วันที่ 19 กันยายน 2019 หรืออีกไม่กี่สัปดาห์ถัดจากนี้ มือถือเรือธงประจำค่ายอย่าง Huawei Mate 30 จะได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมาก็มีข่าวลือและภาพหลุดต่างๆ ออกมามากมาย ที่สำคัญคือ ข่าวลือที่ Google ออกมาบอกว่า Huawei Mate 30 series จะไม่สามารถใช้แอปและบริการต่างๆ ของ Google ได้ ล่าสุดไม่ต้องลือกันแล้วเพราะ Huawei ออกมายืนยันเองว่าใช้ไม่ได้จริงๆ
ในการประชุมงาน IFA 2019 ที่ผ่านมา ดร. Wang Chenglu ประธานฝ่ายซอฟต์แวร์ผู้บริโภคของ Huawei ได้กล่าวว่า “Mate 30 จะไม่ได้มาพร้อมกับบริการ และแอปของ Google บริษัทอยู่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา และหาทางเลือกใหม่ที่จะมาทดแทน เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ประสบการณ์ในการใช้มือถือเหมือนเดิม ซึ่งนั่นรวมถึงการแอปนำทาง ที่อาจจะต้องเลือกใช้ผู้ให้บริการรายอื่น” โดยแอปและบริการหลักๆ ของ Google ที่ใช้ไม่ได้จะมีทั้ง Google Maps, Calendar, Google Drive, Google Assistant และ Gmail เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดเป็นแอปที่ปกติแทบจะมีใน Android ทุกเครื่องอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามแม้ว่า Mate 30 จะไม่สามารถใช้แอปของ Google ได้ แต่จะยังคงทำงานบน Android 10 เวอร์ชันล่าสุดต่อไป เพราะอย่างที่รู้กันว่า Harmony OS ที่เพิ่งเปิดตัวมานั้นก็เหมือนจะเป็นแค่ระบบ IoT ไม่ได้นำมาใช้งานกับสมาร์ทโฟนในอนาคตอันใกล้นี้แน่ๆ
ล่าสุดมีรายงานข่าวจาก Nikkei Asian Review ระบุว่า Huawei Mate 30 series จะเป็นมือถือเครื่องแรกของค่ายที่จะไม่ได้ใช้ Google Services และอาจจะตามมาด้วย Mate X มือถือจอพับเป็นรุ่นที่สอง โดยจากเหตุการณ์นี้เองนักวิเคราะห์ระบุว่ายอดขายสมาร์ทโฟนของ Huawei จะลดลงอย่างน้อย 10 ล้านเครื่องในปี 2019 หรือยอดขายที่ส่งออกทั่วโลกลดลง 30% ซึ่งเป็นความเสียหายที่ค่อนข้างมากเลยทีเดียว
เบื้องต้น Huawei ได้พูดถึงวิธีแก้ปัญหาในเบื้องต้นว่าหากผู้ใช้งานอยากจะใช้บริการ Google Sevices ต่างๆ นั้น คงจะต้องหาแอปและบริการของ Google มาติดตั้งกันเอาเอง ซึ่งเอาเข้าจริงก็ไม่รู้ว่าจะใช้งานได้เต็มที่หรือเปล่า หรือจะมีปัญหาไหม และที่สำคัญที่สุดผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่รู้วิธีติดตั้งอะไรแบบนี้ด้วย (แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าพนักงานขายน่าจะพร้อมให้ความช่วยเหลือ) งานนี้ใครที่กำลังกำเงินรอจะซื้อ Mate 30 อยู่คงต้องรอติดตามข่าวกันอย่างใกล้ชิดแล้วล่ะครับ
ถ้าลดราคาลงมาเยอะๆ แล้วมาลง Google app เอาเองก็น่าสนใจดีนะครับ แต่ก่อนเล่น Android rom จีน ก็ลงเองกันได้ 555
ใช้ google services ไม่ได้นี้ก็แทบจะเหมือนไม่ได้ใช้ android แล้วอะมั้งนั้น 🙂 🙂
app ธนาคาร ยังใช้ได้ก็ ok
ถ้าโหลดจาก google play ได้ก็สบายใจได้หน่อย.
