Green Power FREE battery saver ช่วยประหยัด / ใช้งานแบตฯ อย่างคุ้มค่า
หลังจากใช้งาน app ตัวนี้ มาระยะเวลาหนึ่ง ทำให้รู้สึกว่า app มันเล็ก และง่ายต่อการใช้งาน หากคุณเป็นคนที่เริ่มต้นใช้งาน และอยากหา app ที่ช่วยประหยัดแบตฯ หรือทำให้เครื่องของคุณใช้งานได้นานขึ้น ก็อยากจะแนะนำ app นี้อีกตัว ถัดจาก JuiceDefender
==
(ประสบการณ์) หลังจากใช้งาน JuiceDefender มาได้ระยะเวลานานพอดูครับ ก็เลยเจออีกตัว ที่ชื่อ Green Power นี้ … ก็เลยอยากลอง ซึ่งในตอนแรก ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะดันติดตั้ง 2 apps ในเครื่อง ทำให้ งงว่า
– “ทำไมหน้าจอดับ แล้ว WiFi มันปิด?”
– “เมื่อกดปุ่ม Power หน้าจอกลับมา แล้ว WiFi มันเชื่อมต่อเลย?”
อาการงง ที่ว่า มันเกิดขึ้น โดยแค่การติดตั้ง แต่ยังไม่ได้ไปปรับลูกเล่นอะไรมากครับ ซึ่งภายหลังก็ตัดสินใจถอน JuiceDefender ออก เพื่อการทำคู่มือการใช้ Green Power ตัวนี้
หมายเหตุ : แนะนำว่า … ให้ถอน JuiceDefender ออกครับ และติดตั้ง Green Power เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนของระบบและการทำงานของ app ทั้ง 2 ตัว
==
หากคุณเป็นคนที่ไม่อยากปวดหัวกับ JuiceDefender และ BatteryFU ให้ลองมาใช้ Green Power ซึ่งเหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไป และมีการทำงานโดยอัติโนมัติ (หลังจากการปรับค่าต่างๆ เรียบร้อย) การจัดการเรื่องของ WiFi และ Mobile data อย่างชาญฉลาด : ปิดเมื่อคุณไม่ต้องการ และเปิดเมื่อจำเป็น หรือเมื่อมีการใช้ apps (เช่น การเปิดดูเมล) ค่อนข้างคล้าย JuiceDefender และ BatteryFU แต่ง่ายกว่า และเร็วกว่า!
คุณสมบัติ มีดังต่อไปนี้ :
– สนับสนุนการใช้งานในมือถือทั่วไป (รวม CDMA) และผู้ให้บริการต่างๆ
– จัดการปิด wireless (WiFi และ/หรือ mobile data) เพื่อประหยัดพลังงาน
– ปรับตั้งค่าและช่วงเวลาได้อย่างเต็มที่
– ปรับ Wireless ให้ ON (เปิด) เพื่อปรับปรุงข้อมูลแบบ push (เช่น เมล การพยากรณ์สภาพอากาศ…)
– ปรับ Wireless ให้ ON (เปิด) เมื่อหน้าจอเปิด หรือถูกปลดล๊อค
– ปรับ Wireless ให้ ON (เปิด) เมื่อมีการชาร์ต (แบบเปิดเครื่องไว้)
– ตรวจเช็คการรับ-ส่งข้อมูลก่อนการปิดการเชื่อมต่อ เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับ apps อื่นๆ
– เป็น app ขนาดเล็กมาก
– มีหน้าจอในการแสดงรายละเอียดที่ง่าย
การติดตั้ง App
1. ให้คลิกที่ ‘Market‘
2. กดที่รูปแว่นขยาย เพื่อค้นหา
3. พิมพ์ ‘Green Power‘ ลงไป แล้วกด ‘enter’ หรือ ‘Go’
4. จะพบตัวโปรแกรมที่ค้นมามาให้ แล้วเลือก app ‘Green Power FREE battery saver‘
การเปิดใช้ App
เมื่อเปิด app ขึ้นมาใช้งาน จะพบว่า มีรายละเอียดที่ app แสดงดังนี้
Status
… รายละเอียดที่ app แสดง … (ขึ้นอยู่กับการปรับใช้งาน)
Notifications
… รายละเอียดที่ app แสดง … (ขึ้นอยู่กับการปรับใช้งาน)
