สื่อหลายสำนักต่างทยอยปล่อยรีวิว Pixel 7 Pro กันออกมาแล้ว หนึ่งในนั้นคือ DXOMARK ที่เป็นการรีวิวแบบเจาะจงเฉพาะเรื่องกล้องและการถ่ายภาพ — ปรากฏว่า Pixel 7 Pro ได้รับคะแนนรีวิวไป 147 แต้ม ครองอันดับ 1 ร่วมกับ Magic4 Ultimate ของ HONOR ซึ่งนับเป็นหนแรกในรอบ 5 ปีที่สมาร์ทโฟนจาก Google กลับมาเป็นแชมป์อีกครั้ง ทิ้งช่วงห่างจาก Pixel 2 ที่เคยทำได้นานถึง 5 ปี
สาเหตุที่ Google ร้างมือจากตำแหน่งแชมป์ไปนานจนถึงก่อนหน้านี้ เป็นเพราะเทรนด์ของสมาร์ทโฟนยุคใหม่จะเน้นใส่กล้องหลังมาหลาย ๆ ตัว สอดรับกับวิธีทดสอบและประเมินของ DXOMARK ที่มีคะแนนด้านการซูมแยกออกมาเป็นหมวดหมู่ย่อยทั้งในการถ่ายภาพและวิดีโอ สวนทางกับ Pixel ที่มีกล้องหลังน้อยกว่าคู่แข่ง ทำให้สูญเสียคะแนนในส่วนนี้ไปมาก
โดย Google เลือกใช้งานกล้องเดี่ยวมาจนถึง Pixel 3 ก่อนที่จะขยับเพิ่มเป็นกล้องคู่ใน Pixel 4 ในขณะที่ Pixel 6 Pro เป็นรุ่นแรกที่มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ต่อเนื่องมายัง Pixel 7 Pro ที่เป็นรุ่นล่าสุด
หากดูจากผลการทดสอบ จะเห็นได้ว่า Pixel 7 Pro ไม่ได้โดดเด่นด้านไหนแบบ ‘สุดโต่ง’ เลยในหมวดหมู่ย่อย แต่ภาพรวมคือ ‘ดีมาก’ ในทุกด้าน ทาง DXOMARK จึงแนะนำว่า มันเป็นสมาร์ทโฟนที่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการความสมดุลระหว่างการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ
นอกจากนี้ Pixel 7 Pro ยังทำได้ดีเป็นพิเศษในกรณีถ่ายภาพบุคคล ทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่ม เนื่องจากมันให้โทนผิวที่ดี โฟกัสฉับไว จับภาพได้เร็ว และภาพไม่เบลอจากความหน่วงของชัตเตอร์
จุดเด่น
- ถ่ายทอดสีผิวได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ในสภาพแสงแวดล้อมไม่อำนวย
- ประมวลผลความสว่างและขอบเขตสีได้อย่างเที่ยงตรง
- โฟกัสได้แม่นยำ รวดเร็ว และมีระยะชัดลึกที่กว้าง
- ให้คอนทราสต์ที่ดีในสถานการณ์ส่วนใหญ่ รวมถึงการถ่ายพอร์เทรตแบบย้อนแสง
- เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน โดยเฉพาะในที่ที่มีแสงมาก
- เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนในทุกช่วงของการซูม ตั้งแต่อัลตราไวด์ยันเทเลโฟโต
- ระบบกันสั่นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จุดสังเกต
- พบนอยส์ในส่วนมืดของภาพ หากถ่ายในสภาพที่มีคอนทราสต์จัดและแสงน้อย
- มีส่วนที่ขาวโพลนหลุดไฮไลต์เป็นบางครั้ง กรณีถ่ายในสภาพแสงในร่ม
- สีเพี้ยนขณะถ่ายวิดีโอในร่ม
- เจออาการเหลือบสี สีเพี้ยน และเกิดแสงแฟลร์สะท้อนหน้าเลนส์อยู่บ้าง
- สูญเสียรายละเอียดเล็กน้อยในการซูมระยะใกล้และการถ่ายแบบโคลสอัป
เทียบกับ Pixel 6 Pro แล้ว Pixel 7 Pro มีคะแนนด้านการซูมดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จาก 115 เป็น 143 คะแนน เพิ่มมาถึง 28 คะแนน สาเหตุหลัก ๆ มาจากการที่ Google ได้ทำการรื้ออัลกอริทึมฟีเจอร์ Super Res Zoom มาทำใหม่ ให้มันทำงานในรูปแบบอิมเมจฟิวชัน หรือการซ้อนภาพจากกล้อง 2 ตัวเข้าด้วยกัน แล้วนำมาประมวลผลเพิ่มความคมชัดด้วย AI ซึ่งเป็นวิธียอดนิยมในปัจจุบันที่หลาย ๆ ค่ายใช้งานอยู่
ส่วนความโดดเด่นด้านสกินโทน เป็นอานิสงส์มาจากโครงการ Real Tone ที่ Google ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญในสายงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ช่างภาพ ครีเอเตอร์ ผู้กำกับภาพยนตร์ มาช่วยสอนให้ AI เรียนรู้ที่จะปรับแต่งโทนภาพให้เหมาะสมกับสีผิวของมนุษย์ที่มีความหลากหลายแตกต่างกันไปตามเชื้อชาติ
ที่มา : DXOMARK
Comment