Google Pixel Tablet เพิ่งเปิดตัวไปหมาด ๆ ไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา และในขณะที่ทุกคนกำลังให้ความสนใจกับ Charging Speaker Dock อยู่นั้น Google ดูเหมือนจะลืมพูดถึงหนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่าง ฟีเจอร์รองรับปากกาสไตลัส USI 2.0 ซึ่งเป็นมาตรฐานกลางสำหรับปากกาสไตลัสที่เราก็ไม่ค่อยได้ยินสักเท่าไหร่ และสำหรับใครที่สงสัยว่าปากกาสไตลัสมาตรฐาน USI คืออะไร เราจะมาอธิบายให้ฟังกัน
มาตรฐานปากกา USI 2.0 คืออะไร
USI ย่อมาจาก Universal Stylus Initiative เป็นมาตรฐานกลางของปากกา Stylus ที่ทำให้ปากกาต่างแบรนด์สามารถใช้งานร่วมกับได้ไม่ว่าแล็ปท็อป มือถือ หรือแท็บเล็ตรุ่นไหน ๆ ก็ตาม โดยมาตรฐานนี้จะมาพร้อมกับความสามารถอย่าง รองรับชาร์จผ่านระบบ NFC, รองรับการเขียนมุมเฉียง, รองรับแรงกดปากกา, รองรับปุ่มกดที่ตัวปากกา, รองรับช่วงสีที่กว้าง รวมถึงรองรับพาเนลจอแสดงผลแบบ in-cell ด้วย
มาตรฐานที่ว่าอาจจะไม่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายสักเท่าไหร่ เพราะแบรนด์ชั้นนำอย่าง Apple, Samsung และ Microsoft ต่างมีเทคโนโลยีปากกาสไตลัสที่แข็งแรงเป็นของตัวเอง และคงไม่อยากร่วมแชร์ให้ใครใช้ มีเพียง Google ที่ได้เข้าไปจับมือลงนามกับ USI เมื่อปี 2018 แต่ก็ยังไม่เคยออกแท็บเล็ตรุ่นไหนเลยที่รองรับปากกามาตรฐานนี้เลย มีเพียงแค่ฝั่งของ Chromebook ที่ได้รับการซัพพอร์ตมาตลอด ซึ่ง Pixel Tablet ถือเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกที่รองรับกับปากกา USI 2.0 เลยก็ว่าได้
สรุปแล้ว Pixel Tablet รองรับปากการึเปล่า?
คำตอบคือ: รองรับแน่ ๆ เพราะหน้าเว็บไซต์ของ Google ระบุไว้ว่าจอแสดงผลรุ่นนี้รองรับกับปากกา Stylus มาตรฐาน USI 2.0 ทั้งนี้ Google ไม่ได้ทำปากกา Stylus สำหรับ Pixel Tablet ออกมาขายนะ แต่ผู้ใช้งานสามารถหาซื้อ หรือใช้งานปากกาสไตลัสที่มีอยู่ยี่ห้อไหนที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน USI 2.0 นำมาใช้บน Pixel Tablet ได้หมดไม่มีปัญหาอะไร
ทั้งนี้ถึงแม้ว่า Pixel Tablet จะรองรับปากกา Stylus แต่ก็ไม่สามารถนำปากกา Pixelbook Pen ที่เปิดตัวเมื่อหลายปีก่อนมาใช้งานในรุ่นนี้นะ เพราะตัวปากกาไม่ได้รองรับมาตรฐาน USI นั่นเอง แต่ผู้ใช้งานสามารถหาซื้อปากกาจากแบรนด์ชั้นนำทั้ง Penoval USI 2.0, Lenovo USI Pen ทั้งรุ่นแรก และรุ่น 2 รวมถึง HP Rechargeable USI Pen ก็สามารถนำมาใช้งานร่วมกันได้
ดังนั้นใครที่กำลังมองหาแท็บเล็ตไว้ใช้งานในด้านสร้างสรรค์ วาดภาพ ขีดเขียน Pixel Tablet ก็ถือเป็น 1 ในตัวเลือกที่น่าสนใจ และตอนนี้ก็เปิดให้พรีออเดอร์ในสหรัฐฯ แล้ว เริ่มต้นที่ราว ๆ 16,800 บาท แต่สำหรับใครที่สนใจใช้งาน คงต้องหาซื้อเครื่องหิ้วกันดูนะ เพราะตอนนี้ Google Pixel ยังไม่มีแผนทำตลาดในไทยเหมือนเช่นเคย
ที่มา: Android Authority, The Verge
สิงคโปร์จะมีขายไม๊ครับ
ตอนนี้หน้า Store ของฝั่งสิงคโปร์ยังไม่ขึ้นข้อมูลการวางจำหน่ายเลยครับ แต่ประเทศใกล้ ๆ เราที่ยืนยันว่าจะขายคือญึ่ปุ่น ยังไงรอติดตามข้อมูลอีกทีนะครับ