Settings
… รายละเอียดที่ app แสดง … (ขึ้นอยู่กับการปรับใช้งาน)
Day mode
… รายละเอียดที่ app แสดง … (ขึ้นอยู่กับการปรับใช้งาน)
Night mode
… หมายเหตุ : คุณสมบัตินี้ มีใน Premium version
การปรับแต่งค่า Setting ใน App : หากต้องการปรับแต่งค่า ให้กดที่ปุ่ม ‘menu’ แล้วเลือก ‘Settings’
1. Wifi settings
1.1 Manage Wifi : WiFi ควรจะถูกเปิด/ปิด (ON/OFF) ตามช่วงเวลาที่กำหนดไว้
1.2 Adavnced Wifi settings : สำหรับผู้ใช้ขั้นสูงเท่านั้น ส่วนผู้ใช้งานทั่วไป ค่าเริ่มต้นต่างๆ ถือว่าใช้งานได้ดีอยู่แล้ว
1.2.1 Enforce Wifi : ให้ Green Power จัดการเปิด/ปิด WiFi และป้องกันการเปิด/ปิด WiFi แบบ manual
1.2.2 Wifi timeout : ปิด WiFi ชั่วคราว หากไม่สามารถเชื่อมต่อในระยะเวลาที่กำหนด
1.2.3 Timeout duration : กำหนดช่วงเวลา ในการปิด WiFi เมื่อเชื่อมต่อไม่ได้
ตั้งแต่ 5s (วินาที) 10s (วินาที) 20s วินาที) และ 30s (วินาที)
1.2.4 Low signal check : ปิด WiFi ชั่วคราว หากช่วงเวลานั้น สัญญาณต่ำมาก
1.2.5 Wifi signal threshold : ปิด WiFi เมื่อสัญญาณ WiFi อยู่ในระดับต่ำ
ตั้งแต่ 20% 40% และ 60%
1.2.6 Override wifi sleep policy : เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจขึ้นกับระบบการทำงานระหว่าง App และ Setting ในระบบ Android เอง ควรให้ Green Power จัดการ
2. Mobile Network settings
2.1 Manage Mobile Network : Mobile Network (3G/EDGE/GPRS) ควรจะถูกเปิด/ปิด (ON/OFF) ตามช่วงเวลาที่กำหนดไว้
2.2 Global wireless settings : เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสมบัตินี้จะทำงานได้ ต้องเช็คว่า Mobile Network (ใน setting ของเครื่อง) นั้นได้ถูกเลือกใช้
3. Common wireless settings
3.1 Screen OFF wireless delay : ต้องการให้มีค่า delay เพื่อปิดการเชื่อมต่อ WiFi (เมื่อหน้าจอปิดลง)
ตั้งแต่ 5s (วินาที) 10s (วินาที) 20s (วินาที) 1min (นาที) 5min (นาที) และ 10min (นาที)
3.2 Check data traffic : ปิด WiFi เมื่อมีค่า data traffic ‘การจราจรของข้อมูล’ ต่ำ
3.3 Datat traffic threshold : กำหนดค่า data traffic เพื่อให้ Green Power ทำการปิด WiFi หากจำเป็น
ตั้งแต่ 100 Bytes/s 1 kB/s 10 kB/s และ 100 kB/s
3.4 Keep during phone call : ให้ WiFi On ระหว่างการใช้งานโทรศัพท์, หรือปิด WiFi
4. Day mode settings : ค่าต่างๆ ที่มีการปรับใช้งานในช่วงกลางวัน หรือทั้งวัน หากโหมดกลางคืนนั้นถูกปิด (ไม่ให้ใช้งาน)
4.1 Wireless ON duration : ระยะเวลาที่ให้ (WiFi และ/หรือ Mobile Network : 3G/EDGE/GPRS) เปิด ก่อนที่จะปิดอีกครั้ง
ตั้งแต่ 1 min (นาที) 2 min (นาที) 5 min (นาที) และ10 min (นาที)
4.2 Wireless OFF duration : ระยะเวลาที่ให้ (WiFi และ/หรือ Mobile Network : 3G/EDGE/GPRS) ปิด ก่อนที่จะเปิดอีกครั้ง
