง ๆ สเปคนี้น่าจะไม่เกิน 15,000 นะครับ
ผมก็ไม่เข้าใจแบรนด์ดังๆ Google,Microsoft ไม่นับรวม Apple ทำอุปกรณ์ สเปกไปไม่สุด แต่ตั้งราคาขั้นสุด
เพื่ออะไร? ดันมูลค่าแบรนด์มั้ง หรือไม่ได้กะขายให้ผู้ใช้ทั่วไป
ถ้าเทียบสเปกแบบนี้แล้ว Apple ดูดีกว่าขั้นมาเลย เพราะเขาทำของดี ขายในราคา สมเหตุผล
(ผมสาวก android ไม่ใช่สาวก apple ไม่คิดใช้อุปกรณ์ apple แต่คิดว่าเขาทำได้ดีกว่าจริงๆ)