เปิดตัวไปเรียบร้อยแล้วสำหรับมือถือเรือธงรุ่นล่าสุดซีรีส์ Huawei P30 ซึ่งคราวนี้ก็เช่นเคยด้วยการเปิดตัวทั้งรุ่นธรรมดา P30 และรุ่นท็อป P30 Pro ที่มีความแตกต่างกันเองทั้งในด้านสเปคและฟีเจอร์ต่างๆ แต่ถ้าหากเอาไปเทียบกับเรือธงรุ่นอื่นๆ ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น Galaxy S10 / S10+ และ iPhone XS / XS Max จะมีอะไรแตกต่างกันบ้าง.. มาดูกัน
ขอเริ่มด้วยมือถือเรือธงระดับท็อปอย่าง Huawei P30 Pro ที่ยังคงมากับกล้องหลัง 3 ตัวเหมือนกับรุ่นที่ผ่านมา (Mate 20 และ P20) แต่ที่พิเศษขึ้นมาก็คือเซ็นเซอร์แบบ ToF ที่จะเข้ามาช่วยในการตรวจวัดความลึกของพื้นหลัง ช่วยให้การถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอเป็นธรรมชาติกว่า แถมด้วยกล้องซูมสุดเทพที่ไปไกลได้มากถึง 5X แบบออพติคอล และบวกกับระบบซูมไฮบริดอีกเป็น 10X แบบไม่เสียความละเอียด ส่วนใครอยากจะซูมมากกว่านี้ก็ดันไปได้สุดถึง 50X แบบดิจิตอล ได้เลย
Huawei P30 Pro | Galaxy S10+ | iPhone XS Max | |
หน้าจอ | หน้าจอ OLED ขนาด 6.47 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 รองรับการแสดงผล HDR | Curved Dynamic AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด 2K+ รองรับการแสดงผล HDR10+ | Super AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2688 x 1242, รองรับการแสดงผล Dolby Vision / HDR10 |
CPU | Kirin 980 | Exynos 9820 | A12 Bionic |
GPU | Mali-G76 | Mali-G76 | Apple Designed |
RAM | 6GB / 8GB | 8GB / 12GB | 4GB |
ความจุ | 128GB / 256GB / 512GB รองรับ Nano Memory Card 128GB | 128GB / 512GB / 1TB รองรับ MicroSD Card 512GB | 64GB / 256GB / 512GB |
กล้องหลัง | เลนส์ซูม 5X 8MP (f/3.4) OIS เลนส์ Wide 40MP (f/1.6) OIS เลนส์ Ultra Wide 20MP (f/2.2) เซ็นเซอร์ ToF | เลนส์ซูม 2X 12 MP (f/2.4), OIS เลนส์ Wide 12MP (f/1.5, f/2.4), OIS เลนส์ Ultra Wide 16MP (f/2.2) | เลนส์หลัก 12MP (f/1.8), OIS เลนส์ซูม 12MP (f/2.4), OIS |
กล้องหน้า | 32MP (f/2.0) | 10MP (f/1.9) + 8MP (f/2.2) | 7MP (f/2.2) |
ระบบเสียง | ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม, ลำโพงตัวเดียว, Dolby Atmos | รูหูฟัง 3.5 มม., ลำโพงคู่สเตอรีโอ, Dolby Atmos | ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม., ลำโพงคู่สเตอรีโอ |
เซ็นเซอร์ | Gravity Sensor, Ambient Light Sensor, Proximity Sensor, Gyroscope,Compass, Fingerprint Sensor (บนหน้าจอ), Hall sensor, laser sensor, Barometer, Infrared sensor, colour temprature sensor | Accelerometer, Barometer, Ultrasonic Fingerprint (บนหน้าจอ), Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, Heart Rate Sensor, Proximity Sensor, | Face ID, accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, BT 5.0 | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, dual-band, BT 5.0 | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, BT 5.0 |
