จากกรณี “คุกกี้รันกับบิลค่าบริการหฤโหด” ในประเทศไทยเมื่อเร็วๆนี้ ที่มีเด็กกดซื้อไอเทมในเกมส์โดยผู้ปกครองไม่รู้ตัว มารู้ตัวอีกทีตอนได้บิลเก็บค่าบริการจากค่ายมือถือ ปัญหานี้นั้นลามไปทั่วโลกครับ ไม่ได้มีเฉพาะในประเทศไทย ในส่วนของประเทศในทวีปยุโรปก็โดนกันเยอะ จน EU ต้องเข้ามาล้วงลูกและออกเป็นกฎหมายชัดเจนเพื่อป้องกันปัญหานี้ โดยล่าสุด EU ได้สั่งให้ทั้ง Google และ Apple เปลี่ยนวิธีการขายเกมส์ที่มี in-app purchases ใน Store ของตัวเอง โดยต้องไม่เรียกเกมส์แบบนี้ว่า “ฟรี”, ห้ามเชิญชวนให้เด็กซื้อไอเทมเกมส์, มีการแจ้งเตือนการจ่ายเงินชัดเจนทุกครั้ง และ บังคับให้ผู้ผลิตเกมส์แจ้งข้อมูลติดต่อกรณีมีปัญหาไว้ด้วย

Google ตอบรับคำสั่งนี้เป็นอย่างดี โดยจะเริ่มดำเนินการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างใน Play Store ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป เช่น จะยกเลิกคำว่า “ฟรี” สำหรับเกมส์ที่มี in-app purchases, มีคำเตือนสำหรับเกมส์เพื่อป้องกันการเชิญชวนให้เด็กซื้อไอเทมในเกมส์ และ จะมีการเพิ่มความสามารถบางอย่างเข้าไปใน Play Store เพื่อจะใช้เป็นตัวชี้วัดว่ามีการละเมิดของกำหนดของ EU หรือไม่

ทางฟาก Apple นั้น EU บอกว่าผิดหวังที่ไม่มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมให้เป็นไปตามข้อกำหนดที่ออกมา แต่ Apple ก็ยืนยันว่า สิ่งที่ Apple ทำอยู่ตอนนี้ใน App Store ทั้ง Parental Control, Kids Section, Ask to Buy ใน iOS8 และการแสดงข้อความว่าบอกว่าเกมส์นั้นมี “in-app purchases” ก็เพียงพออยู่แล้ว

โดยส่วนตัวที่อ่านข่าวนี้ตอนแรกก็สงสัยว่า Google Play Store นั้นก็มีการแสดงว่าเกมส์มี “in-app purchases” อยู่แล้วในหน้าที่จะติดตั้งเกมส์นั้นๆ และไม่มีการแสดงคำว่า “ฟรี” แต่พอลองกดค้นหาแอพใน Play Store ก็ถึงบางอ้อว่า ผลการค้นหาแอพเกมส์นั้นขึ้นคำว่า “ฟรี” ชัดเจน หรือแม้แต้ส่วนเกมส์แนะนำของ Play Store ก็ขึ้นว่าฟรีเช่นกัน แถมยังกดติดตั้งเกมส์จากหน้านี้ได้เลยโดยไม่ต้องเข้าไปดูข้อมูลเกมส์นั้นๆ

 

ในส่วนของ Apple App Store นั้นถึงจะแสดงปุ่มติดตั้งเป็นคำว่า “FREE” แต่ก็มีข้อความลางๆกำกับใต้ชื่อเกมส์ว่า “Offers In-App Purchases” ถ้าเป็นคนที่สังเกตหน่อยก็จะเห็นและเข้าใจได้ชัดเจน แต่ถ้าใครที่ไม่ตั้งใจดูก็อาจจะมองข้ามได้เหมือนกัน 

 

ที่มา: EU ผ่าน Engadget