ตั้งแต่ 10 min (นาที) 15 min (นาที) 30 min (นาที) 1 h (ชั่วโมง) 2 h (ชั่วโมง) และ 4 h (ชั่วโมง)
4.3 Toggle if screen ON : ปรับให้ Wireless เปิด เมื่อหน้าจอเปิด
4.4 Toggle if screen unlocked : ปรับให้ Wireless เปิด เมื่อหน้าจอถูกปลดล๊อค (แทนหน้าจอเปิด)
4.5 Toggle if power ON : ปรับให้ Wireless เปิด เมื่ออุปกรณ์ต่อกับที่ชาร์ต
5. Night mode settings
5.1 Enable night mode : คุณสมบัตินี้ มีใน Premium version
5.2 Night mode settings : คุณสมบัตินี้ มีใน Premium version
6. Other settings
6.1 Startup at boot : ให้ Green Power เริ่มทำงานตั้งแต่ตอนบูตเครื่อง
6.2 Notifications settings : กำหนดให้แสดงตัวแจ้งเตือนต่างๆ
6.2.1 Notification : แสดงการแจ้งเตือนด้วย ใบไม้สีเขียว หรือสีส้ม ในแถบแจ้งเตือน
6.2.2 Wifi notification : แสดงการแจ้งเตือนด้วย ใบไม้สีส้ม หาก WiFi ไม่ได้ถูกจัดการ
6.2.3 Mobile Network notification :
แสดงการแจ้งเตือนด้วยใบไม้สีส้ม หาก Mobiel Network (3G/EDGE/GPRS) ไม่ได้ถูกจัดการ
6.2.4 Advanced Settings : การปรับแต่งค่าเพิ่มเติม
– Screen unlock warning : …
=====
Pics Ref Thanks : https://market.android.com/details?id=org.gpo.greenpower
Device ที่ใช้ในการ review : Samsung Galaxy Tab 7″
=====
1. การใช้งาน JuiceDefender : https://droidsans.com/node/16053
2. การใช้งาน Green Power FREE battery saver : https://droidsans.com/node/16451
3. การใช้งาน Autorun Manager : https://droidsans.com/node/16446
4. การใช้งาน Battery by Dr to save Battery : https://droidsans.com/node/21059
5. การใช้งาน Samba Filesharing : https://droidsans.com/node/21455
เป็นประโยชน์มากครับ จะลองไปใช้ดู
สุดๆ ต้องลองซะแล้ว ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆครับ
มีประโยชน์มากๆค่ะ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณครับ อธิบายละเอียดมาก ขอแนะนำอีกตัวคือ JuiceDefender ครับ
ตามดูที่นี่เลยครับ JuiceDefender : http://www.droidsans.com/node/16053
ขอบคุณครับบ ^ ^
*** รู้สึกว่า น่าจะมี mod มาทำการแก้ไข ปรับภาพในกระทู้ผมให้ใหญ่ขึ้น ***
ขอบคุณมากครับ!!! ยังไม่รู้ว่าใคร แต่… จะไปลองใช้ปรับอีก 2 กระทู้ครับ
เพราะ งง ว่า กระทู้นี้ มัน add วันที่ 24 ได้ไงหว่า … 555+
อยากทราบจุดเด่นจุดด้อยเทียบกับ JuiceDefender และ BatteryFU
เพื่อตัดสินใจในการเลือกใช้ แล้วจากการใช้งานพอทราบไหมว่าตัวไหนประหยัดแบ๊ทได้ผลกว่ากันครับ
ผมยังไม่ได้ลอง BatteryFU เลยครับ ว่าจะลองใกล้ๆ นี่ รอเวลาหน่อย
แต่ที่ผมลองใช้ก็มี JuiceDefender และ Green Power นี่แหละครับ
