เปิดตัว Huawei Nova Series มาเพิ่ทเติมกันอีก 2 รุ่นนะครับ หลังจากที่เมื่อต้นปีได้ปล่อยตัว Nova 3e ออกมาก่อน แต่หลายคนก็ขัดใจกับสเปคและหลายๆอย่างในนั้นว่าทำไมมันดูไม่เร้าใจสมกับเป็นสมาร์ทโฟนเปิดตัวใหม่เท่าไหร่เลย เมื่อ Nova 3 และ 3i ออกมาก็น่าจะทำให้ถึงบางอ้อกันว่าของจริงมันเพิ่งจะมา วันนี้เดี๋ยวเราจะพาไปจับของจริงกันว่ามันดีงามขนาดไหน

สำหรับคนที่ยังงงๆอยู่ถึงความแตกต่างของ Nova 3 Series แต่ละตัวแตกต่างกันยังไงบ้าง เราได้ทำสรุปเอาไว้ให้แล้วนะครับ รวมถึงเปรียบเทียบเจ้า Nova 3 ที่ใช้ Kirin 970 กับตัวอื่นไปที่ใช้ CPU ตัวเดียวกันว่าแตกต่างกันยังไงบ้าง กดอ่านกันได้เลย

สเปคคร่าวๆของ Nova 3 และ 3i กันอีกครั้ง เน้นชัดๆว่าต่างกันยังไงบ้าง

สเปค / รุ่นNova 3Nova 3i
หน้าจอ6.5 นิ้ว FHD+ (2340×1080), 19.5 : 9 , 85% NTSCC colour gamut
CPUKirin 970Kirin 710
GPUMali-G72 MP12Mali-G51
RAM6GB4GB
ความจุ128GB+microSD
กล้องหลัง16MP (f/1.8) + 24MP (f/1.8) with AI16MP (f/2.2) + 2MP with AI
กล้องหน้า24MP + 2MP with AI + Infrared24MP + 2MP with AI
แบตเตอรี่3750 mAh
TypeC ชาร์จเร็ว
3340 mAh
microUSB ไม่มีชาร์จเร็ว
ระบบปฏิบัติการAndroid 8.1 ครอบด้วย EMUI 8.2Android 8.1 ครอบด้วย EMUI 8.2

ดีไซน์ถอดแบบ P20 แต่ nova 3 และ nova 3i มีความต่างกันนิดหน่อย

สำหรับ Huawei nova 3 และ 3i นี้ต้องบอกว่าได้ DNA มาจากรุ่นพี่ P20 พอสมควรเลยทีเดียว โดยด้านหลังถ้าดูแบบผ่านๆอาจจะคิดว่าเป็นตัวพี่ได้ แต่จุดที่ทำให้แยกออกชัดเจนจะอยู่ที่การย้ายเอาตัวแสกนลายนิ้วมือมาไว้ด้านหลังแทนแล้วนั่นเอง ทำให้พื้นที่ขอบจอด้านหน้าเต็มตา สวยงามขึ้นได้อีก แต่ก็แลกมากับการที่ไม่สามารถปลดล็อคหน้าจอด้วยนิ้วมือเมื่อวางราบเอาไว้กับพื้นโต๊ะนะ ส่วนด้านหน้าก็จะมีแถบติ่งที่กว้างกว่า P20 พอสมควรเลย

ฝาหลังใช้วัสดุเหมือนกัน สะท้อนทุกสิ่งสิ้นบนโลกนี้ มีการไล่เฉดสีที่สวยงามคล้ายกัน แต่บน nova 3 จะเลือกเฉดที่เข้มขึ้นมาหน่อยและสลับสีม่วงไปอยู่ล่างน้ำเงินไปอยู่บนแทน

แม้ว่า nova 3 และ nova 3i จะเกิดมาพร้อมกัน แต่ว่าหน้าตาก็ไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว โดยตัว nova 3 ที่เป็นรุ่นท็อปนั้น จะใส่ลูกเล่นความโค้งมนของฝาหลังเครื่องเข้าไปอีกหน่อย ทำให้มีความสวยงาม และจับสัมผัสที่ดีขึ้นเล็กน้อยครับ

ความโค้งมนที่ขอบหลังเครื่องทำให้ดูสวยขึ้นเยอะจริงๆ ส่วนคำว่า DUAL LENS และ AI CAMERA ก็ทำให้ดูพรีเมียมแตกต่างกันพอสมควร ทั้งที่จริงๆแล้วกล้องมันก็ใช้ AI ด้วยกันทั้งคู่ แต่คุณภาพเลนส์ต่างกัน

เห็นไล่สีได้สวยแบบนี้นี่ต้องใช้การเคลือบสารระดับนาโนเลยนะ และด้านข้างที่เห็นรอยต่อเล็กๆแบบนี้ได้นี่ ต้องมีเทคนิคพิเศษในการวางต่อกัน เพื่อให้กระจกกระทบกับโลหะ(ขอบเครื่อง) แล้วไม่แตกนะ

