หลายคนน่าจะพอรู้อยู่แล้วว่า Google เจ้าพ่อ Tech Gaint ขอวเรา มักจะหอบเงินไปให้กับ Apple เป็นจำนวนกว่าหลายแสนล้านบาทต่อปี เพื่อที่จะร้องขอให้บริษัทผลไม้ เลือกใช้ Google เป็น Search Engine หลัก หรือค่า Default ในแอปบราวเซอร์ Safari โดยปีนี้ พวกเขาอาจจ่ายมากถึง 15,000 ล้านเหรียญสหรัญฯ หรือประมาณ 490,000 แสนล้านบาท มากกว่าปีที่แล้วอยู่พอสมควร

นักวิเคราะห์จาก Bernstein คาดการณ์ตัวเลขเอาไว้ว่า ในปี 2021 นี้ Google จะจ่ายเงินค่าต๋งให้กับ Apple เพื่อดันให้ Google เป็น Default Search Engine ของ Safari เป็นจำนวน 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเกือบ ๆ 500,000 ล้านบาท และในปีหน้า หรือปี 2022 ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นเป็นระหว่าง 18,000 – 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งมากกว่าเดิมถึง 33% เลยทีเดียว โดยข้อมูลนี้ใช้วิธีคิดอ้างอิงจากรายงานผลประกอบการของ Apple และการวิเคราะห์จากล่างขึ้นบน (Bottom-Up Analysis) ของ TAC Payments จากฝั่ง Google เอง

Toni Sacconaghi นักวิเคราะห์จาก Bernstein ให้เหตุผลถึงสาเหตุที่ Google ยอมควักเงินในกระเป๋าจ่ายหนักขนาดนี้ เป็นเพราะพวกเขาไม่อยากให้ Microsoft ชนะในการแข่งขันครั้งนี้ 

ทั้งนี้ Sacconaghi ยังระบุเพิ่มเติมว่า การจ่ายเงินให้ Apple ของ Google ในครั้งนี้ อาจจะถูกตรวจสอบได้ ซึ่งหากเป็นแบบนั้นจริง ๆ ก็จะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทผลไม้ถึง 4 – 5% เลยทีเดียว หรือบางที Google อาจจะคิดว่าดีลนี้พวกเขาไม่คุ้ม ไม่ควรจ่ายเงินเยอะขนาดนั้น ขอเจรจาจ่ายน้อยลงกว่าเดิม หรือไม่จ่าย ไม่สนใจแล้วว่า Default Search Engine บน Safari จะเป็นอะไร

ก่อนหน้านี้ Apple เคยออกมาให้เหตุผลว่าทำไมถึงเลือก Google มาเป็น Default Search Engine บน Safari ว่า ปัจจุบัน Google ถือว่าเป็นบริการที่ได้รับความนิยมที่สุด แต่ถึงอย่างไร Safari ก็มีตัวเลือกให้เปลี่ยนไปใช้ DuckDuckGo หรือ Ecosia อยู่ดี พูดง่าย ๆ คือ หากใครอยากเปลี่ยน ไม่อยากใช้ Google ก็มีตัวเลือกให้เปลี่ยน ไม่ได้ผูกขาดอยู่แค่ตัวเลือกเดียว

 

ที่มา: 9to5mac