จากที่เคยใช้ … JuiceDefender จะมีลูกเล่นมากกว่า (สามารถปรับได้หลากหลาย) ซึ่งรวมถึงความฉลาดในการจดจำ location สัญญาณ (เหมือนว่ามันเรียนรู้พื้นที่ที่เคยใช้สัญญาณ wireless ในแห่งนั้นๆ) … แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีแบบเบ็ดเสร็จ หากเทียบกับตัว Gree Power นะครับ JuiceDefender ก็มีเช่นกัน คือ Default, Aggressive และ Extreme แต่ทั้งนี้ก็ต้องเรียนรู้ว่า ในแต่ละรูปแบบนั้น มันช่วยอะไรผู้ใช้งานได้บ้าง
ส่วน Green Power นี่ ออกแนวง่าย เบ็ดเสร็จ มีปรับแต่งไม่มากนัก แต่ก็เน้นเรื่องของการเปิด/ปิด Wireless ต่างๆ เหมือนใน JuiceDefender
แต่ทั้ง 2 apps ก็มาช่วยในเรื่องของการเปิด-ปิดสัญญาณ Wireless + Mobile data (3G, EDGE, GPRS) เนื่องจากเป็นส่วนที่จะใช้พลังงานของเครื่องอย่างมาก และก็เชื่อว่า ในส่วน app BatteryFU ก็น่าจะทำนองเดียวกัน
ส่วนจุดด้อยนั้น … ถ้ามองจาก app ก็อาจมีเทียบกันเรื่องของขนาดในการใช้งาน ซึ่งผมบอกในความเห็นส่วนตัวดีกว่า ว่า
JuiceDefender : มีการปรับแต่งมาก มันมีความหลากหลาย แต่หากผู้ใช้งานไม่ได้คำนึงในส่วนนี้ การทำงานของ app อาจส่งผลต่อความสะดวกในการใช้งาน (ผมเองก็มานั่งดูหน้าจอและทำวิธีการใช้ ซึ่งความจริง มันก็ควรจะมีวิธีการใช้งานคู่มาด้วยเลย เพราะมันลึกซึ้งมาก) แต่ถ้าใช้ด้วยความเข้าใจแล้ว การใช้ JuiceDefender ก็ถือว่าช่วยแบตฯ และการใช้งานเครื่องได้ดี … แต่ถ้าปรับไม่ดีนะครับ มันปิด Wireless ให้ตลอดเวลาได้เลย!!! ทำเอา งง ได้เลย ที่สำคัญ… มันมีการยอมให้ Whitelist (หรือ app ที่สำคัญๆ ที่ต้องใช้งานในการเชื่อมต่อนั้น สามารถเรียกขึ้นมาทำงานได้ แม้ว่าแบตฯ จะเหลือน้อยมากก็ตาม ซึ่งผู้ใช้งานสามารถกำหนดได้ ตามคุณสมบัติที่แจ้งใน app) เรียกว่า… ลึกซึ่งกว่ามาก (ยังมีคุณสมบัติอีกมากที่รออยู่)
Green Power : ออกแนว ใครๆ ก็ใช้ได้เลย แบบเริ่มต้น มีการปรับแต่งไม่เยอะมาก แต่เท่าที่ผมทำทั้ง 2 ตัว มันก็เหมือนจะคล้ายๆ กัน … แต่ถ้าปรับไม่ดีนะครับ มันเปิด Wireless ให้ตลอดเวลาได้เลย!!! แต่ใน Green Power จะมองการควบคุมพลังงานในภาพรวมของเครื่องมากกว่า ไม่มีการกำหนด Whitelist … เมื่อถึงจุดที่ตั้งไว้ ผู้ใช้อยากทำก็ปรับแบบ manul เอาเอง
ตอนนี้ ผมหันไปทาง Green Power มากกว่าครับ เพราะรูปแบบการใช้งานเครื่องของผมก็ไม่ได้จำเป็นต้องใช้คุณสมบัติมากมายที่มีในส่วนการปรับแต่งที่พิเศษของ JuiceDefender ที่มีความลึกซึ้ง และตอบสนองกับความต้องการมากกว่า…
แต่ทั้งนี้… อยากให้ลองทำความเข้าใจกับ 2 กระทู้ ทั้ง Green Power ซึ่งกระทู้ที่ผมทำนี้ มันได้แสดงให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนได้เห็นถึงคุณสมบัติต่างๆ ที่ apps นั้นทำได้ ดูว่า มันตอบสนองการใช้งานหรือไม่ เพื่อเป็นการตัดสินใจได้อย่างถูกต้องมากกว่าครับ!!!
ขอบคุณครับ ตอนนี้ผมใช้ JuiceDefender ที่แนะนำไว้คราวแล้วอยู่
โดยส่วนตัวเท่าทีอ่านดูมันก็ดีคนละอย่างจริง ๆ ชอบฟังก์ชั่น JD แต่ไม่ค่อยชอบหน้าตามันเอาซะเลย
ครับ ยินดี!!!