รองรับ 2 ซิมแบบ Hybrid Slots นะครับ ต้องเลือกว่าจะใส่ microSD หรือ SIM 2 เอา แต่ถ้าใช้ 2 ซิม แล้วตัวนี้รองรับ Dual VoLTE นะครับ รอสายบนเครือข่าย 4G ได้เลย

หน้าจอใหญ่ขึ้นจากเดิม และเต็มขอบมากขึ้น

หน้าจอ nova 3  และ nova 3i จะมีขนาดที่ 6.3 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+(2340×1080) ใช้เป็นจอ TFT LCD สัดส่วน 19.5:9 ซึ่งจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าเมื่อตอน nova 2i ที่ราว 6% และมีสัดส่วนหน้าจอต่อขนาดเครื่องขึ้นไปถึง 81% จากที่เดิมใน nova 2i ทำได้ราว 76% เท่านั้น ส่วนนึงก็มาจากขอบบนล่างที่บางเพียง 2.3mm และ 5.65mm ตามลำดับ

ขอบล่างมีความบางลงไปอีกหลังจากย้ายเอาปุ่มปลดล็อคหน้าจอไปไว้ด้านหลังแทน แต่จะยังไม่ได้บางมากจนถึงกับสมมาตรไปทุกด้านนะ

สามารถเลือกตั้งค่าปิด notch ได้เหมือนเดิม

เพิ่มการปลดล็อคด้วยใบหน้า ปลอดภัยกว่าบน nova 3

นอกเหนือจากแสกนลายนิ้วมือแล้วทางหัวเว่ยได้นำเอา Face Unlock มาใช้ใน nova 3 และ 3i ด้วย บอกว่าสามารถทำงานได้ในทุกสภาพแสง ห้องมืดๆก็ยังทำงานได้ แต่ว่าเฉพาะในตัว nova 3 จะพิเศษกว่าเพราะใช้เทคโนโลยียิง Infrared ขึ้นไปบนหน้าเราเพื่อตรวจจับเป็นจำนวน 15,000 จุด เพื่อความแม่นยำและปลอดภัยกว่า ไม่สามารถใช้รูปมาแอบเนียนปลดล็อคได้ ซึ่งเป็นแบบเดียวกับของที่ใช้ใน iPhone X นั่นเอง และแน่นอนว่าฟีเจอร์ต่างๆที่มาจากการตรวจจับใบหน้าได้นั้นก็ตามมาทั้งหมดด้วย เช่น Qmoji (หรือ Animoji) และ Studio Light ใน Portrait Mode

Play video

มี Qmoji ทำงานร่วมกับ Infrared ตรวจจับใบหน้า บันทึกเป็น GIF แล้วแชร์ผ่าน LINE – fb messenger ได้เลย

กล้องคู่หน้าหลัง ใส่ AI มาให้ทั้งคู่

nova 3 และ nova 3i มีกล้องหน้า 24 ล้าน + 2 ล้านสำหรับวัดความลึกทั้งคู่

nova 3 ไม่ใช่ตัวแรกที่ทำกล้องหน้าคู่หลังคู่ออกมา แต่ว่าจะเป็นตัวแรกที่ใส่ AI เข้าไปให้ทั้งกล้องหน้าและหลังเลย ซึ่งความสามารถด้าน AI ในการถ่ายภาพ รุ่นพี่อย่าง P20 / P20 Pro ได้สร้างความประทับใจมาให้คนแล้วนักต่อนัก และบน nova 3 ก็มีฟีเจอร์ใหม่ๆที่จะทำให้ต้องว้าวอีกครับ

AI + HDR Pro ถ่ายภาพย้อนแสงอย่างเทพ

น่าเสียดายที่ตอนลองจับไม่สามารถเอาภาพออกมาให้ดูได้ แต่โดยรวมคือดึงแสงของหน้าคนและฉากหลังมาได้โอเคกว่ากล้องมือถือทั่วไปพอสมควร และโหมดนี้รองรับการถ่ายวิดีโอด้วย และที่สำคัญคือการถ่าย HDR นี้จะไม่ได้ใช้วิธี Software ในการถ่าย HDR รวมภาพ 3 เป็น 1 อีกต่อไป แต่เป็นการใช้ระดับ sensor ในการทำ โดยใช้เซนเซอร์ของ Sony IMX576 ในการถ่ายเลย ดังนั้นการถ่ายภาพทีนึงจะสามารถจับภาพได้ทีเดียว 3 สภาพเสียงและสามารถรวมเป็น HDR ได้เลย ซึ่งภาพ HDR ที่ได้นี้จะมีความใกล้เคียงกับตาเราเห็นมากขึ้นอีกครับ