แบตเตอรี่ | 4,200 mAh รองรับ Super Charge (40W), Wireless Quick Charge (15W) | 4,100 mAh รองรับ Wireless Power Share, Fast Wireless Charge 2.0 | 3174 mAh รองรับชาร์จไว 15W, ชาร์จไร้สาย |
มาตรฐานกันน้ำ | IP68 (กันน้ำลึก 1.50 ม. เป็นเวลา 30 นาที) | IP68 (กันน้ำลึก 1.50 ม. เป็นเวลา 30 นาที) | IP68 (กันน้ำลึก 1.50 ม. เป็นเวลา 30 นาที) |
ราคา | 8GB / 128GB : ประมาณ 28,560 บาท 8GB / 256GB : ประมาณ 31,200 บาท 8GB / 512GB : ประมาณ 35,680 บาท (ราคาประมาณของประเทศไทย) | 8GB / 128GB : 35,900 บาท 8GB / 512GB : 44,900 บาท 12GB / 1TB : 55,900 บาท | 64GB : 40,900 บาท 256GB : 47,590 บาท 512GB : 56,900 บาท |
สำหรับมือถือในระดับท็อปทั้ง 3 รุ่นนี้ ทางด้าน iPhone XS Max อาจจะเสียเปรียบกว่าใครเค้าเพราะว่าเปิดตัวมาได้ซักพักแล้ว เรื่องกล้องอาจจะสู้มือถือเรือธงรุ่นใหม่ๆ ยากอยู่ แต่ถ้าเป็นเรื่องของความเร็วแรงในด้านการใช้งานและโดยเฉพาะการเล่นเกมนี่ต้องยกให้เค้าเลย
ส่วนใครที่ต้องการมือถือที่มีความสามารถรอบด้านก็ต้องหันมาทาง Galaxy S10+ ที่มีดีทั้งกล้องหน้าและหลัง, หน้าจอสวยงามขั้นสุดแถมความละเอียดได้ถึง 2K+, ระบบเสียงที่มีรูหูฟังและลำโพงสเตอรีโอ และยังรองรับ WiFi 6 อีกด้วย
แต่ถ้าใครที่อยากได้มือถือกล้องเทพสุดๆ ในตอนนี้ก็ต้องยกให้ Huawei P30 Pro ที่ขึ้นแท่นมือถือกล้องงามอันดับในเว็บไซท์ DxOMark ไปเรียบร้อยแล้วด้วยคะแนนรวมถึง 112 คะแนน (เอาจริงๆ แค่เรื่องกล้องอย่างเดียวนี่ก็ทำเอาหลายคนกระเป๋าตังค์สั่นไปตามๆ กันแล้ว) แถมยังมีแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่าและชาร์จเร็วสุดๆ อีกด้วย แต่จะเสียเปรียบในเรื่องระบบเสียงที่ไม่มีทั้งรูหูฟัง 3.5 มม. แถมลำโพงก็ยังเป็นตัวเดียว
Huawei P30 | Galaxy S10 | iPhone XS | |
หน้าจอ | หน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 รองรับการแสดงผล HDR | Curved Dynamic AMOLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2K+ รองรับการแสดงผล HDR10+ | OLED 5.8 นิ้ว ความละเอียด 2436 x 1125, รองรับการแสดงผล Dolby Vision / HDR10 |
CPU | Kirin 980 | Exynos 9820 | A12 Bionic |
GPU | Mali-G76 | Mali-G76 | Apple Designed |
RAM | 6GB / 8GB | 8GB | 4GB |
ความจุ | 128GB รองรับ Nano Memory Card 128GB | 128GB / 512GB รองรับ MicroSD Card 512GB | 64GB / 256GB / 512GB |
กล้องหลัง | เลนส์ซูม 3X 8MP (f/2.4) OIS เลนส์ Wide 40MP (f/1.8) เลนส์ Ultra Wide 16MP (f/2.2) | เลนส์ซูม 2X 12 MP (f/2.4), OIS เลนส์ Wide 12MP (f/1.5, f/2.4), OIS เลนส์ Ultra Wide 16MP (f/2.2) | เลนส์หลัก 12MP (f/1.8), OIS เลนส์ซูม 12MP (f/2.4), OIS |
กล้องหน้า | 32MP (f/2.0) | 10MP (f/1.9) | 7MP (f/2.2) |
ระบบเสียง | รูหูฟัง 3.5 มม., ลำโพงตัวเดียว, Dolby Atmos | รูหูฟัง 3.5 มม., ลำโพงสเตอรีโอ, Dolby Atmos | ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม., ลำโพงคู่สเตอรีโอ |