แรกๆ ผมใช้ JuiceDefender แบบเริ่มต้น 'Default / Balanced' ต่อมาอัพตัวเอง > 'Aggressive' แล้ว (มีเพื่อนในบอร์ด ไปถึง 'Extreme' กันแล้ว) ทั้ง 2 รูปแบบก็สามารถปรับแต่งได้อีกนะ
แต่…ถ้าใครใช้ Green Power นั้น …บอกได้คำเดียวว่า ยังไงก็อยู่แค่ 'Basic'
แซวน่า แซว…
เยี่ยมไปเลยค่ะ เด๋วต้องลองตัวนี้ละ
ขอบคุณที่ไปหาapp ดีๆมาให้ใช้ค่ะ
อยากรุ้คับว่า ถ้าปกติเราเปิดปิด wifi และ Mobile Network : 3G/EDGE/GPRS ""เฉพาะเวลาที่เราจะใช้งาน""อยุ่แล้ว ถ้าใช้ app จะแตกต่างกันขนาดไหนอะคับ…
ก่อนหน้านี้ ผมก็ใช้ JuiceDefender เพราะเพื่อนสมาชิกแนะนำ แต่ก็แค่ลงไว้อย่างนั้นและไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่…หลังจากไป up FW มาจากศูนย์ฯ ก็ต้องมานั่งลง app กันใหม่หลาย app ทำให้ลืม app ดังกล่าวไป จนกระทั่ง…พบว่าเครื่องที่ใช้อยู่มีอาการช้า หน่วงๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ อาจเป็นไปได้จากการลง app หลายตัว หรืออะไรก็เดาไป
ภายหลังนึกได้ ก็ติดตั้ง JuiceDefender ลงไป ผลที่เห็นได้ในทันทีเมื่อทำการ restart คือ เครื่องที่หน่วง กลับหายหน่วง (เวลาเปิดเครื่อง หรือ restart เครื่อง) ปัญหาที่พบก็หมดไป นั่นจึงเป็นเหตุผลที่นอกเหนือจากคุณสมบัติที่มีระบุไว้ และมันสามารถเปรียบเทียบได้ชัดเจนมาก (ถ้าจะลอง)
ส่วนที่ถามว่า : "ถ้าปกติเราเปิด-ปิด wifi และ Mobile Network : 3G/EDGE/GPRS ""เฉพาะเวลาที่เราจะใช้งาน""อยุ่แล้ว ถ้าใช้ app จะแตกต่างกันขนาดไหนอะคับ"
ผมขอตอบว่า : "K.netnakub ก็ทำได้ดี เหมือนกับ app ทั้ง 2 ตัวนั้นแล้วครับ ถือว่าเยี่ยมในเรื่องของการควบคุมและใช้งาน wireless ของเครื่อง" ซึ่งอาจไม่ต้องการคุณสมบัติของ app ทั้ง 2 หรือ 3 … ที่ว่ามาก็ได้ เหมือนที่ผมบอกไว้ใน ความเห็นที่ #9 ครับว่า
"ตอนนี้ ผมหันไปทาง Green Power มากกว่าครับ เพราะรูปแบบการใช้งานเครื่องของผมก็ไม่ได้จำเป็นต้องใช้คุณสมบัติมากมายที่มีในส่วนการปรับแต่งที่พิเศษของ JuiceDefender ที่มีความลึกซึ้ง และตอบสนองกับความต้องการมากกว่า…"
ปัญหาที่พอจะแนะนำคร่าวๆ ได้จากการใช้งานจริง (ก่อนต้องการ app เหล่านี้) คือ
> บ่อยครั้งที่หน้าจอดับลง ถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือของ app (ในกรณีเผลอ และลืมปิด wireless) แม้ว่าหน้าจอจะปิดลง แต่ยังคงมีการใช้งาน wireless อยู่
> แม้กระทั่งการเลิกใช้งาน wireless แต่…ลืมปิดสัญญาณที่เครื่องเช่นกัน อาจอยู่นอกพื้นที่สัญญาณจริง แต่ WiFi ที่เครื่องยังเปิดอยู่ และพยายามที่จะเชื่อมต่อ
> หากพบว่า เครื่องที่ใช้งานอยู่ เมื่อเปิดหรือ restart แล้ว ช้า หรือรู้สึกหน่วงๆ …
