ในที่สุดก็ปิดคดีนี้สักทีกับกรณีที่ iPhone ทำงานช้าลงเมื่อแบตเสื่อม ซึ่งเป็นคดีที่ฟ้องร้องกันมาตั้งแต่ปี 2017 ที่ iPhone รุ่นเก่าทำงานช้าลงกว่า 50% ซึ่ง Apple อ้างเพื่อให้ใช้งานได้นานขึ้น โดยรุ่นที่พบปัญหาในตอนนั้นคือช่วง iPhone 6 จนถึง iPhone 7 ล่าสุดทาง Apple ยอมยุติคดีนี้จ่ายค่าปรับเป็นเงินกว่า 113 ล้านเหรียญหรือราว 3,422 ล้านบาท

สำหรับค่าปรับที่ Apple ต้องจ่ายไปนี้ เงินทั้งหมดจะแบ่งกระจายเข้ากับ 34 รัฐของประเทศอเมริกา (เฉพาะแคลิฟอร์เนียได้ไปถึง 24.6 ล้านเหรียญ) เพื่อยุติข้อกล่าวหาที่ว่า ละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ในกรณีลดประสิทธิภาพเครื่องลงจากปัญหาของแบตเตอรี่เสื่อมของ iPhone ซึ่งเป็นการเจตนาเพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ มากกว่าที่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่

อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากที่ Apple ต้องจ่ายค่าปรับที่เป็นมูลค่า 113 ล้านเหรียญแล้ว Apple เองยังต้องแสดงข้อมูลสุขภาพแบตเตอรี่และการจัดการพลังงานของ iPhone ให้กับผู้บริโภคได้รับรู้ด้วย ซึ่งได้ทำไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน ส่วนประเทศไทยถ้าถามว่าจะได้ค่าปรับหรือชดเชยอะไรตรงนี้เหมือนต่างประเทศไหม ก็คงต้องบอกว่าไม่ได้ เพราะไทยเราไม่ได้มีการฟ้องร้องลงชื่อเหมือนต่างประเทศเขานั่นเองครับ

 

ที่มา :  techcrunch, oag.ca.gov