เซลฟี่แล้ว AI แยกหน้าคนกับฉากหลัง เบลอได้แม่นยำกว่าเดิม

AI Selfie Scenery Recognition ปกติการปรับแต่งภาพจากฉากที่ถ่ายจะมีแค่ในกล้องหลัง แต่ว่าใน nova 3 / nova 3i จะมีเพิ่มเข้ามาให้ในกล้องหน้าด้วย ซึ่งสามารถตรวจจับได้ 8 แบบของการถ่ายภาพบุคคลที่มีพื้นหลังที่แตกต่างกันออกไป มี algorithm ที่สามารถจำแนกได้ว่าส่วนไหนของภาพที่เป็นพื้นหลังและส่วนไหนที่เป็นตัวบุคคล และปรับแต่งให้เฉพาะส่วน

Beauty Mode ปรับแต่งหน้าเนียน ตามโซนประเทศ

ความชอบของคนแต่ละเขตประเทศ รวมถึงสีผิวชาติพันธุ์ มีความแตกต่างกันออกไป เราไม่สามารถเอาโหมดบิวตี้ของคนเอเชียทั้งหมดไปให้คนยุโรปได้ หรือแม้แต่คนเอเชียด้วยกันเอง เราจะเอาโหมดบิวตี้สำหรับคนผิวขาวอยู่แล้วไปใช้งานกับคนผิวสีแทนด้วยก็อาจจะไม่เหมาะเช่นเดียวกัน ทำให้ใน nova 3/3i นี้เค้าใส่ AI ที่สามารถจำแนกความแตกต่างเรื่องนี้ได้ โดยในตัว Beauty Mode จะมีการปรับปรุง algorithm ใหม่ ปรับแต่งหน้าตาให้เหมาะสมตามแต่ละคนไปเลยทีเดียวครับ

สามารถตั้งค่าปรับแต่งด้วยตัวเองก็ได้นะ

นอกจากนี้ก็มีเรื่องการถ่ายภาพกลางคืนที่ทำได้ดีขึ้น ด้วยการรวมพิกเซลจาก 4 เป็น 1 รวมถึงกล้องหลังที่รับเอา AI มาจากรุ่นพี่  โดยสามารถจับภาพแบ่งได้เป็น 22 หมวด 500 ทิวทัศน์ ผ่านการเรียนรู้ภาพต่างๆมากว่า 100 ล้านรูป ภาพหน้าชัดหลังเบลอก็มี AI ทำให้ประมวลผลได้ดีขึ้น มีเส้นแนะนำการจัดองค์ประกอบภาพ คนถ่ายรูปไม่เป็นก็จัดตำแหน่งภาพออกมาได้ดี และภาพ Slow motion ก็ถ่ายได้นะ แต่จำกัดไว้แค่ 480 frames และชั่วระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น

เรื่องกล้องต้องบอกว่าเรายังไม่มีโอกาสได้ทดสอบมาก ยังไงไว้ได้เครื่องทดสอบมาแล้วจะเอามาลองที่เค้าบอกไว้ทั้งหมดให้ได้ทราบอีกทีนะครับ

Kirin 710 ใน nova 3i แรงระดับ Snapdragon 660

ชิปเซตของ nova 3 และ nova 3i มีความแตกต่างกันพอสมควรโดย Kirin 970 ใน nova 3 นี้เทียบเท่ากับ Snapdragon 845 เหล่าตัวเรือธงเจ้าอื่นๆที่ขายกันอยู่ในปัจจุบัน ส่วน nova 3i นี้เลือกใช้เป็น Kirin 710 เป็นตัวแรก ซึ่งถ้าเทียบแล้วเห็นว่าสูสีกับ Snapdragon 660 ซึ่งจัดว่าแรงไม่น้อย และบางรุ่นก็เอาชิปตัวนี้ไปขายในรุ่นราคาราวสองหมื่นเลยทีเดียว และ Kirin 710 นี้ก็มีฟีเจอร์การประมวลผล AI มาให้เหมือนกันกับ Kirin 970 นั่นแหละ แต่ว่าอาจจะไม่เก่งไม่แรงเท่า ซึ่งบน Snapdragon 660 บางตัวที่วางจำหน่ายไม่มี NPU หรือตัวประมวลผล AI มาให้ ต้องใช้ CPU GPU และ DSP ในการประมูลผลแทน ทำให้ Kirin 710 ได้เปรียบที่ตรงนี้