ด้วยผลของการช่วยให้เครื่องไม่หน่วง ไม่ช้า (จากปัญหาที่เจอ และการทดลองใช้งานจริง) ยังไงผมก็ขอเลือกติดตั้งตัวใดตัวหนึ่งไว้ในเครื่องอยู่ดีครับ
หมายเหตุ : เครื่องผมไม่ได้ทำ root หรือ lagfix ซึ่งเป็นเครื่องธรรมดา ใช้งานปกติทั่วไป ไม่มีการ modify อะไร ไม่ได้เน้นแต้ม-ตัวเลขของการทำงาน CPU
ผมใช้CM7 mod 2.3.3 เวลาปิดไปนานๆ แล้วเปิด จะต้องรอ 3-5 วินาที เพื่อจะรอต่อ wifi กลับคืนมา
แต่ยังไม่รอง gprs 🙂
@Pat007 : ที่บอกนี่ คือ แจ้ง feedback ของการใช้? …
(ไม่รู้ว่าจะเหมือนกันไหมนะ) ผมใช้กับ Galaxy Tab ครับ เวลาหน้าจอปิดลง WiFi ถูกตัด แต่เมื่อกด Power เปิดหน้าจอมา มันก็เชื่อมต่อ WiFi ทันที (คำว่าทันทีนี่) มันก็คงใช้เวลาต่อแหละครับ เพราะผมกด Power เสร็จ ก็ยังไม่ได้รีบใช้เลย กว่าจะหยิบมาถือ ก็ 5 วืนาทีได้ แต่ก็ถือว่า … ทันใช้
แต่การทำงานของ CM7 mod 2.3.3 นั้นผมไม่รู้ว่ามันคือของเครื่องรุ่นไหน
หมายเหตุ : ผมก็คิดว่า การเชื่อมต่อกับ WiFi ที่มีการกำหนด IP คงที่ อาจใช้เวลามากกว่านั้น (ยังไม่ได้ทดลองครับ)
ขอบคุณสำหรับ feedback ที่แนะนำมาครับ
ชัดเจนทุกรายละเอียดจิงๆ ได้ความรุ้เยอะเลย ขอบคุนมากคับ^^
ขอบคุณมากมายครับผม
ข้อมูลจุใจเลยคับพี่ ว่าแต่ถ้าผมลงแอพแล้วไม่ปรับแต่งอะไรเลยก้อใช้ได้ผลแบบนิดหน่อยใช่ไหมคับ ไม่รู้จะปรับอะไรดี แล้วผมต้อเอา advance task killer ออกไหมคับกลัวมันทำงานซ้ำซ้อนกัน
ผมเน้นไม่เชิง review app สั้นๆ น่ะครับ
เพราะคำนึงถึงผู้ใช้งานในทุกๆ ระดับฝีมือ : เริ่มต้น (ยังไม่เคยลอง app / ลอง app แล้ว) > …
ทั้งนี้ การทำของผม มักจะทำให้เห็นถึงทุกหน้าจอ ทุกฟังก์ชั่น ที่ผู้ใช้งานทุกคน (ทั้งที่ติดตั้ง และยังไม่ติดตั้ง app) สามารถมาเปิดดูได้
บางคนอาจบอกว่า "ไม่กล้าตัดสินใจลง!!!" (แล้วจะเห็นหน้าจอ หรือฟังก์ชั่นยังไง ต้องหายืม / ถามคนที่ใช้งานอยู่?)
บางคนที่ลงแล้ว "อาจยังไม่ได้เล่นไปในทุกๆ ฟังก์ชั่น" (ก็มาที่นี่แหละครับ ได้เห็นหมด ง่ายๆ ก่อนการตัดสินใจปรับแต่งอะไร)
ขอบคุณทุกๆ feedback ครับ …
ของผมใช้ได้กับเราเตอร์ที่บ้านปิดหน้าจอแล้วเปิดจอใหม่ wifi ต่อให้ปกติ // แต่มาลองกับที่ทำงาน พอปิดหน้าจอแล้วเปิดใหม่มันไม่ต่อ wifi ต้องไปเปิดเอง
เดี๋ยววันนี้ลอง จุ้ยดีเฟนเดอร์ดูครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ 😀
*เครื่องผม โมโต defy รอม 2.2.2
ใครลงแล้วลองเช็คให้หน่อยซิครับว่าเป็นเหมือนกันหรือเปล่า คือ
เมื่อวานผมลงโปรแกรมนี้ตามปกติ แต่ยังไม่ได้ไปเซ็ตอะไรเลย คือลงผ่านหน้าเวปแล้วลืม
