ชิป Google Tensor ที่ใช้ในมือถือ Pixel เรียกได้ว่าตกเป็นเป้าโจมตีอยู่เป็นประจำทั้งในเรื่องประสิทธิภาพที่ยังไล่ตามหลาย ๆ คู่แข่ง รวมถึงปัญหาเรื่องการจัดการอุณหภูมิที่ทำให้ประสิทธิภาพร่วง แต่ไม่ใช่ว่า Google จะไม่พยายามปรับตัว เพราะใน Pixel 9 Pro และ Pixel 9 Pro XL ก็ได้ใส่ระบบระบายความร้อน Vapor Chamber มาให้เป็นครั้งแรก และที่ผ่านมาเองก็มักจะได้ยินข่าวว่า Tensor G4 แก้ไขปัญหาที่เคยมีมาในรุ่นก่อนทั้งหมดได้แล้ว แต่ผลทดสอบชิปกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย

ผู้ใช้งาน X นาม @callmeshazzam ได้ออกมาโขว์ผลทดสอบ CPU Throttling Test แบบ Stress Test ของชิปเซตประมวลผล Google Tensor G4 ที่ใช้ใน Pixel 9 Pro XL รุ่นท็อปสุดของซีรีส์ ซึ่งเป็นการทดสอบรีดประสิทธิภาพสูงสุดของตัวชิป เพื่อดูความสเถียรของประสิทธิภาพ หลังอุณหภูมิของตัวชิปสูงขึ้น

ซึ่งเมื่อดูจากผลทดสอบแล้ว ดูเหมือนว่าจะยังไม่เป็นที่น่าพอใจมากนัก เพราะภายในระยะเวลาหลังทดสอบเพียงแค่ราว ๆ 2 นาทีนิด ๆ ตัวชิปเจอกับปัญหาประสิทธิภาพร่วงไปกว่า 50% ทั้งในคอร์ประสิทธิภาพ และคอร์ประหยัดพลังงานดังนี้

  • คอร์ประสิทธิภาพจากความเร็ว 3.10GHz ลดลงเหลือเพียง 1.32GHz
  • คอร์ประหยัดพลังงานจากความเร็ว 1.92GHz ลดลงเหลือเพียง 0.57GHz

หลังจากทดสอบหลัง 3 – 15 นาทีขึ้นไปประสิทธิภาพก็สามารถประคองตัวได้ที่ในระดับ 65% ขึ้นไป ซึ่งผลทดสอบตรงนี้ ทำให้ Google ตกเป็นที่วิจารณ์ว่าตัวชิปจะแรงน้อยกว่าชิปเรือธงจากคู่แข่งค่ายอื่น ๆ แล้ว กลับยังเจอปัญหาเรื่องประสิทธิภาพตกอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีการใส่ระบบระบายความร้อน Vapor Chamber มาช่วยเป็นครั้งแรกก็ตาม

อย่างไรก็ตามผลทดสอบครั้งนี้ยังมีตัวแปรหลากหลายอย่างไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพการใช้งานจริง เพราะการทดสอบแบบ Stress Test เองเป็นการรีดประสิทธิภาพของชิปอย่างหนักเพื่อให้แตะขีดจำสูงสุดของตัวชิป ซึ่งการใช้งานจริงนั้นมีโอกาสน้อยมาก ๆ ที่ตัวชิปเซ็ตจะแตะถึงจุดนี้ แถมยังมีเรื่องของอุณหภูมิพื้นที่ในระหว่างทดสอบที่ทำให้ผลลัพธ์เปลี่ยนแปลงไปได้

แต่ตัวผลทดสอบก็พอจะบอกได้ว่า Google ยังคงต้องกลับไปปรับปรุง Optimized การจัดการอุณหภูมิของ Tensor G4 ให้สเถียรกว่านี้ เพราะอย่าลืมว่ารุ่นเล็กสุดอย่าง Pixel 9 เป็นรุ่นที่ไม่ได้ใส่ Vapor Chamber มาด้วย ดังนั้นการภาพรวมใช้งานก็อาจมีสิทธิ์ที่จะด้อยกว่าสองรุ่นใหญ่พอสมควรเลย

ที่มา: wccftech | @callmeshazzam (X/Twitter)