ในที่สุดผลการทดสอบประสิทธิภาพกล้องมือถือจากเว็บไซท์ยอดนิยมอย่าง DxOMark ก็ได้เผยคะแนนของมือถือเรือธงระดับพรีเมี่ยมที่พึ่งเปิดตัวไปได้ไม่ทันไร อย่าง Huawei Mate 10 Pro ก็ออกมาแล้ว กับคะแนนที่ค่อนข้างสูงถึง 97 คะแนน แซงคู่แข่งอย่าง Note 8 และ iPhone 8 Plus ที่ได้คะแนนเท่ากัน (94 คะแนน) ร่วงลงไปอยู่อันดับ 3 แต่ยังคงเป็นรองแค่ Pixel 2 มือถือกล้องเดี่ยว (แต่ AI เทพ) แค่ 1 คะแนนเท่านั้น

จากคะแนนประสิทธิภาพกล้องของ Huawei Mate 10 Pro ที่ DxOMark ให้มาถึง 97 คะแนนนั้น พบว่าในส่วนของคะแนนภาพนิ่งได้ไปถึง 100 คะแนน เลยทีเดียว (มากกว่า Pixel 2 ที่ได้ไป 99 คะแนน iPhone 8 Plus 96 คะแนน และเท่ากับ Note 8 ที่ 100 คะแนน) ส่วนคะแนนการถ่ายวิดีโออยู่ที่ 91 คะแนน 

โดย DxOMark ได้ยกให้ Huawei Mate 10 Pro มีจุดแข็งอยู่ที่รูรับแสง (aperture) ที่กว้างถึง f/1.6 และค่า exposure ที่ทำได้ดีในที่แสงน้อย ให้ภาพที่มีความสว่างแต่สีสันของวัตถุยังคงสดใส และเก็บรายละเอียดต่างๆได้ดี แถมยังมี Autofocus ที่รวดเร็วและแม่นยำ

ในส่วนของการซูม Mate 10 Pro จะใช้เซ็นเซอร์กล้อง monochrome ที่มีความละเอียด 20MP เพื่อเก็บภาพแบบความละเอียดสูงและเอามาขยาย Digital Zoom ให้กลายเป็นขนาด 2X ทำให้ภาพที่ได้ไม่คมชัดเหมือนกับมือถือที่ใช้การซูมแบบ optical (อย่าง Note 8 และ iPhone 8 Plus) และความคมชัดจะยิ่งลดลงไปอีกเมื่อทำการซูมมากกว่า 2X

และเนื่องจาก Huawei Mate 10 Pro มีรูรับแสงที่กว้างถึง f/1.6 ทำให้ Mate 10 Pro สามารถถ่ายภาพโหมด Wide Aperture (หน้าชัดหลังเบลอ) ได้เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น เพราะกล้องสามารถแยกแยะระดับความลึกของวัตถุได้อย่างแม่นยำยิ่งกว่า iPhone 8 Plus ในโหมด Portrait

ส่วนการถ่ายวิดีโอของ Mate 10 Pro ที่ได้คะแนนไป 91 คะแนนนั้น พบว่าให้ภาพที่มีความสว่างและให้สีได้ดีในที่แสงน้อย, ให้ white balance ได้แม่นยำในทุกสภาพแสง, Autofocus รวดเร็วและแม่นยำ และระบบกันสั่น video stabilization ที่มีประสิทธิภาพค่อนข้างดี แต่ก็ยังมีอาการสั่นไหวให้เห็นบ้าง

สรุปว่า Huawei Mate 10 Pro เป็นมือถืออีก 1 รุ่นที่ได้คะแนนจาก DxOMark ในการถ่ายภาพนิ่งไป 100 คะแนน เท่ากับ Note 8 ส่วนคะแนนการถ่ายวิดีโอก็ได้ไปถึง 91 คะแนน แต่ในการให้คะแนนของ DxOMark นี้ก็ยังไม่ได้กล่าวถึงความสามารถของระบบ AI ที่ Huawei นำมาใช้ประมวลผลร่วมกับเซ็นเซอร์กล้อง ก็เลยไม่รู้ว่าเจ้า AI ของ Mate 10 Pro นี้จะเจ๋งพอกับ AI ของ Pixel 2 รึเปล่า

 

ที่มา : DxOMark