เมื่อเช้าตื่นมา เปิดเครื่อง แล้วลืมว่าลงอะไรมา เลยลบทิ้ง งานเข้าเลย ใช้ Edge ไม่ได้เลย ทั้งรีเซ็ท ปิดเปิดเครื่อง ดึงแบต ฟิกเพอมิชชั่นใน รอมเมเนเจอร์
แต่สัญญานโทรศัพท์มีปกติ โทรเข้าโทรออกได้ เล่นได้ปกติทุกอย่าง โทรไปถาม operator สัญญานก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
นี่เจอสัญญาน wifi ฟรี นึกได้ เลยลองโหลด โปรแกรมนี้มาลงอีกรอบ ปรากฏว่า สัญญาน edge มาเลย
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผมไปลบโปรแกรมมันหรือเปล่า แบบว่ามันดูแลเรื่อง edge อยู่ พอไปลบแล้วเลยมีปัญหา
Nexus s 2.3.3 ครับ
@por311 : ถ้าแค่ติดตั้งอย่างเดียว มันไม่ได้มีผลอะไรครับ
ผมเองลอง
– ติดตั้ง
– เรียกใช้งาน (แบบเริ่มต้น ไม่มีการปรับอะไร)
– ใช้งาน WiFi
– ใช้งาน EDGE (ผมอาศัยไปเปิด-ปิด ที่ระบบ setting ของ android เองครับ)
การถอนออกไม่น่ามีผล!!! แต่ถ้าใครลองแล้วเป็นแบบเดียวกันก็แวะมาบอกครับ
ต้้้องลองครับ น่าใช้้มากๆ
ยัง งง กับ Wireless ON-OFF duration ทำไมต้องมีค่า delay ด้วยคับ เพื่ออะไรคับ
ที่ถามนั้น อยู่ในข้อ 4. ใช่ไหมครับ
ขออธิบายอย่างนี้ครับ ค่า 'Wireless' ที่มีให้ปรับใช้ใน Day mode นั้น ก็เพื่อให้ผู้ใช้งานได้มีข้อมูลที่ update ตลอดวัน ทั้ง mails หรือมีการเช็คข้อมูลใดๆ ในช่วงเวลาที่กำหนดไว้
Wireless ON : เพื่อให้ระบบเปิดและเชื่อมต่อ + update ข้อมูล ในระยะเวลาที่มีให้เลือก ตั้งแต่ 1 min (นาที) 2 min (นาที) 5 min (นาที) และ10 min (นาที)
Wireless OFF : เพื่อให้ระบบปิดและตัดการเชื่อมต่อ (หลังจากการ update ข้อมูล ในระยะเวลาที่มีให้เลือก ตั้งแต่ 10 min (นาที) 15 min (นาที) 30 min (นาที) 1 h (ชั่วโมง) 2 h (ชั่วโมง) และ 4 h (ชั่วโมง)
สำหรับส่วนตัวผม … คุณสมบัติดังกล่าวนี้ ผมไม่ได้ใช้งานครับ เพราะว่า ผมไม่ค่อยได้มีอะไรสำคัญๆ ที่ต้องให้ระบบเข้าเชื่อมต่อและเช็คข้อมูลใหม่ๆ ตลอดเวลา ดังนั้น หากจะลองใช้งานดู (ตามรูปแบบการใช้งานของผู้ใช้งาน) ก็ถือว่า น่าลอง เพราะ wireless ที่ว่านี้ ไม่ใช่แค่ EDGE แต่รวมถึง WiFi ด้วย
ผม restore รอมไปแล้วอ่ะ T_T ลองลงใหม่อย่างที่บอก ไม่ได้เซ็ทอะไรเพิ่มเติมเลย
แบบพอปิดจอแล้ว edge มันก็ปิด พอเปิดมันกลับไม่มา รอนานมากก จะลบก็ไม่กล้า เดี๊ยวโหลดมาลงไม่ได้ อยู่นอกบ้านไม่มีเนท
สุดท้ายจำได้ว่าเคยแบ็คอัพเครื่อไว้สองสามวันก่อน เลยรีสโตร์ดู ปายเป็ยปกติแล้วครับ : )
ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับ ไว้มีโอกาศ คงได้ลองใหม่
สำหรับการเปิด-ปิด EDGE นี้ ผมเองมั่นใจในแบบ manual คือ เปิด-ปิดเองในระบบ setting ของ android
