Huawei เผยรายได้ปี 2018 พุ่งทะลุเกินแสนล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก โดยมีกำไรเพิ่มขึ้นถึง 21% แม้จะถูกสกัดดาวรุ่ง ถูกกีดกันตลาด ไม่สามารถขายสินค้าในสรัฐอเมริกา และยังโดนเพ่งเล็งจากหน่วยงานรัฐบาลอีกต่างหาก ทำให้ตอนนี้ครองอันดับ 2 ในตลาดมือถือโลกติดต่อกันหลายไตรมาสแล้ว
ต้องบอกว่า ปีนี้ Huawei มงลงมากเพราะถึงแม้จะมีสารพัดปัญหาเกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาแต่ก็สามารถพาบริษัทฯ ทะยานขึ้นแท่นมือถืออันดับ 2 ของโลกพร้อมทำยอดขายกว่าแสนล้านดอลล่าร์ชนิดที่ว่ายืนงงในดงยอดขายกันเลยทีเดียว
ข้อมูลจากรอยเตอร์เผยว่า Mr. Guo Ping ประธานบริษัทฯ ได้ประกาศในงานเลี้ยงปีใหม่ของบริษัทฯ ว่า ปีนี้รายได้ของ Huawei มียอดขายสูงถึง หนึ่งแสนเก้าพันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นอัตรส่วนกำไรเพิ่มขึ้นถึง 21% จากปีที่ผ่านมา ด้วยยอดจำหน่ายมือถือทั่วโลกกว่า 200 ล้านเครื่อง ถึงแม้จะถูกกีดกันทางด้านการค้าจากสหรัฐและประเทศพันธมิตรบางประเทศก็ตาม
Huawei ประสบปัญหาทางด้านการทำตลาดในอเมริกามาตั้งแต่ปี 2012 โดยถูกต่อต้านจาก US National security ว่าเป็นภัยคุกคามทางความมั่นคง โดยกล่าวหาว่าอุปกรณ์ของหัวเว่ยอาจถูกติดตั้งมัลแวร์จารกรรมข้อมูลส่งกลับรัฐบาลจีน อย่างไรก็ตามก็ไม่สามารถหยุดยั้งความร้อนแรงของยักษ์ใหญ่จากแดนมังกรอย่างได้ ล่าสุดยอดขายของ Huawei แซงแอปเปิ้ลขึ้นไปเป็นอันดับสองรองจาก Samsung เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เรามาจับตากันต่อไปว่า Huawei จะสามารถแก้ไขวิกฤติการที่กำลังผเชิญนี้อย่างไร เช่นเดียวกันในปี 2019 นี้เราก็อยากเห็นนวัตกรรมใหม่ๆ ของมือถือจากค่ายนี้เช่นกัน
ที่มา gizmochina
รายได้เพิ่มสูงขึ้นเกือบ หมื่นเจ็ดพันล้าน แต่อัตราส่วนกำไรเพิ่มขึ้น/ปี ตัวเลข ลดลง7%
ปีหน้า หัวเว่ย อาจจะเน้น ตลาดรุ่นสูงมากยิ่งขึ้นครับ(ผู้บริหารเคยออกมาเกริ่นไว้แล้ว)
รุ่นถูก ได้ตัวเลขยอดเครื่อง แต่แทบไม่มีกำไร
ปล รายได้จริง 100,900 ล้าน หัวกระทู้บอก เกือบ 2 แสนล้าน คนเขียนน่าจะตาลายครับ
ผมว่าก็ดีสำหรับผู้บริโภคนะถ้าสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีและมีส่วนต่างกำไรน้อย
ไม่ใช่ผู้ซื้อทุกคนหรอกที่จะอยากจ่ายเงินซื้อสินค้าที่มีส่วนต่างกำไรมากเกินไป
เค้าจะค่อยๆปรับขึ้นครับ เหมือนที่เมท ตัวใหม่ปรับขึ้นมาจากรุ่นเดิม 4000 เพื่อทดส่วนต่างกำไรที่ควรได้ครับ
ถ้าเขาจะปรับกำไรขึ้นมันก็เรื่องของเขาครับ ระบบ Android มันไม่ได้ผูกขาดอะไรเท่าไหร่มีทางเลือกมากมายอยู่แล้ว
รุ่นไหนที่คิดว่าแพงเกินไปก็มีรุ่นอื่นที่เหมาะสมกับเรามากกว่าให้มอง การเลือกมันก็ไปสิทธิพื้นฐานของผู้ซื้อทุกคน
ส่วนตัวผมไม่เคยสนใจเลยว่าบริษัทพวกนี้จะมีกำไรแค่ไหน ผมมองที่ผลิตภัณฑ์ของเขามากกว่าว่าดีพอสมราคาไหม
ซื้อของที่ส่วนต่างกำไรมากจนแพงเกินควรมันดูไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวครับ
ถั่วต้มครับ เป็นแนวทางที่ดีสำหรับแบรนด์จีน
มิน่าโดนสกัดทุกทาง
ดูจากปีแล้ว ไม่ใช่ปธน.ทรัมป์ แต่เป็นสมัยโอบาม่า ก็ไม่ใช่กีดกันซะทีเดียวมั้ง ถ้าปธน. 2 คนแล้วยังคงนโยบายเดิมเนี่ย
แล้วเราไม่ใช่คนที่มีความสามารถในการตรวจสอบว่ามันส่งข้อมูลจริงไม่จริง ก็อย่าไปมโนเข้าข้างใดข้างนึงเลยดีกว่า