ในตอนนี้เราก็รู้วันเปิดตัวของ Huawei Mate 10 กันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะเป็นวันที่ 16 ตุลาคม โดยทั้งสเปคและภาพเรนเดอร์ที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ของ Mate 10 ก็ดูน่าสนใจมาก มาวันนี้เราก็มีข่าวหลุดสเปคของ Mate 10 โผล่ออกมาอีกแล้ว ซึ่งข่าวในครั้งนี้บอกว่าเลนส์หลักของกล้องหลังคู่จะมีรูรับแสงกว้าง f/1.6

ข่าวหลุดในครั้งนี้ก็ไม่ได้มาจากใครที่ไหน แต่ก็คือนาย Evan Blass เจ้าเก่านั่นเอง โดยได้ออกมาเผยสเปคของ Mate 10 โค้ดเนม Blanc และ Alps ซึ่ง Blanc ก็คาดว่าน่าจะเป็น Mate 10 Pro ส่วน Alps ก็น่าจะเป็น Mate 10 Lite

 

Blanc

สำหรับ Mate 10 โค้ดเนม Blanc นั้นจะเป็นรุ่นชูโรงของตระกูล Mate 10 โดยมาพร้อมกับชิป Kirin 970 และหน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.99 นิ้ว ที่ความละเอียด 2880 x 1440 พิกเซล ซึ่งก็เท่ากับอัตราส่วน 18:9 นั่นเอง พร้อมกันนี้ยังมาพร้อมกับ RAM 6GB หน่วยความจำภายใน 64GB หรือ 128GB

สำหรับแบตเตอรี่ของ Blanc จะมีความจุสูงถึง 4,000  mAh แต่ว่าตัวเครื่องจะมีความหนาเพียงแค่ 7.5 มิลลิเมตร เท่านั้น แต่ที่น่าสนใจก็คือกล้องหลังคู่ 12 ล้านพิกเซล + 20 ล้านพิกเซล ที่ร่วมมือกันพัฒนากับทาง Leica โดยครั้งนี้กล้องหลักจะมาพร้อมกับระบบกันสั่น OIS และจะมีรูรับแสงกว้าง f/1.6 แบบเดียวกับของ LG V30 นะแหละครับ ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล

อีกอย่างหนึ่งที่ Huawei จะเสริมมาให้กับ Blanc ก็คือ การกันน้ำกันฝุ่นตามาตรฐาน IP68 แถมยังรองรับ LTE Cat. 16 อีกด้วย ซึ่งตามที่นาย Evan Blass นั้นบอกไว้คือ Huawei จะเริ่มวางจำหน่าย Blanc ในช่วงเดือนธันวาคม โดยที่จะมาพร้อมกับ Android 8.0 Oreo เลย

 

Alps

ในส่วนของ Alps นั้นดูเหมือนจะเป็นรุ่นที่ถูกลดสเปคลงมาให้เป็นเหมือนเรือธงขนาดย่อม โดยหน้าจอนั้นถูกเปลี่ยนมาเป็น IPS LCD 5.88 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล หรือก็คืออัตราส่วน 16:9 เท่านั้น นอกจากนี้ก็ยังมีการลด RAM ลงมาเหลือแค่ 4GB และคงจะมีแค่รุ่น 64GB อย่างเดียว

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยังเหมือนกันก็คือ ชิป Kirin 970 แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh และกล้องหลังคู่ 12 ล้านพิกเซล + 20 ล้านพิกเซล ส่วนโมเด็มนั้นรองรับแค่ LTE Cat. 12

สำหรับในวันที่ 16 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ คาดว่าเราน่าจะได้เห็นทั้ง Blanc และ Alps รวมไปถึง Marcel ที่คาดว่าน่าจะเป็น Mate 10 รุ่นธรรมดาด้วยเช่นเดียวกัน แต่ว่า Alps นั้นจะเริ่มวางจำหน่ายก่อน ซึ่งก็คงจะเป็นในช่วงปลายเดือนตุลาคมนั่นเองครับ

 

ที่มา: VentureBeat via 9to5Google