แต่เชื่อมั่นว่า app นี้ น่าจะช่วยผมได้ในเรื่องของเปิด-ปิด WiFi ในการเชื่อมต่อมากกว่าครับ ดังนั้นถ้าผมจะแนะนำว่า การเปิด-ปิด EDGE/GPRS ไม่ควรให้ระบบดำเนินการแทน เพราะ
1. ป้องกันเนตรั่ว (หากใช้งานแบบ unlimited ก็หมดห่วงไป)
2. ความสบายใจ
ปัญหาที่เกิด น่าจะเกี่ยวข้องกับหัวข้อที่ 2.2
2.2 Global wireless settings : เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสมบัตินี้จะทำงานได้ ต้องเช็คว่า Mobile Network (ใน setting ของเครื่อง) นั้นได้ถูกเลือกใช้
ผู้ใช้งานสามารถปรับ เปิดการใช้งานในระบบ Android แล้ว App จะดำเนินการต่อเอง แต่สำหรับผม คือ ไม่เปิด ดังนั้น App ไม่สามารถเข้ามาคุมการเปิด-ปิด EDGE ของผมได้ครับ
จะใช้เป็นไหมเนี่ย
ลองติดตั้ง และเรียกใช้งานดู แบบยังไม่ต้องปรับอะไรก่อนก็ได้ครับ
ชินและค่อยทำ
แจ่มมากเลยครับ ประหยัดได้เยอะมั้ยครับ
น่าใช่จัง แล้วถ้าเป็น JuiceDefender – battery saver จะต่างกันไหม ช่วย review หน่อยครับ
ต่างกันครับ
ต่างกันตรงคุณสมบัติในการใช้งาน … ผม review แล้ว ที่นี่ครับ
http://www.droidsans.com/node/16053
อ่านดีๆ ทั้ง 2 กระทู้ (ผมมีตอบเพื่อนๆ สมาชิกไป ทำให้เข้าใจได้มากขึ้น)
ไม่แน่ใจว่าไปตั้งอะไรผิดหรือเปล่า แต่พอลงโปรแกรมก็ไม่ได้ไปเช็ตค่าอะไรเพิ่มเติม
ตอนนี้ EDGE หายค่ะ
แนะนำให้เข้าไปที่ app แล้วปิดการทำงาน… ลอง uninstall ออกก่อนครับ
ถ้าไม่ดีก็ลงใหม่ทับอีกครั้ง (หากยังใช้ไม่ได้)
อยากทราบว่า ถ้าเปิดใช้งานแล้ว เราต้องเปิดเน็ตทั้ง edge และ wifi ไว้เลยไหมคะ เพราะสังเกตว่าถ้าไม่เปิดทั้งหมด ใบไม้ก็จะไมเป็นสีเขียว
แต่ก็พะวงว่าถ้าเปิด edgeไว้แล้ว เน็ตก็จะรั่วไปด้วย ถึงแม้เครื่องจะเลือก wifi พอดีใช้เน็ตแบบ package ถ้ามี wifi ก็จะเลืกwifi เพื่อประหยัด
ก็เลยยังเปิดปิดระบบเอยู่ถึงแม้จะโหลดแอฟมา แต่ถ้ามันช่วยได้จะได้เปิดไว้ตลอดเลยคะ กูรูช่วยบอกด้วย จักเป็นพระคุณคะ
ที่ผมใช้งานนะครับ
สำหรับ WiFi จะเปิดตลอดเลยได้ เพราะ app มันจะคำนวนการเปิดและปิดให้ ตามที่เราเซต ตามช่วงเวลา หรือเวลาหน้าจอเราปิดพัก
แต่สำหรับ EDGE ผมแนะนำให้เปิด-ปิดแบบ manual (และไป set ใน app ไม่ให้มันมาจัดการให้) … หากเราใช้งาน EDGE แบบโปรฯ ที่จำกัด … อย่าให้ app ทำงานแทนเลยครับ หากรั่วขึ้นมา จะรับไม่ไหว
ขอบคุณค่ะ ในmargetมีแบบเสียตังค์แล้ว ต่างจากแบบฟรีัยังไงคะ เผื่อจะจัดการได้ดีขึ้น
… ฟรีมีอยู่ ไม่ใช่เหรอ!!!
มันก็จะมีฟังก์ชั่น… ที่ผมอธิบายไปน่ะครับ ว่าใช้สำหรับเสียเงิน…
แต่… ใช้ฟรีไปก่อนเถอะครับ …
ช่วยทีค่ะ ไม่ได้ ตั้งอะไรเลย พอ wifi ปิด EDGE มันทำงาน เองอ่า ไม่อยากเสียตัง ค่า EDGE ตั้งยังไงอ่า