เซ็นเซอร์ | Gravity Sensor, Ambient Light Sensor, Proximity Sensor, Gyroscope,Compass, Fingerprint Sensor (บนหน้าจอ), Hall sensor, laser sensor, Barometer, Infrared sensor, colour temprature sensor | Accelerometer, Barometer, Ultrasonic Fingerprint (บนหน้าจอ), Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, Heart Rate Sensor, Proximity Sensor, | Face ID, accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, BT 5.0 | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, dual-band, BT 5.0 | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, hotspot, BT 5.0 |
แบตเตอรี่ | 3,650 mAh รองรับ Super Charge (22.5W) | 3400 mAh รองรับ Wireless Power Share, Fast Wireless Charge 2.0 | 2658 mAh รองรับชาร์จไว 15W, ชาร์จไร้สาย |
มาตรฐานกันน้ำ | IP53 (ป้องกันละอองน้ำ) | IP68 (กันน้ำลึก 1.50 ม. เป็นเวลา 30 นาที) | IP68 (กันน้ำลึก 1.50 ม. เป็นเวลา 30 นาที) |
ราคา | ประมาณ 22,800 บาท (ราคาประมาณของประเทศไทย) | 8GB / 128GB : 31,900 บาท | 64GB : 37,399 บาท 256GB : 41,900 บาท 512GB : 52,900 บาท |
เหล่ามือถือเรือธงรุ่นธรรมดาทั้ง 3 รุ่นนี้ ก็อีกเช่นเคยที่ iPhone XS จะเสียเปรียบกว่าเค้าเพราะเปิดตัวมาก่อน แถมยังมีกล้องหลังแค่ 2 ตัว แต่ก็จะได้เปรียบกว่า P30 อยู่ตรงที่มีระบบกันสั่นแบบ OIS ติดมาให้ทั้ง 2 เลนส์ และยังได้ลำโพงสเตอรีโอเสียงใสๆ มาด้วย ส่วนเรื่องความแรงก็ไม่ต้องห่วงเพราะสเปคไม่ต่างจากรุ่นพี่ XS Max เลย
สำหรับ Galaxy S10 ก็มีสเปค + ฟีเจอร์หลายๆ อย่างที่แทบจะไม่ต่างจาก S10+ จะมีก็แค่กล้องหน้าที่ลดเหลือแค่ตัวเดียว (แต่ก็ยังคงถ่ายเซลฟี่ได้สวยงามถูกใจหลายๆ คนเหมือนเดิม)
และสุดท้ายกับ Huawei P30 ที่โดนลดสเปคบางอย่างลงไปจากรุ่นพี่ทั้งเซ็นเซอร์ ToF, เลนส์ซูมออพติคอลจาก 5X เหลือ 3X, มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นที่ลดลงเหลือ IP53 แต่ยังคงได้กล้องหลักเซ็นเซอร์เดียวกัน ความละเอียด 40MP (แต่ค่ารูรับแสงแคบกว่า), กล้องเซลฟี่ 32MP และระบบชาร์จที่ยังเร็วกว่าชาวบ้านเค้าอยู่ (ในมือถือระดับเดียวกัน) แถมยังได้รูหูฟัง 3.5 มม. มาให้อีกด้วยนะ
เอามาเทียบให้ดูกันแบบนี้แล้ว ก็น่าจะพอทำให้หลายๆ คนที่กำลังเล็งอยากจะถอยมือถือเรือธงซักเครื่องพอใช้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจได้บ้างนะครับ ซึ่งแน่นอนว่าความต้องการและการใช้งานจริงของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอยากได้มือถือกล้องเทพ บางคนอยากได้มือถือครบเครื่อง บางคนอยากได้มือถือแรงๆ ก็ต้องลองเอาไปเทียบกันดูระหว่างราคาและสเปค+ฟีเจอร์ที่เราต้องการ ว่ารุ่นไหนจะเหมาะกับเราที่สุดนะครับ แต่ตอนนี้เราอาจจะยังฟันธงไม่ได้ว่า Huawei P30 และ P30 Pro จะมีดีและคุ้มค่าขนาดไหน ก็ต้องรอทางเรารีวิวแบบละเอียดๆ รวมถึงรอราคาในบ้านเรากันอีกทีนะครับ
ถ้าแอปเปิ้ลเอารูหูฟังกลับมาในรุ่นต่อไปคงฮา