คำถามแรกคือ เอามันมาลง google services เองได้เหมือนพวก Mi ROM จีน มั้ยครับ?
ส่วนตัวผมคิดว่าคำว่า "ใช้ไม่ได้" มันให้คนละความหมายกับคำว่า "ไม่ได้ติดตั้งมาให้" นะครับ
การใช้คำว่าใช้ไม่ได้เนี่ยมันทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดมากเกินไปหน่อย เช่น เข้าใจว่า่เข้าเว็บ Google หรือเว็บ Youtube ไม่ได้ อะไรทำนองนั้นเลย
เห็นด้วยครับ คนละความหมายกันเลย คำอธิบายภาพบิดเบือนมาก
ไม่มีปัญหาเลยหา "ไม่ได้ติดตั้งมาให้" สำหรับคนที่พอจะทำเป็น
เหมือนซื้อ Huawei รอมจีน มาก็มี เมนูไทย คนจะใช้ google service ก็ต้องหาลงเอาเอง
..ยอมรับว่าซื้อจากจีนตรงๆคือ ราคาถูกมาก แต่ไม่พูดถึงเรื่องความปลอดภัยนะ ^^"
แต่สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป คงเป็นปัญหาใหญ่เลยละ ในการตัดสินใจเลือกซื้อ
แอพทางเลือก กับ เรื่องราคา คงเป็นปัจจัยสำคัญของ Huawei ต่อไปเลยนะ
ถ้าแค่ไม่ได้ติดตั้งมาด้วย ก็ยังพอแก้ไขได้ แต่ถ้าถึงกับขนาดใช้งานด้วยไม่ได้เนี่ย สนุกล่ะครับ
น่าจะแก้ข้อความภาพหลักหน่อยนะครับ แบบนี้พวกอ่านแต่พาดหัวข่าวแล้วแชร์กันเยอะ ไม่ใช่ติ่ง Huawei นะ แต่รำคาญพวกชอบแซะค่อยมือถือด้วยข้อมูลผิดๆ
ผมอยากรู้ว่า ถ้า Google Play ใช้ไม่ได้ แล้วพวกแอพธนาคารต่างๆ จะโหลดมาลงเองได้มั้ยครับ หรือถ้าโหลดมาลงเองได้ จะอัพเดทยังไงครับ หรือต้องโหลดตัวอัพเดทมาลงเองอีก?
ปัญหาใหญ่เลยละครับเพราะถือเป็นปัจจัยหลักไปสะแล้ว แอพธนาคารเหล่านี้ แค่ Root เครื่องก็ใช้ไม่ได้แล้ว
อารมณ์เหมือนซื้อ Huawei กับ Honor ที่ไม่มีรอม Global วางขายเฉพาะในจีนรึเปล่านะ
พอจะหามาติดตั้งเองได้แต่ไม่ Full Service 100%
ถ้าจะให้ลงเอง ก็ต้องยอมปลดล็อค bootloader ให้ก่อน
แต่ huawei หลัง ๆ นี้ ไม่ยอมให้ปลดล็อค bootloader เลย จะลง custom rom นี่แทบเป็นไปไม่ได้
คงต้องตั้งหน่วยดูแลเรื่องซอฟแว์แต่ละประเทศไปเลย มีบอร์ดไว้คอยแก้ปัญหา คนจีนยังใช้งานมือถือกันได้ปกติ
เหมือนที่พูดหลายรอบ ยุคนี้เดินหมากผิดตาเดียวแพ้ทั้งกระดาน
ยังไม่กล้าฟันธงว่าแผนนี้จะพัง เพราะฟลุ้คๆกลายเป็นล้มยักษ์ มันออกได้ทุกหน้า
เมื่อ 9 ปีที่แล้ว ผมยังเคยห้ามพี่ผมใช้มือถือ android เด็ดขาด ให้ใช้มือถือ symbian เท่านั้น
โดยให้เหตุผลว่ามือถือ android เป็นแค่ของสำหรับพวกชอบลองของแปลกที่ไร้อนาคต
อย่างอื่นพอทดแทนได้
แต่ Youtube กับ Google Map 2 อย่างนี้ขาดไม่ได้จริงๆ