เล่นเกมรอ GPU Turbo เพิ่มประสบการณ์เล่นด้วย AI Game Suite

ปัญหาของการใช้งานเครื่อง Huawei หลายๆตัวคือเอาไปเล่นเกมแล้วได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก ทั้งเจอเด้ง กราฟิกไม่เนียน และทางหัวเว่ยก็ทราบถึงปัญหานี้ดี ก็มีความพยายามแก้ปัญหาด้วยการทำ GPU Turbo ขึ้นมาซึ่งรายละเอียดเราได้เคยเสนอไปหลายครั้งละ สามารถไปกดอ่านกันเพิ่มเติมได้เลย และทั้งสองรุ่นนี้ก็จะได้รับการอัพเดทใช้งาน GPU Turbo ด้วยทั้งคู่แน่นอนครับ (ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ GPU Turbo)

ส่วน AI Game Suite นี้จะใช้ AI มาช่วยจดจำเกมที่เล่นได้ และมีการจัดลำดับความสำคัญในการประมวลผล เมื่อไหร่ที่มีสายเรียกเข้าก็จะมีการปรับการแสดงผลให้ขึ้นเป็น Floating Bar เท่านั้นอะไรประมาณนี้

nova 3 แบตใหญ่กว่าและรองรับ fastcharge

มาดูหัวปลั๊กกัน จะเห็นได้ว่าขนาดของหัวชาร์จทั้งสองรุ่นต่างกันพอสมควร เนื่องจาก nova 3 นั้นรองรับการชาร์จเร็วแบบ Fast Charge (9V2A) ทำให้ต้องมีวงจรในการป้องกันมากกว่าของ nova 3i ที่เป็นการชาร์จแบบปกติที่ 5V2A เท่านั้น อย่างไรก็ดี ด้วยความที่แบตของ nova 3(3750mAh) ใหญ่กว่า nova 3i (3340 mAh) ราวๆ 10% ทำให้ระยะเวลาในการชาร์จของ nova 3i จะไม่ได้ช้ากว่า nova 3 มากนัก พอดียังไม่มีเวลาทดสอบชาร์จนะครับ แต่ถ้าให้เดาก็น่าจะต่างกันราวๆ 30-45 นาที ส่วนตัวที่มาขายไทยหัวชาร์จน่าจะไม่ใช่ตามภาพนะครับ น่าจะมีการปรับเปลี่ยนให้สามารถใช้งานในไทยได้ แต่ขนาดจะไม่เล็กลงเท่าไหร่ครับ

Huawei nova 3 เลือกใช้เป็น Type C ที่ใหม่กว่า และอนาคตจะมีอุปกรณ์ที่รองรับเยอะขึ้นเรื่อยๆ

อย่างไรก็ดี ระบบชาร์จไวแบบ Fast Charge นี้จะเป็นคนละตัวกับ Super Charge บน Huawei P20 / P20 Pro นะครับ อันนั้นจะทำความเร็วได้มากกว่านิดนึง โดยตัว Fast Charge ให้กำลังไฟที่ 18W (9V2A) ส่วน Super Charge จะจ่ายไฟที่ 22W (5V4.5A) ครับ

ของที่มีมาให้ในกล่องก็ตามมาตรฐานเลยครับ หัวชาร์จ สายUSP หูฟัง เข็ม เคส

สรุปความแตกต่าง nova 3 เหนือกว่า nova 3i ยังไงบ้าง

  • ด้านหลังเครื่องปรับไปใช้เป็น 3D Glass มีความมนด้านหลัง ระยะราวๆ 2.5mm ทำให้จับแล้วรู้สึกดีคล้ายกับมือถือ flagship
  • ได้กล้อง Dual Rear Camera ที่ดีขึ้น
  • ซีพียู Kirin 970 ที่แรงขึ้น ประมวลผลด้าน AI ได้ดีกว่าเดิม
  • มี Infrared light สามารถปลดล็อคได้ทุกสภาพแสง ใช้งาน Qmoji ได้สมบูรณ์
  • แบตใหญ่กว่า เพิ่มขึ้นเป็น 3750mAh รองรับ Fast Charge
  • 6GB RAM

และคาดว่าน่าจะมีคนสงสัยไม่น้อยว่าแล้วแบบนี้ nova 3 กับ P20 มันต่างกันอย่างไร ในเมื่อไส้ในแทบทั้งหมดจะเหมือนกันอยู่แล้ว ซึ่งตอนที่ได้ลองจับตัวนี้มาสิ่งนึงที่พอจะสรุปได้คือ “Leica” คำนี้แหละที่เป็นตัวสร้างความแตกต่าง ซึ่งสองตัวนี้จะถ่ายภาพออกมาได้ต่างกันแค่ไหน ไว้จะเอามาลองทดสอบให้ดูกันต่อไปครับ

ราคาและวันวางจำหน่าย Huawe nova 3 และ nova 3i คาดว่าน่าจะเปิดเผยเร็วๆนี้แล้ว เพราะน่าจะวางขายในเดือนนี้หรือต้นสิงหาคนนี้เลยครับ ยังไงรอติดตามจากพวกเราเร็วๆนี้ได้เลยครับ