เกม MOBA น้องใหม่ (สำหรับมือถือ) อย่าง League of Legends: Wild Rift เป็นเกมที่กินสเปคค่อนข้างต่ำจนมือถือระดับกลาง ๆ ก็สามารถเปิดโหมดเฟรมเรทสูงขึ้นไปถึง 60FPS ได้ง่ายอยู่แล้ว แต่ล่าสุดได้มีข้อมูลออกมาว่าผู้ใช้งานสามารถดันเฟรมเรทขึ้นไปได้มากกว่านั้นถึง 90 หรือ 120fps ซึ่งวิธีการทำก็ง่ายแสนง่าย แถมไม่ต้อง Root และไม่ต้อง Mod เกมให้ยุ่งยากอีกด้วย

ก่อนจะเริ่มต้นต้องบอกกันก่อนเลยว่า จากที่ทีมงานได้ทำการทดสอบมาแล้วกับมือถือเครื่องแรกคือ Galaxy S20 Ultra ที่ใช้ชิปเซ็ต Exynos 990 กลับไม่สามารถทำได้ แต่เมื่อมาลองกับมือถืออีกคือ Xiaomi Mi10T Pro ที่ใช้เป็นชิป Snapdragon 865 กลับสามารถทำได้ เพราะฉะนั้นอาจจะเป็นที่ตัวชิปเซ็ตก็เป็นได้ สำหรับใครที่ลองแล้วใช้งานได้ก็สามารถคอมเม้นต์บอกด้านล่างได้นะครับ

วิธีดันเฟรมเรทให้มากกว่า 60fps

การปรับ Setting เพื่อเปิดโหมด 120fps จำเป็นจะต้องเข้าไปปรับในโฟลเดอร์ของเกมจริง ๆ ซึ่งสามารถเข้าไปปรับได้ด้วยการเชื่อมต่อเข้ากับเครื่อง PC แล้วเข้าไปใน Folder ของ League of Legends: Wild Rift ซึ่งปกติแล้วจะอยู่ที่ Android > data > com.riotgames.league.wildrift หรือจะใช้ช่อง  Search แล้วพิมพ์ว่า riot ก็ได้ครับ…ง่ายดี

เข้าโฟลเดอร์ Android > data > com.riotgames.league.wildrift

หลังจากเข้าโฟลเดอร์เกมเรียบร้อยแล้ว ให้ผู้ใช้งานเข้าไปยังโฟลเดอร์ดังนี้ files > SaveData > Local แล้วเราจะเป็นโฟลเดอร์ที่มีตัวเลขเยอะ ๆ อยู่ 2-3 โฟลเดอร์ ให้เราเลือกเปิดทีละโฟลเดอร์เพื่อหาไฟล์ที่ชื่อ “Settings”

เลือกไฟล์ Settings ลากมาไว้ที่ Desktop แล้วเปิดด้วย Notepad

ลากไฟล์ Settings ออกมาไว้ที่ Desktop แล้วคลิกขวา Open with ด้วย Notepad จากนั้นหาบรรทัดที่เขียนว่า “frequencyMode”:false/true,” ให้เจอ (ตรงนี้ถ้าหากเราเปิด 60fps เอาไว้มันจะขึ้นคำว่า true และหากปิดไว้จะเป็น false ครับ)

จากนั้นให้เปลื่ยนคำว่า false หรือ true เป็นตัวเลข 0,1,2,3 ตาม fps ที่เราต้องการ โดยตัวเลขแต่ละตัวหมายความว่าดังนี้

0 – 30fps

1 – 60fps

2 – 90fps

3 – 120fps

ยกตัวอย่างเช่นถ้าผู้ใช้งานต้องการเล่นเกมเป็น 90FPS ก็พิมพ์ว่า “frequencyMode”:2″ แทน แล้วกด Save ให้เรียบร้อย จากนั้นก็เอาไฟล์ Settings ลากเข้าไปทับข้างในโฟลเดอร์เดิม แล้วเปิดเกมเล่นได้เลยซึ่งจากที่ทดสอบมายังไม่แน่ใจว่ามือถือรุ่นใดบ้าง ที่สามารถเปิดโหมด 120fps ได้ เพราะจากที่ทดลองกับมือถือ 3 รุ่นได้แก่ Galaxy S20 Ultra (Exynos 990), Xiaomi Mi10T Pro (Snapdragon 865), และ OnePlus 8 Pro (Snapdragon 865) ปรากฎว่าทำได้แค่เฉพาะกับ Mi 10T Pro เท่านั้น

Mi 10T Pro ลองแล้วทำได้จริง

หลังจากทำทุกขั้นตอนเสร็จแล้วก็สามารถเข้าเกมไปทดสอบกันได้เลยว่าได้ 120fps จริง ๆ หรือไม่ โดยสามารถเช็คได้จากหน้าจอตอนเล่นเกมเลยว่ามันขึ้น 120fps หรือเปล่า ซึ่งจากที่ได้ลองแล้วมีความลื่นขึ้นมาก ๆ ในระดับหนึ่งแต่ส่วนตัวคิดว่าไม่ได้ต่างจาก 60fps มากเท่าไหร่แต่ก็สามารถลองดูกันได้ครับ

 

Source: AFKGaming